เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเบื่อกับชื่อพระราชวังแวร์ซาย (Chateau de Versailles), พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) หรือแม้กระทั่งพระราชวังฟงแตนโบล (Chateau de Fontainebleau) ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนั้นก็ลองมาที่นี่เลย ที่ปราสาทชองบอร์ด (Chateau de Chambord) ที่ที่ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นปราสาท แต่ก็เป็นปราสาทที่แตกต่างจากที่อื่นแน่ๆ ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ใจกลางลุ่มแม่น้ำลัวร์ ระหว่าง Sully-sur-Loire และ Chalonnes เป็นปราสาทที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในพื้นที่นี้เลยทีเดียว
ที่นี่มีห้องทั้งหมด 400 ห้องและบันไดมากถึง 28 ทอด ลักษณะเด่นของปราสาทนี้ก็คือสวนหย่อมเขียวชอุ่มที่เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวในทุกๆปี
ปราสาทแห่งนี้สร้างโดยกษัตริย์ฟรานซิสที่ 1 (Francis I) ของฝรั่งเศสโดยใช้เวลาสร้างทั้งสิ้น 28 ปี ปราสาทแห่งนี้แตกต่างจากปราสาทอื่นๆตรงที่สถานที่แห่งนี้มีปรโยชน์ใช้สอยทางการทหาร และเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวยและอำนาจนั่นเอง ปราสาทแห่งนี้มักจะใช้เป็นสถานที่พักผ่อนเพื่อการล่าสัตว์ของกษัตริย์ฟรารซิสนั่นเอง
บริเวณโดยรอบของปราสาทนั้นเป็นพื้นที่สวนและป่าไม้ขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย
ว่ากันว่าสถาปัตยกรรมเรเนซองส์ของปราสาทแห่งนี้เป็นอิทธิพลมาจากลีโอนาโด ดาวินชี ซึ่งนำเอาสัญลักษณ์และรูปทรงต่างๆในสมัยกลางของฝรั่งเศสมารวมกับสมัยฟื้นฟูศิลปะอย่างเรเนซองส์
เอกลักษณที่โดดเด่นของบันไดโค้งนับว่าเป็นวิวัฒนาการสำคัญของสถาปัตยกรรมในสมัยนั้น ซึ่งตามคำบอกเล่านั้นต้องขอบคุณลีโอนาโดที่คิดคำนวณสัดส่อนอย่างลงตัวเพื่อการก่อสร้างบันไดนี
ภายในปราสาทมีการเก็บรักษาพรมและเฟอร์นิเจอร์แบบออริจินัลไว้เป็นอย่างดี โดยก้องที่เห็นอยู่นี้เป็นห้องนอนของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซื่งตกแต่งด้วยโคมไฟระย้าที่สวยงาม เฟอร์นิเจอที่หรูหรานี้เป็นงานฝีมือจากช่างในสมัยนั้นซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรำรวยของราชวงศ์ฝรั่งเศสอย่างชัดเจน
ภายในปราสาทมีห้องพักย่อยๆมากกว่า 20 ห้องซึ่งตกแต่งแบบเรียบง่ายและอบอุ่น เจ้าของปราสาทมีการเปลี่ยนมือเรื่อยมา แต่โดยส่วนใหญ่แล้วปราสาทแห่งนี้ก็มักจะถูกใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยแขกของเจ้าปราสาทก็จะมีโอกาสได้เข้าไปพักในห้องสวยๆดังที่เห็นในภาพ
ระหว่างทางเดินที่ทอดยาวไปยังส่วนรับรองส่วนหลัก คุณจะได้พบกับห้องสวดมนต์ห้องเล็กๆของปราสาทซึ่งมีวิวทอดไปยังหมู่บ้านเล็กๆด้านนอก
หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับปราสาทแห่งนี้มีความน่ารักและมีเสน่ห์ ที่น่าหลงใหล โบสถ์ขนาดเล็กนั้นควรค่าอย่างยิ่งสำหรับการเข้าไปเยี่ยมชม โบสถ์นี้ตกแต่งด้วยเพดานสีฟ้าซึ่งให้ความรู้สึกที่อบอุ่น เเละเงียบสงบ
ด้านนอกปราสาท คุณจะได้พบกับคาเฟ่และตลาดขนาดเล็กที่มีสินค้าเเละของฝากสไตล์ฝรั่งเศสวางขาย หลังจากเดินเที่ยวทั่วปราสาทแล้ว การลงมานั่งพักผ่อน จิบกาแฟมองวิวของปราสาทจากอีกมุมหนึ่งก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
หากมีเวลาเหลือ เราขอแนะนำให้เข้าไปเยี่ยมชมสวนขนาดใหญ่ของปราสาทให้ทั่วถึง นอกจากเรายังได้ยินมาอีกว่าขนม madeleines ของที่นี่นั้นรสชาติดีสุดๆ หากมีโอกาสได้ลองก็ต้องบอกว่าไม่ควรพลาด
เรื่อง: Supawadee Pinkhao
ภาพ: Pierre Ieong