Étretat เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ในเขตเมือง Seine-Maritime แคว้น Normandy (นอร์มังดี) ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักผ่อน อยู่ห่างจาก Le Havre ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 32 กิโลเมตร และยังเป็นเมืองที่อยู่ในภาพวาดของศิลปินชื่อดังอย่าง Gustave Courbet และ Claude Monet อีกด้วย
เมือง Étretat ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงในการเดินทางจากมหานครปารีส อาจะฟังดูนาน แต่บอกเลยว่าคุ้มมากๆ ด้วยวิวที่อยู่ตรงหน้าแบบที่มองดูเท่าไรก็น่าจะไม่พอเสียที บวกกับลมโชย อากาศเย็นสบายริมทะเลแบบนี้ ไม่อยากจะขยับไปทางไหนเลยจริงๆ
สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเมือง Étretat นี้คือ The White Chalk Cliffs หน้าผาหินโค้งสีขาวที่มีทั้งหมด 3 หน้าผา และ L'Aiguille หรือ The Needle หินสีขาวที่ชี้ขึ้นฟ้า 70 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
2 ใน 3 หน้าผาหินโค้งของเมือง Porte d'Aval และ Porte d'Amont นั้นสามารถมองเห็นได้จากที่ริมชายหาด ส่วน The Manneporte หน้าผาหินโค้งที่ 3 ที่ใหญ่ที่สุดนั้น ไม่สามารถมองเห็นได้จากริมชายหาด ถ้าอยากเห็นหน้าผาหินโค้งอีกอันที่ซ่อนตัวอยู่อาจจะต้องใช้ความพยายามเสียหน่อย แต่การนั่งอยู่ที่ริมชายหาด ตากแดดอ่อนๆ เท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการพักผ่อนในวันหยุด
ถ้าหากใครเดินทางมาเที่ยวที่นี่ ภาพที่เห็นได้ทั่วไปเลยก็คือภาพของชาวบ้านที่มานั่งตกปลาและปิคนิคกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับวิวพาโนราม่าที่สวยเกินบรรยายตรงหน้า คลื่นที่ซัดเข้าฝั่งเบาๆ นกนางนวลที่บินโฉบไปมา ลมทะเลที่โชยอ่อนๆ บรรยากาศแบบนี้เหมือนทำให้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
ใครที่จินตนาการภาพว่ามาเที่ยวประเทศฝรั่งเศสจะต้องมาเที่ยวเฉพาะหน้าหนาวอย่างเดียวเท่านั้น ขอให้เปลี่ยนใจได้เลย เพราะในช่วงซัมเมอร์นั้น ประเทศฝรั่งเศสก็มีบรรยากาศที่สวยงามไม่แพ้ในช่วงหน้าหนาวเลยทีเดียว
ถึงแม้แดดในช่วงซัมเมอร์จะร้อนขนาดไหน แต่น้ำทะเลก็ยังเย็นเฉียบ ช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นมากยิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่ หรือคนท้องถิ่นที่ต่างพาสุนัขออกมาเดินเล่น ก็ยังตกหลุมรักกับวิวที่เห็นตรงหน้านี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
นอกจากชายหาดและหน้าผาหินขาวแล้ว ที่นี่ยังมีเส้นทาง trekking สำหรับใครที่ชื่นชอบกิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์อีกด้วย บอกได้เลยว่าธรรมชาติระหว่างทาง trekking นั้นสวยงามเกินบรรยาย
หน้าผาหินสีขาวสะอาด ตัดกับน้ำทะเลสีเขียวมรกต มองเท่าไรก็ไม่รู้เบื่อเลยทีเดียว
ที่เมือง Étretat ยังเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่สุดท้ายที่มีคนพบเห็นเครื่องบิน The White Bird (L'Oiseau Blanc) ในปี 1927 ที่นักรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 Charles Nungesser และ François Coli พยายามที่จะเดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงปารีสไปยังมหานครนิวยอร์ก แต่หลังจากที่เครื่องบินออกเดินทางในวันที่ 8 พฤษภาคม ปี 1927 ก็ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ว่ากันว่าเครื่องบินสูญหายที่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก
เนื่องจากที่นี่เป็นสถานที่สุดท้ายที่มีคนพบเห็นเครื่องบิน The White Bird (L'Oiseau Blanc) ทางเมืองจึงมีการสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อไว้อาลัย แต่กลับถูกทำลายลงเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงที่ตกอยู่ในการปกครองของประเทศเยอรมัน หลังจากนั้น อนุสรณ์สถานแห่งใหม่จึงถูกสร้างขึ้นอีกครั้งในปี 1963 ตั้งอยู่ใกล้ๆกันกับพิพิธภัณฑ์ของเมืองนี้
เดินทางมาเที่ยวที่เมืองตากอากาศทั้งที เผื่อเวลาให้ที่ Etretat สัก 1 คืนเป็นอย่างน้อย ดื่มด่ำบรรยากาศเมืองเล็กอันแสนสงบนี้ สำหรับใครที่ต้องการจะหลบหลีกจากความวุ่นวายในกรุงปารีสแล้ว ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณต้องมาและห้ามพลาดเด็ดขาด
เรื่อง: Mili Nair
แปล: Aphinya Kasemsukphaisan