AU BOURGUIGNON DU MARAIS

ร้านอาหารเก่าแก่สไตล์เบอร์กันดีในกรุงปารีส

AU BOURGUIGNON DU MARAIS

แคว้นเบอร์กันดี (Burgundy) เป็นที่รู้จักกันในฐานะแคว้นแห่งไวน์ ที่มีเมืองบอร์โด (Bordeaux) ตั้งอยู่ เพราะฉะนั้นแล้ว อาหารในแคว้นเบอร์กันดีก็ต้องมีไวน์เป็นส่วนผสมอย่างแน่นอน และอาหารยอดนิยมที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของแคว้นเบอร์กันดีก็คือ Boeuf Bourguignon อีกทั้งยังมีจานเรียกน้ำย่อยอย่าง Oeufs en Meurette, จานหลัก Coq au Vin, ขนมหวาน Poire Pochée Vigneronne, Jambon Persille, Cheese Puff (Gougère), Dijon mustard sauce และอีกมากมาย อีกหนึ่งเมนูที่เป็นที่นิยมรับประทานกันทั่วประเทศฝรั่งเศสก็คือ "Burgundy Snail" หรือเอสคาโก เจ้าหอยทากที่เราคุ้นเคยกัน

ที่ร้านอาหาร Au Bourguignon du Marais แห่งนี้ เสิร์ฟอาหารสไตล์เบอร์กันดีต้นตำรับแท้ๆ และยังเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่แนะนำโดยมิชลินไกด์ประจำปี 2018 อีกด้วย การเดินทางไปยังร้านอาหารไม่ยากเลย เพียงไปยังเมโทรสถานี Saint Paul (สาย 1) และเดินต่ออีกเพียง 2-3 นาทีก็จะพบกับร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในย่านดังอย่างย่านเลอมาเรส์ (Le Marais)

 

 AU BOURGUIGNON DU MARAIS

ร้านอาหารบรรยากาศอบอุ่นและสบายใจกลางกรุงปารีส

เมื่อไปถึงร้านอาหาร พนักงานให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง ทางร้านมีโต๊ะทั้งด้านในและด้านนอกร้านอาหาร ที่เหมาะสำหรับวันที่อากาศดีๆ รับแดดอุ่นๆ พร้อมเฝ้ามองดูผู้คนที่สัญจรไปมาบนถนน ในช่วงเวลาเที่ยงแบบนี้ เป็นช่วงที่คนออกมารับประทานอาหารกลางวันกันเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผู้คนเข้ามาจับจองโต๊ะนั่งรับประทานอาหารกันมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว ร้านนี้ยังเป็นร้านอาหารร้านโปรดของชาวปารีเซียงอีกด้วย

 

AU BOURGUIGNON DU MARAIS

เซ็ตเมนูอาหารฝรั่งเศสในกรุงปารีส ราคาไม่แพงอย่างที่คิด

ช่วงเวลาอาหารกลางวันนั้น ทางร้านมีเซ็ตเมนูอาหารกลางให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ ในราคา 20€ และ 25€ โดยสามารถเลือกได้จากเมนูตามนี้: Escargots de Bourgogne, Jambon Persillé, Boeuf Bourguignon, Parmentier de Canard aux Champignons หรือ Poire Pochée Vigneronne ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารจานยอดนิยมของทางร้านทั้งสิ้น

 

ESCARGOTS DE BOURGOGNE

ESCARGOTS DE BOURGOGNE (6 PIÈCES)

เอสคาโก้หรือหอยทาก เป็นอาหารจานเรียกน้ำย่อยที่บอกได้เลยว่าห้ามพลาด เนื้อหอยทากที่เหนียวนุ่มและฉ่ำไปด้วยซอสเนยและใบพาร์สลีย์ ที่ให้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ รับประทานคู่กันกับไวน์ขาว Chablis ช่วยชูรสชาติให้อาหารจานนี้ดียิ่งขึ้น

 

JAMBON PERSILLÉ 

JAMBON PERSILLÉ

Jambon Persillé เป็นอาหารจานเย็นที่ทำมาจากแฮมและใบพาร์สลีย์ ด้วยรสชาติเค็มของตัวแฮม ช่วยตัดรสชาติของใบพาร์สลีย์และเจลลี่ได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะเป็นอาหารจานเย็น แต่วัตถุดิบต่างๆที่คัดสรรมาอยู่ในจานนั้นเข้ากันได้เป็นอย่างดี ในส่วนของเจลลี่นั้นทำมาจากซุปที่มีส่วนผสมของทั้งเนื้อสัตว์ เครื่องเทศชนิดต่างๆ และไวน์ขาว ทำให้ถึงแม้ว่าจานนี้จะดูง่ายๆแต่รสชาตินั้นมีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก

 

BOEUF BOURGUIGNON

BOEUF BOURGUIGNON

มาถึงไฮไลท์ของทางร้าน นั่นก็คือ Boeuf Bourguignon ที่เสิร์ฟมาในหม้อขนาดใหญ่เพื่อกักเก็บความร้อน ในขณะที่กำลังเปิดฝาหม้อออก กลิ่นหอมของไวน์ก็เตะจมูกเข้าอย่างจัง เจ้านี่คือสตูว์เนื้อวัวตุ๋นไวน์แดงที่มีขั้นตอนการทำที่ค่อนข้างยุ่งยากและต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก เริ่มต้นที่การนำเนื้อวัวคุณภาพดีจากแคว้นเบอร์กันดีละไปตุ๋นกับไวน์แดง พร้อมเครื่องเทศอีกมากมายเช่นใบไทม์และใบพาร์สลีย์เป็นต้น ตุ๋นเป็นเวลานานจนเนื้อวัวมีความเปื่อยนุ่ม สีและรสชาติของไวน์ได้ซึมเข้าไปในเนื้อวัวราวกับว่าเป็นส่วนเดียวกัน หลังจากนั้นก็นำเนื้อวัวไปทอดจนเนื้อวัวเป็นสีน้ำตาลทอง ต่อมานำกลับลงไปน้ำซุปไวน์แดงอีกครั้ง  พร้อมกับหอมแดง แครอท มันฝรั่ง เห็ด และอีกมากมาย ตุ๋นอีกเป็นเวลา 6 ชั่วโมงจนน้ำซุปมีความเข้มข้น จากนั้นก็นำยกมาเสิร์ฟ เนื้อวัวจะมีเต็มไปด้วยรสชาติและกลิ่นหอมของไวน์แดงอย่างปฏิเสธไม่ได้

 

 PARMENTIER DE CANARD AUX CHAMPIGNONS

PARMENTIER DE CANARD AUX CHAMPIGNONS

สำหรับจานนี้ เพียงใช้ช้อนส้อมจิ้มลงไปยังหน้าชีสกรอบก็จะพบกับมันบดที่ทั้งนุ่มละเอียดและหอม พร้อมทั้งเนื้อเป็ดและเห็ดซ่อนตัวอยู่ด้านล่าง จานนี้เสิร์ฟร้อนๆจากครัว ถึงแม้ว่าจะดูเป็นวัตถุดิบที่ง่ายๆหากแต่ว่ารสชาตินั้นค่อนข้างที่จะพิเศษและน่าประทับใจ บอกได้เลยว่าหาที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่

 

POIRE POCHÉE VIGNERONNE

POIRE POCHÉE VIGNERONNE

มาถึงขนมหวานที่ก็ยังมีส่วนผสมของไวน์แดงอยู่ นั่นก็คือลูกแพร์ตุ๋นไวน์แดง ที่นำลูกแพร์สดๆมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำลงไปแช่ไว้กับไวน์แดงพร้อมกับเครื่องเทศมากมาย อาทิเช่น ซินนามอน กานพลู และเปลือกเลม่อน เป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังจากจึงเริ่มกระบวนการตุ๋น มีการเติมน้ำตาลเพื่อเพิ่มรสชาติพร้อมกับถั่วอัลมอนด์ลงไป เมื่อปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว น้ำที่ได้ออกมาจะมีความใสและมีสีเหมือนทับทิมอย่างไรอย่างนั้น ความหวานของลูกแพร์เข้ากันได้ดีกับเครื่องเทศที่นำลงไปแช่ อีกทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มและหอมอย่างบอกไม่ถูก

 

AU BOURGUIGNON DU MARAIS-PARIS 

O'bon Paris' tip

ในวันที่อากาศดีๆแบบนี้ แดดสาดส่องเข้าทำให้อาคารที่ดูเก่าแก่ในย่านเลอมาเรส์นั้นมีความสวยงามและมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ในย่านนี้เต็มไปด้วยร้านขายของมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ช้อปแบรนด์เนมต่างๆ ร้านขายของวินเทจ รวมไปถึงร้านขายของมือสองและอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแหล่งรวมตัววัยรุ่นในกรุงปารีสเลยก็ว่าได้ นอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์มากมายที่น่าสนใจให้เข้าเยี่ยมชมอีกด้วย

ย่านนี้เป็นย่านที่ผู้คนขวักไขว่แต่ก็ยังมีความเงียบสงบในแบบของมันเอง ในวันที่อากาศดี ลองชวนเพื่อนสัก 2-3 คนออกมาเดินเล่นด้วยกัน รับประทานอาหารและแวะจิบชากาแฟที่คาเฟ่ในย่านนี้ วันนั้นจะต้องเป็นวันที่ดีมากๆแน่ๆ

และอย่าลืมดาวน์โหลดคูปองจาก O'bon Paris เพื่อรับส่วนลด 10% สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ยกเว้นไวน์ชนิดขวด เมื่อมารับประทานอาหารที่ร้าน Au Bourguignon du Marais อย่าลืมแสดงคูปองเมื่อไปถึงที่ร้านอาหารด้วยล่ะ


เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan

ภาพ: Leona Fujii

AU BOURGUIGNON DU MARAIS

ที่อยู่: 52 Rue François Miron, 75004, Paris

การเดินทาง: Metro line1 at Saint Paul Station/Metro line 7 Pont Marie Station

เวลาทำการ: Daily 12:00-23:00

เว็บไซต์: www.au-bourguignon-du-marais.lafourchette.rest