สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดในวาเลตต้า

สำรวจเมืองวาเลตต้า หนึ่งในเมืองมรดกโลก

เมืองวาเลตต้า (The City of Valletta) เมืองหลวงของประเทศมอลต้าและหนึ่งในเมืองมรดกโลกในองค์การ UNESCO แห่งนี้นั้นมีความสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรก (Baroque) อนุสาวรีย์ จัตุรัส สวน พิพิธภัณฑ์ และอีกมากมาย เมืองหลวงนี้เป็นเมืองหลวงที่มีขนาดค่อนข้างเล็กที่คุณสามารถเดินเที่ยวรอบเมืองได้สบายๆ โดยที่เมืองวาเลตต้าได้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของประเทศมอลต้าที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมาย อีกทั้งยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ และร้านขายของที่ระลึกอีกหลากหลายนับไม่ถ้วน มาถึงตรงนี้แลว ไปดูกันดีกว่าว่าสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองวาเลตต้าที่ห้ามพลาดนั้นมีอะไรบ้าง

 

เที่ยวไหนดีในวาเลตต้า? น้ำพุ Triton

1

TRITON FOUNTAIN

จากศูนย์รวมรถบัส ก่อนที่จะเดินเข้าไปในตัวเมืองคุณจะต้องพบกับน้ำพุ Triton ก่อน โดยเป็นน้ำพุขนาดใหญ่ประกอบไปด้วย Triton 3 ตัวที่กำลังถือถาดยกขึ้นสูงอยู่ Triton เป็นหนึ่งในเทพเจ้าในเทพปกรณัมกรีก และเป็นสัญลักษณ์ของทะเลที่แท้จริง น้ำพุนี้ตั้งอยู่ตรงกลางของจัตุรัสด้านหน้าประตูเมือง ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1959 ภายใต้การดีไซน์ของ Vincent Apap นักแกะสลักชื่อดังของประเทศมอลต้า หลังจากนั้น 4 ปี น้ำพุนี้ก็เสร็จสมบูร์และกลายมาเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองวาเลตต้าเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวคนไหนที่ต้องการจะเดินทางเข้าเมืองก็จะต้องเดินผ่านน้ำพุ Triton ก่อนเป็นอันดับแรก รับรองได้ว่ากว่าที่จะได้เข้าเมือง คุณจะต้องตื่นตะลึงกับความสวยงามของน้ำพุนี้แน่นอน ในช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟที่น้ำพุเพื่อให้แสงสว่างและเพื่อบรรยากาศที่แตกต่างไปจากตอนกลางวัน ทางเราแนะนำให้คุณแวะไปที่นี่ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืนเพื่อที่จะได้เห็นน้ำพุอันสวยงามแห่งนี้ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน

ที่ตั้ง : Vjal Nelson, Il-Belt Valletta, Malta

เวลาทำการ : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน 

ราคา : ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

เที่ยวไหนดีในวาเลตต้า? ประตูเมืองวาเลตต้า

2

VALLETTA CITY GATE

ไม่ไกลจากน้ำพุ Triton คือประตูเมืองวาเลตต้า (Valletta City Gate) ที่ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือชาวมอลทีสก็ต้องเดินผ่านประตูเมืองนี้กันทั้งนั้น ย้อนกลับไปในอดีตเมื่อครั้งที่ประเทศมอลต้าพ่ายแพ้ให้แก่ทหารออตโตมัน (Ottoman) ในปี 1551 ทางประเทศมอลต้าก็ได้ตัดสินใจที่จะสร้างป้อมปราการขึ้นมาเพื่อโอบล้อมเมืองวาเลตต้าเอาไว้ และเมื่อสร้างป้อมปราการก็จำเป็นที่จะต้องมีประตูเมือง และนั่นจึงเป็นที่มาที่ไปของประตูเมืองนี้ ประตูเมืองวาเลตต้าแห่งนี้นั้นได้ถูกสร้างทั้งหมด 5 ครั้ง เดิมทีแล้วการก่อสร้างอยู่ในความรับผิดชอบของ Francesco Laparelli สถาปนิกและวิศกรชื่อดังชาวอิตาเลียน ผู้ที่เป็นผู้รับผิดชอบในการวางผังเมืองวาเลตต้าเช่นกัน แต่หลังจากที่ประตูเมืองถูกสร้างจนเสร็จก็ได้ถูกทำการรื้อถอนและสร้างขึ้นใหม่ไปเรื่อยๆภายใต้ความรับผิดชอบของคนที่ได้รับมอบหมาย เป็นเวลาหลายปีจนกระทั่งศตวรรษที่ 21 ประตูเมืองได้ถูกสร้างขึ้นอีกครั้งภายใต้การดีไซน์ของ Renzo Piano ในปี 2011 และแล้วเสร็จในปี 2014

ที่ตั้ง: Valletta, Malta

เวลาทำการ : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน 

ราคา : ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

เที่ยวไหนดีในวาเลตต้า? รัฐสภาประจำประเทศมอลต้า

3

THE PARLIAMENT OF MALTA

เมื่อเดินผ่านประตูเมืองเข้ามาแล้ว คุณจะพบกับอาคารสไตล์โมเดิร์นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่จะทำให้คุณตื่นตะลึง ที่นี่คืออาคารรัฐสภาประจำประเทศมอลต้าตั้งอยู่ข้างกันกับ Royal Opera House หรือ the Royal Theatre รูปร่างของอาคารรัฐสภานั้นจะทำให้คุณประทับใจกับความโมเดิร์นที่ยังแฝงความเป็นมอลทีสเอาไว้ และที่นี่ได้กลายมาเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปของเมืองวาเลตต้าไปโดยปริยาย ทางด้านซ้ายมือของอาคารรัฐสภานั้นคือโรงโอเปร่า (Royal Theatre) ที่เคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงการแสดงมากมาย และยังเคยเป็นอาคารที่สวยงามที่สุดในวาเลตต้าอีกด้วย แต่โชคไม่ดีนักที่โรงโอเปร่าแห่งนี้โดนระเบิดที่ปล่อยจากเครื่องบินลงมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1942 และในปี 2013 ซากปรักหักพังของโรงโอเปร่าแห่งนี้ก็ได้รับการฟื้นฟูและออกแบบใหม่ จนกระทั่งกลายมาเป็นสถานที่จัดแสดงงานเหมือนเดิมและได้ตั้งชื่อให้ว่า Pjazza Teatru Rjal

ที่ตั้ง : i-, Ordinance, Il-Belt Valletta, Malta

เวลาทำการ : เยี่ยมชมภายนอกได้ตลอด 24 ชั่วโมง/ ด้านในไม่เปิดให้เข้าชม

ราคา: ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

เที่ยวไหนดีในวาเลตต้า? Auberge de Castille

4

AUBERGE DE CASTILLE

Auberge de Castille นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในอาคารสไตล์บาโรก (Baroque) ที่สวยที่สุดในวาเลตต้า แรกเริ่มเดิมทีนั้น Auberge de Castille ถูกสร้างขึ้นมาในสไตล์จริตนิยม (Mannerist) หลังจากนั้นในปี 1740 ก็ได้มีการดีไซน์ขึ้นมาใหม่โดยมีการแทนที่ด้วยสไตล์บาโรกแทนโดย Domenico Cachia ในช่วงที่ประเทศมอลต้าถูกยึดครองโดยประเทศฝรั่งเศสในปี 1798 Auberge de Castille ได้ถูกใช้เป็นกองบัญชาการทหารฝรั่งเศส หลังจากนั้นในปี 1805 เมื่อประเทศอังกฤษได้มาถึง ที่นี่ก็ถูกเปลี่ยนเป็นกองบัญชาการทหารอังกฤษ อีกทั้งยังถูกใช้เป็นที่พักอาศัยแก่เจ้าหน้าที่ขาวอังกฤษอีกด้วย นอกจากนั้นแล้ว ที่นี่ยังเคยถูกใช้เป็นกองบัญชาการทหารมอลต้า ลิเบีย และไซปรัส จนกระทั่งปี 1972 ที่นี่ได้ถูกรับเลือกให้เป็นสำนักนายกรัฐมนตรีประจำประเทศมอลต้ามาจนถึงปัจจุบันนี้ Auberge de Castille นั้นตั้งอยู่ที่จุดสูงสุดของวาเลตต้า ไม่ไกลจากสวน Upper Barrakka Gardens ทำให้คุณสามารถมองเห็นวิว Grand Harbour จากตรงนี้ได้เช่นกัน

ที่ตั้ง : Merchants St, Valletta, Malta

เวลาทำการ : เยี่ยมชมภายนอกได้ตลอด 24 ชั่วโมง/ ด้านในไม่เปิดให้เข้าชม

ราคา: ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

เที่ยวไหนดีในวาเลตต้า? Upper Barrakka Gardens

5

UPPER BARRAKKA GARDENS

สวน Upper Barrakka Gardens เป็นสถานที่ที่เป็นที่นิยมสำหรับการพักผ่อนในนักท่องเที่ยวและชาวมอลทีสเอง สวนนี้ตั้งอยู่ข้างกันกับ Auberge de Castille ห้อมล้อมไปด้วยน้ำพุ ต้นไม้ ดอกไม้ รูปแกะสลัก และอนุสาวรีย์อีกมากมาย สวนเชื่อมต่อกับระเบียงที่ยื่นออกไปยังจุดชมวิวที่สวยที่สุด มองเห็น Grand Harbour และ Three Cities อยู่ตรงหน้า วิวจากตรงนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นวิวทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยที่สุด เดิมทีแล้วที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาโดยอัศวินชาวอิตาเลียน Flaminio Balbiano ในปี 1661 เพื่อเป็นสวนหย่อมส่วนตัวและสถานที่ออกกำลังกายสำหรับอัศวินชาวอิตาเลียนอื่นๆ หลังจากนั้นในปี 1824 ที่นี่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นสวนหย่อมที่สวยงามและเปิดให้สาธารณะชนได้เข้าชม เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น สวนนี้ได้รับความเสียหายเป็นอย่างหนัก แต่ก็สามารถสร้างคืนกลับมาให้เป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้งหนึ่ง ด้านบนจุดชมวิวของส่วน Upper Barrakka Gardens นี้ถือว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในประเทศมอลต้าเลยก็ว่าได้

ที่ตั้ง: 292 Triq Sant' Orsla, Il-Belt Valletta, Malta

เวลาทำการ: ทุกวันตั้งแต่ 7:00น. ถึง 22:00 น.

ราคา: ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

เที่ยวไหนดีในวาเลตต้า? โบสถ์ St. John's Co-Cathedral

6

ST. JOHN'S CO-CATHEDRAL

โบสถ์ St. John's Co-Cathedral นั้นตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองวาเลตต้า ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเข้าเยี่ยมชมโบสถ์และสถานที่ที่สำคัญทางศาสนาของประเทศต่างๆและมีความชื่นชอบในศิลปะและสถาปัตยกรรม บอกได้เลยว่าที่นี่เป็นที่ที่คุณห้ามพลาดเด็ดขาด ที่นี่เป็นโบสถ์หรืออาสนวิหารร่วม (Co-Cathedral) โรมันคาทอลิก สร้างขึ้นโดยภาคีของนักบุญเซนต์จอห์น (Order of Saint John) ตั้งแต่ปี 1572 จนถึงปี 1577 เพื่อเป็นสำนักแม่ชีสำหรับอัศวินในนักบุญเซนต์จอห์น สถาปนิกผู้ออกแบบโบสถ์นี้เป็นคนเดียวกันกับผู้ออกแบบตึกอาคารที่สวยงามต่างๆมากมายในเมืองวาเลตต้า นั่นก็คือ Girolamo Cassar หลังจากนั้นในศตวรรษที่ 17 การตกแต่งภายในก็ถูกตกแต่งใหม่อีกครั้งโดย Mattia Preti และศิลปินท่านอื่นๆในสไตล์บาโรก (Baroque) ทำให้โบสถ์แห่งนี้เป็นหนึ่งในโบสถ์สไตล์บาโรกที่สวยที่สุดในทวีปยุโรปเลยทีเดียว

ที่ตั้ง : Triq San Gwann, Il-Belt Valletta, Malta

เวลาทำการ : วันจันทร์ถึงศุกร์ตั้งแต่ 09:30 น. ถึง 16:30 น. (เปิดให้เข้ารอบสุดท้ายเวลา 16:00 น.) / วันเสาร์ตั้งเเต่ 09:30 น. ถึง 12:30 น. (เปิดให้เข้ารอบสุดท้ายเวลา 12:00)/ ปิดทุกวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ราคา : 10 ยูโรสำหรับผู้ใหญ่ / 7.50 ยูโร สำหรับนักเรียน นักศึกษาและผู้สูงอายุชาวมอลทีส / ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

 

เที่ยวไหนดีในวาเลตต้า? จัตุรัส St. George's Square

7

ST. GEORGE'S SQUARE

จัตุรัสเซนต์จอร์จ (St. George's Square) ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองวาเลตต้า ล้อมรอบไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่ จัตุรัสเซนต์จอร์จแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมานั่งพักผ่อนพลางมองดูผู้คนเดินสัญจรไปมา ที่ตรงกันข้ามกับจัตุรัสนี้คือพิพิธภัณฑ์ Palace of Armoury พิพิธภัณฑ์ที่มีหนึ่งในคอลเลคชั่นอาวุธและเสื้อเกราะที่ใหญ่ที่สุด

ที่ตั้ง: Republic St, Valletta, Malta

เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน

ราคา: ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

เที่ยวไหนดีในวาเลตต้า? จัตุรัส Republic Square

8

REPUBLIC SQUARE

ข้างๆจัตุรัสเซนต์จอร์จคือจัตุรัสรีพับลิค (Republic Square) ที่มีอนุสาวรีย์ราชินีวิคตอเรีย (Queen Victoria) ตั้งอยู่ และด้านหลังก็คือหอสมุดแห่งชาติประจำประเทศมอลต้า (National Library of Malta) จัตุรัสแห่งนี้เคยถูกเรียกว่า Piazza Tesoreria หรือ Piazza dei Cavallieri แต่พอหลังจากที่อนุสาวรีย์ของราชินีวิคตอเรียได้ถูกนำมาตั้งเมื่อศตวรรษที่ 19 ที่นี่ก็ถูกเรียกว่า Queen's Square หรือ Piazza Regina แทน ถึงแม้ว่าชื่ออย่างเป็นทางการคือจัตุรัสรีพับลิคก็ตาม ด้านหลังอนุสาวรีย์คือหอสมุดแห่งชาติประจำประเทศมอลต้า หรือที่ชาวมองทีสเรียกกันว่า Bibliotheca สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 1796 โดย Stefano Ittar สถาปนิกชาวโปแลนด์-อิตาเลียน จากตรงนี้คุณสามารถเดินเท้าเพียง 2 นาทีเพื่อไปยังโบสถ์ St. John's Co-Cathedral หรือเพียงไม่กี่ก้าวก็จะไปถึงถนนช้อปปิ้ง Arcade

ที่ตั้ง: Republic Square, Valletta, Malta

เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน

ราคา: ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

เที่ยวไหนดีในวาเลตต้า? Lower Barrakka Gardens

9

LOWER BARRAKKA GARDENS

สวน Lower Barrakka Gardens ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวน Upper Barrakka Gardens โดยมีวิวที่แตกต่างกันออกไป สวนนี้ตั้งอยู่ที่ส่วนบนของป้อมปราการ St. Christopher's Bastion จากตรงนี้คุณสามารถมองเห็นวิวพาโนรามาของป้อมปราการ Fort Ricasoli, พระราชวัง Bighi Palace, ป้อมปราการ Fort St. Angelo และช่องแคบ Vittoriosa และ Kalkara ได้อย่างชัดเจน ตรงกลางสวนมีอนุสาวรีย์ Sir Alexander Ball ตั้งอยู่ ถูกสร้างขึ้นในปี 1810 โดย Sir Alexander Ball นี้คือนักการเมือง นักการทูต ทหาร และผู้ว่าการรัฐชาวอังกฤษผู้แรกที่เป็นผู้นำให้ชาวมอลทีสเกิดการต่อต้านต่อประเทศฝรั่งเศสในปี 1798 ถ้าหากเดินออกไปที่ระเบียงจุดชมวิว จากตรงนี้จะสามารถมองเห็นอนุสาวรีย์ Siege Bell War Memorial ได้อย่างชัดเจน

ที่ตั้ง: Quarry Wharf, Valletta, Malta

เวลาทำการ: ทุกวัน 8:00 น. -21:00 น.

ราคา: ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

เที่ยวไหนดีในวาเลตต้า? อนุสาวรีย์ Siege Bell War Memorial

10

SIEGE BELL WAR MEMORIAL

ที่ด้านล่างของป้อมปราการ St. Christopher's Bastion คืออนุสาวรีย์ Siege Bell War Memorial ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแก่ชาวมอลทีสที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศมอลต้านั้นโดนโจมตีครั้งที่ 2 โดยทหารนาซีเยอรมันและเหล่าผู้เผด็จการอิตาลี เพื่อที่จะยึดครองเมืองและกองทัพเรือทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิอังกฤษ หลังจากนั้น ประเทศอิตาลีได้ประกาศทำสงครามกับประเทศฝรั่งเศสและประเทศอังกฤษ จึงเป็นเหตุให้ประเทศมอลต้าโดนโจมตีโดยกองทัพอากาศอิตาลี ถึงแม้ว่าประเทศอังกฤษและประเทศมอลต้าจะสามารถป้องกันเกาะของตนเองได้สำเร็จ แต่ก็ยังได้รับความเสียหายมากมายจนถือว่าเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยก็ว่าได้ โดยมีทหารและชาวบ้านเสียชีวิตไปทั้งหมด 7,000 คน

ที่ตั้ง : 32 Lvant, Il-Belt Valletta, Malta

เวลาทำการ : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน

ราคา : ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

เที่ยวไหนดีในวาเลตต้า? ประตูเมืองวิคตอเรีย

11

VICTORIA GATE

ประตูเมืองวิคตอเรีย (Victoria Gate) เป็นประตูเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของวาเลตต้า ประตูเมืองแห่งนี้รอดพ้นทั้งจากการโดนทำลายในสงครามโลกครั้งที่ 2 และจากการเปลี่ยนแปลงของเมือง ว่ากันว่าประตูเมืองวิคตอเรียนี้เป็นประตูเมืองสไตล์วิคตอเรียที่สวยที่สุดในวาเลตต้า แรกเริ่มเดิมทีนั้น ประตูเมืองวิคตอเรียถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 หลังจากนั้น 300 ปี ประตูเมืองไม่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองที่พัฒนาขึ้นได้ ทำให้ต้องมีการรื้อถอนเกิดขึ้น แล้วทำการสร้างขึ้นมาใหม่ในแบบเดิม แต่ขยายให้มีขนาดกว้างขึ้นเพื่อให้ประตูเมืองสามารถรองรับจำนวนคนที่มากขึ้นและรถที่สัญจรไปมา ประตูเมืองถูกสร้างขึ้นมาจากหินปูนจากประเทศมอลต้า ประดับด้วยตราอาร์มของประเทศมอลต้าและสัญลักษณ์ของจักวรรดิอังกฤษที่ด้านบนสุดของประตู ประตูเมืองตั้งอยู่ระหว่างสวน Upper และ Lower Barrakka Gardens ริมชายฝั่งทะเล

ที่ตั้ง: Victoria Gate, Valletta, Malta

เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน

ราคา: ไม่มีค่าใช้จ่าย

 


เรื่องและภาพ: Aphinya Kasemsukphaisan