CAFE DE LA PAIX
ที่อยู่: 5 Place de l'Opéra 75009 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Opéra (สาย 3, 7 และ 8)
เวลาทำการ: ทุกวัน 12:00-15:00 และ 18:00-23:30
ราคา: 40-60€ (เซตเมนู จานเรียกน้ำย่อย จานหลัก และของหวาน)
คาเฟ่ Cafe de la Paix ตั้งอยู่ใจกลางมหานครปารีส เยื้องๆกับ Opera Garnier อันสวยงามนี้เอง Cafe de la Paix นั้นอยู่ภายใต้เครือโรงแรม Intercontinental ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1862 ในยุคสมัยภายใต้การปกครองของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ทำเลตรงนี้ถือเป็นทำเลที่ดีมากในยุคสมัยนั้นมาจนถึงยุคสมัยปัจจุบัน ที่นี่เคยมีโอกาสได้ต้อนรับทั้งนักเขียน นักแสดง และนักการเมืองชื่อดังหลายท่าน เช่น Flaubert, Victor Hugo และ Oscar Wilde
ด้านในร้านถูกตกแต่งด้วยสไตล์ในยุคสมัยของจักรวรรดิที่ 2 ด้วยเสาสีทองและจิตรกรรมฝาผนังที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่สำคัญอีกที่หนึ่ง ทำให้ที่นี่ดูมีเสน่ห์ในแบบที่หาไม่ได้จากที่ไหน บวกกับแสงสีเหลืองทองที่ตัดกับเก้าอี้สีแดงสด ให้บรรยากาศที่บรรยายออกมาเป็นตัวอักษรไม่ได้จริงๆ
สัมผัสประสบการณ์รับประทานอาหารเย็นที่ Cafe de la Paix
ถึงที่นี่จะขึ้นชื่อว่าเป็นคาเฟ่ แต่คาเฟ่ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องเสิร์ฟแค่กาแฟเสมอไป ที่นี่ คุณสามารถแวะเวียนมารับประทานอาหารได้ทุกมื้อ ไม่ว่าจะเป็นอาหารมื้อสายในวันอาทิตย์ อาหารเช้าวันจันทร์ จิบกาแฟตอนบ่ายวันพุธ หรือจะเป็นดินเนอร์ตอนเย็นวันศุกร์ก็ย่อมได้ แต่ละมื้ออาหารจะเริ่มด้วยขนมปังหลายชนิดที่ถูกยกมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ หลังจากนั้น เชฟ Laurent André เชฟระดับมิชลินสตาร์ผู้ที่ใส่ใจในทุกๆรายละเอียด จะเป็นผู้รังสรรค์เมนูให้คุณได้รับประทานเอง โดยเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านคือ "Foie Gras du Cafe de la Paix", "Mille-Feuille" และ "Seafood Platter" นอกจากนี้ บางเมนูของทางร้านจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่สามารถหาได้ในฤดูกาลนั้นๆ เช่น สตรอเบอร์รี่ในเดือนพฤษภาคม และทรัฟเฟิลดำในเดือนมกราคม เป็นต้น
ASPERGES VERTES DE PROVENCE EN FEUILLETÉ (Steamed green asparagus from Provence in puff pastry, other in shavings, Hollandaise sauce with orange peels)
หนึ่งในอาหารจานเรียกน้ำย่อยของที่นี่คือจานนี้ ที่ประกอบไปด้วยแอสพารากัส (หรือที่คนไทยรู้จักกันในฐานะหน่อไม้ฝรั่ง) เป็นวัตถุดิบที่สามารถหาได้ในฤดูใบไม้ผลิจากเมืองโพรวองซ์ นำไปนึ่ง ล้อมรอบด้วยแป้งพัฟที่กรอบหอม เสิร์ฟพร้อมกับซอส Hollandaise ผสมผิวส้ม กระตุ้นความอยากอาหารได้ไม่ยาก แทบจะรอให้จานหลักมาเสิร์ฟไม่ไหวแล้ว
ESCARGOT DE BOURGOGNE (Burgundy Snails)
หนึ่งในอาหารฝรั่งเศสที่หลายๆคนอยากลองลิ้มชิมรสกัน นั่นก็คือ "หอยทาก" หรือที่เรียกกันว่า "เอสคาโก้" ถ้าหากใครกำลังจะลองรับประทานหอยทากเป็นครั้งแรกก็ขอให้อย่ากังวลใจไป เพราะมันไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คิด หอยทากนั้นมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม และเข้ากันได้ดีกับซอส Pesto ผสมกับเนย กระเทีนม และน้ำมัน ซอสตัวนี้จะช่วยชูรสชาติของตัวหอยทาก และทำให้มันอร่อยขึ้นโดยที่คุณจะลืมไปเลยว่ากำลังรับประทาน "หอยทาก" อยู่
FILET DE BOEUF DE RACE FRANÇAISE, GRILLÉ (Grilled French beef tenderloin Macaroni & cheese, green pepper sauce)
มาต่อกันที่จานหลักจานนี้ สเต็กเนื้อสันในหรือเนื้อส่วน tenderloin เป็นจานหลักอีกจานหนึ่งที่อยากแนะนำให้ได้ลองชิมกัน เนื้อถูกปรุงมาอย่างพอดี ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม พร้อมกับซอส Green Pepper ที่ช่วยชูรสชาติของตัวเนื้อเพิ่มขึ้นไปอีก สเต็กเนื้อจานนี้ต้องรับประทานคู่กับ Macaroni & Cheese
PAVÉ DE «BLACK COD» D'ANTARCTIQUE (Antarctica Black cod, mikado vegetables, lemon-ginger sauce)
ปลาหิมะหรือ Antarctica Black Cod ที่ถูกเคลือบด้วยซอส Lemon-Ginger ที่ให้กลิ่นหอมเย้ายวน พร้อมกับผักที่วางรอบๆ ความกรอบของผักตัดกันดีกับความนุ่มของเนื้อปลาที่แทบจะละลายในปาก
MILLE-FEUILLE « CAFE DE LA PAIX »
ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Mille-Feuille ที่เป็นขนมหวานชื่อดังของประเทศฝรั่งเศส และเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของ Cafe de la Paix ด้วย ด้วยแป้งพัฟที่เรียงตัวกันและครีมวานิลลาที่สอดแทรกในแต่ละชั้น ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มและกรอบ ตัวครีมไม่หวานจนเกินไป เสิร์ฟคู่กับไอศครีมวานิลลาที่วางอยู่ข้างๆกัน ให้ความรู้สึกที่สดชื่น เหมาะเป็นจานปิดท้ายมื้ออาหารเป็นอย่างดี
CHARLOTTE AUX FRAISES (Strawberries Shortcake with sponge cake)
ในเดือนพฤษภาคมนี้ มีผลไม้ประจำฤดูกาล นั่นก็คือสตรอเบอร์รี่ และเมนูพิเศษนี้ก็คือ Strawberries Shortcake ที่ตกแต่งด้วยสตรอเบอร์รี่สดด้านหน้า ให้ความสดชื่นได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผลไม้ตามฤดูกาลจะเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ทางร้านจึงจะมีเมนูใหม่ๆอัพเดตอยู่เสมอ
SEAFOOD COUNTER & SEAFOOD PLATTER
ยังๆ ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ จานที่เห็นอยู่ในภาพนี้คือ Seafood Platter ที่ Seafood Counter ของทางร้านที่อยู่แค่เอื้อมมือ ตั้งอยู่ติดกันกับส่วนของคาเฟ่ ที่นี่เสิร์ฟอาหารทะเลที่สดใหม่ เหมือนเพิ่งขึ้นมาจากทะเล อย่างหอยนางรม กุ้ง ปู และอีกมากมาย เชฟมืออาชีพพร้อมเสมอที่จะเสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่ให้คุณถึงโต๊ะภายในเวลาไม่กี่นาที
ในวันที่อากาศดีๆ ทางร้านจะมีบริการที่นั่งด้านนอกไว้ให้ สำหรับใครที่อยากดื่มด่ำบรรยากาศมหานครปารีสที่แสนวุ่นวายแต่สวยงาม Cafe de la Paix มีทุกอย่างที่คุณต้องการ ตั้งแต่กาแฟ ของหวาน อาหารจานหลัก ไปจนถึงอาหารทะเล เดินเล่นจาก Opera Garnier มาเหนื่อยๆ มานั่งพักจิบกาแฟที่นี่ได้ และหากคุณดาวน์โหลดคูปองจาก O' Bon Paris รับทันทีส่วนลด 10% สำหรับเมนูอาหารกลางวันและอาหารเย็นที่ด้านในร้านอาหาร (พื้นที่ด้านนอกไม่ร่วมรายการ) กรุณาแสดงคูปองส่วนลดแก่พนักงานก่อนสั่งอาหารด้วยนะค้าาา
เรื่องและภาพ: Yuna Lee
แปล: Aphinya Kasemsukphaisan