เมืองชาโมนิกซ์-มงบล็อง (Chamonix-Mont-Blanc) แห่งนี้ มีชื่อย่อที่ใครๆเรียกกันว่า "ชาโมนิกซ์" และมีชื่อเล่นว่า "The White Lady" (La Dame Blanche) เหตุมาจากยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี เมืองชาโมนิกซ์ตั้งอยู่ในแคว้นโอแวร์ญ-โรนาลป์ (Auvergne-Rhône-Alpes) ของประเทศฝรั่งเศส มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากยอดเขามงบล็องที่มีความสูงถึง 4,810 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
ชาโมนิกซ์-มงบล็อง เป็นเมืองของประเทศฝรั่งเศสที่อยู่ติดเขตชายแดนของประเทศสวิตเซอร์แลนด์และประเทศอิตาลี ประกอบไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆทั้งหมด 16 หมู่บ้าน ชาโมนิกซ์แบ่งเขตแดนกับเมือง Saint-Gervais-les-Bains และทั้ง 2 เมืองก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่ความสูง 995-4,809 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมักจะนิยมเดินทางมาเล่นสกีและพาราไกลดิง (Paragliding) กันที่นี่เป็นจำนวนมาก ลองมาดูกันว่าที่เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง
สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อไปถึงก็คือไปที่ Tourism Office ตั้งอยู่ข้างๆกันกับโบสถ์ Saint Michel et Prieuré เพื่อมาขอรับแผนที่เมือง เวลาทำการของกระเช้าเพื่อขึ้นไปยังด้านบน และข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย ณ ตอนนั้นมีกระเช้าเพียง 2 เจ้าที่เปิดทำการเท่านั้น นั่นก็คือ Téléphérique de l'Aiguille du Midi และ Téléphérique de la Flégère
ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ยอดเข้ามงบล็องเท่านั้น ในตัวเมืองเล็กๆน่ารักๆนี้ก็สวยไม่แพ้กัน ที่แรกที่มาถึงก็คือหมู่บ้านชาโมนิซ์-มงบล็อง ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เหมือนหมู่บ้านนี้ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาสวยที่ยอดเขาปกคลุมไปด้วยหิมะขาว ตัดกับแสงอาทิตย์อ่อนๆที่ส่องลงมา แม่น้ำ Arve สายเล็กๆที่ไหลผ่านตัวหมู่บ้านไป ช่างเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็คเสียจริงๆ
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ปี 1786 ได้มีชายชาวชาโมนิกซ์ 2 คนนามว่า Jacques Balmat และ Michel-Gabriel Paccard เป็น 2 คนแรกที่พิชิตยอดเขามงบล็องได้สำเร็จ และที่จัตุรัสกลางเมืองก็ได้สร้างรูปปั้นของ Jacques Balmat ยืนคู่กับ Horace Bénédict de Saussure เอาไว้ โดยทั้งคู่หันหน้าออกไปทางเทือกเขาที่อยู่ไกลสุดสายตา Jacques คือชายคนทางซ้าย ส่วนคนทางขวาที่ถือไม้และอีกมือหนึ่งกำลังชี้ไปยังยอดเขาอันไกลโพ้นนั้นคือ Horace นักธรรมชาตินิยมชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับพืชบนเทือกเขาแอลป์ ผู้ที่จ่ายเงินให้แก่คนที่สามารถพิชิตยอดเขามงบล็องได้สำเร็จ
การที่จะขึ้นไปชมวิวด้านบนนั้น สามารถขึ้นไปได้โดยกระเช้าไฟฟ้าโดยมี Téléphérique de l'Aiguille du Midi เป็นเจ้าที่ผู้คนนิยมใช้บริการมากที่สุด โดยกระเช้าจะเริ่มต้นตั้งแต่ที่ตีนเขาในเมืองชาโมนิกซ์ ขึ้นไปยังจุดสูงสุดที่สามารถขึ้นไปได้ ที่ความสูง 3,842 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ภายในเวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น
กระเช้าจะจอดที่จุดพักแรกที่ความสูง 2,317 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จากตรงนี้สามารถออกไปเดิน Hiking หรือ Trekking ได้ตามทางที่กำหนดไว้ จากตรงนั้นเดินไปเรื่อยๆจะพบกับทะเลสาบ Lac bleu อันเลื่องชื่ออีกด้วย
เดินไปเรื่อยๆจะสังเกตุเห็นได้ว่าผู้คนพยายามที่จะเรียงหินขนาดต่างๆให้ได้ความสูงมากที่สุด
ถ้ามีเวลามากหน่อย ลองไปเที่ยวที่หมู่บ้านข้างๆอย่างหมู่บ้าน Les Praz de Chamonix ที่ก็มีความสวยงามและน่ารักไม่แพ้กัน
จากหมู่บ้าน Les Praz de Chamonix สามารถนั่งกระเช้า La Flégère ขึ้นไปยังความสูง 2,335 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลได้ จากตรงนั้นบ้านหลังใหญ่ๆจะเหลือเพียงหลังนิดเดียวเท่านั้น
ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหารเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 50 ปีมาแล้ว ที่นี่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอย่างออมเล็ต (Omelette) ที่รสชาติไม่เหมือนที่ไหน โดยถ้าสั่งเป็นคอร์ส คอร์สก็จะเริ่มต้นด้วยจานเรียกน้ำย่อยอย่างสลัด ตามด้วยจานหลักอย่างออมเล็ตและเครป และขนมหวาน อย่าลืมจิบเบียร์ไปด้วย เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับมื้ออาหาร
ที่อยู่: 116 rue des Moulins, Chamonix
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 10:00-22:00
อีกร้านเก่าแก่ก็คือร้าน Le Monchu ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1972 โด่งดังเรื่องอาหารท้องถิ่นอีกเช่นกัน โดยมีการเพิ่มลูกเล่นเป็นหินร้อนเพื่อให้คุณสามารถย่างเนื้อเองได้ และชีสฟองดูว์ (Fondue) จากเมืองซาวัว (Savoie) เหมาะสำหรับรับประทานในฤดูหนาว
ที่อยู่: 1 Rue du Lyret, 74400 Chamonix-Mont-Blanc
เวลาทำการ: 11:30-23:00
นอกจากร้านอาหารแล้วยังมีอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ร้าน Cool Cats ที่เสิร์ฟฮอตดอก แซนด์วิช สลัด และอีกมากมาย เหมาะสำหรับใครที่ต้องการมื้อเบาๆและมีเวลาไม่มาก วัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้เป็นวัตถุดิบท้องถิ่น สดใหม่ และมีราคาที่เหมาะสม
ที่อยู่: 116 rue des Moulins, Chamonix
เวลาทำการ: วันอังคารถึงวันอาทิตย์ 12:00-00:00 / วันจันทร์ 16:00-00:00
เมืองเล็กๆเมืองนี้อาจจะดูเงียบ แต่ถ้าหากเห็นฤดูหนาว ที่นี่จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย สำหรับใครที่ต้องการมาพักผ่อน ปีนเขา และเล่นพาราไกลดิง แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงที่จะเดินทางมาในฤดูหนาว เพราะนักท่องเที่ยวจะเยอะมาก และที่พักมีราคาสูงเนื่องจากเป็นไฮซีซั่น อดใจรอสักหน่อยแล้วมาในช่วงโลว์ซีซั่น คุณจะพบกับความสงบสุขที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้วนอกจากที่นี่ อีกทั้งที่พักยังมีราคาถูกลงอีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังวางแผนเดินทางมาแล้วได้ทำการจองโรงแรมในชาโมนิกซ์เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถสอบถามที่ Reception ได้เกี่ยวกับรถรับส่งฟรีที่ให้บริการรับส่งระหว่างหมู่บ้าน อีกทั้งยังมีรถบัสที่ให้บริการฟรีชื่อว่า Le Mulet ไว้คอยอำนวยความสะดวกอีกด้วย
เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan
ภาพ: Phan Thanh Thuy
การเดินทาง
รถไฟ: นั่งรถไฟความเร็วสูง TGV จากสถานี Gare de Lyon ไปยังสถานี Bellegarde-sur-Valserine และต่อรถบัสไปยัง Chamonix (ใช้เวลาในการเดินทางรวมประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที)
เครื่องบิน: นั่งเครื่องบินไปยังสนามบิน Geneva (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) และนั่งรถบัส (โดย Ouibus, Easybus และอื่นๆ) จานสนามบินไปยัง Chamonix (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที)
รถบัส: นั่งรถบัสจากกรุงปารีสไปยัง Chamonix (ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง)