ปราสาท CHANTILLY (CHÂTEAU DE CHANTILLY)
ที่อยู่ : Château, 7, Rue du Connétable, 60500 Chantilly
เวลาทำการ :
- ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 23 มีนาคม เปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันอังคาร ตั้งแต่ 10:30 ถึง 17:00 (บริเวณสวนปิดเวลา 18:00)
-ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมถึงวันที่ 29 ตุลาคม เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10:00 am to 18:00 (บริเวณสวนปิดเวลา 20:00)
ราคาตั๋วเข้าชม : ทั่วไป 17 ยูโร, เด็อายุไม่เกิน 18 ปี และผู้พิการ ราคา 10 ยูโร 3-17
การเดินทาง:
- รถไฟจาก Gare du Nord (ใช้เวลา 25 นาที), เลือกลงที่สถานี "Chantilly-Gouvieux" (www.voyages-sncf.com)
- RER สาย D (ใช้เวลา 45 minutes) เลือกลงที่สถานี "Chantilly-Gouvieux"
เว็บไซต์ : www.domainedechantilly.com
ปราสาท Chantilly ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปารีส โดยอยู่ทางฝั่งทิศเหนือของเมืองปารีสนั่นเอง ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1358 และถือว่าเป็นมรดกสำคัญของฝรั่งเศส
ภายในปราสาทมีการจัดแสดงเครื่องประดับ ของมีค่า หนังสือเก่า และภาพเขียนชื่อดังต่างๆไว้มากมาย
ในปี 1886 ได้ตกเป็นของ Duke of Aumale ซึ่งตัดสินในให้มีการเปิดให้มีการจัดตั้งปราสาทแห่งนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เเละเปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้
ในปี 2011 ภาพยนตร์เรื่อง "Chinese Zodiac" ของเฉินหลงได้มาทำการถ่ายทำที่ปราสาทแห่งนี้ และนั่นอาจจะเป็นเหตุหลักที่ทำให้ปราสาทแห่งนี้โด่งดังอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน
ที่ชั้นหนึ่งของปราสาทเป็นห้องรับรองเเละห้องบรรทมของเหล่าเจ้าชายแห่งราชวงศ์ Bourbon การตกแต่งที่ชั้นหนึ่งนี้เป็นการตกแต่งตามแบบของศตววรษที่ 18 มีการตกแต่งห้องด้วยศิลปะแขนงต่างๆ เเละภาพวาดชิ้นสำคัญๆ ในช่วงของการปฎิวัติฝรั่งเศส บางส่วนของปราสาทนั้นถูกทำลาย และDuke of Aumale ก็ได้ทำการบูรณะให้กลับมาสวยงามอีกครั้งในศตวรรษทื่ 19 เพื่อเเสดงให้เห็นถึงความรุ่มรวยของราชวงศ์ Bourbon นั่นเอง
เพดานเเละผนังสีขาวสลับกับสีทองเป็นเอกลักษณ์หนึ่งในยุคเริ่มต้นของสไตล์ Rococo งานเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆโดยสถาปนิกนามว่า Jean Aubert ยังคงมีการเก็กบรักษาและเเสดงให้เห็นที่บริเวณนี้ เเต่ก็อาจมีบางส่วนที่สูญหายไปในช่วงของการปฎิวัติฝรั่งเศส ภายในห้องบรรทมของเหล่าเจ้าชายนั้นแน่นอนว่ามีการัดแสดงเตียงแบบสี่เสาให้เราได้ชื่นชมความงาม
THE GALLERY OF BATTLES
นอกจากนี้ภายในปราสามยังมีห้องจัดแสดงภาพว่าขนาดใหญ่ที่บอกเล่าเรื่องราวของชัยชนะในสงครามของ Prince Grand Condé อีกด้วย
THE GRAND SINGERIE
เมื่อเดินเข้าไปอีกห้องหนึ่งก็จะได้พบกับภาพวาดของลิง และผนังห้องแบบสไตล์จีน
ภาพวาดของลิง หรือ Singerie เป็นการเเสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์และลิง รวมไปถึงอุปนิสัยท่าทางของลิงด้วย ภาพเขียนนี้เป็นผลงานของศิลปินชาวฝรั่งเศสในปีศตวรรษที่ 18 ส่วนผนังของห้องนั้นก็เป็นผลานของนักตกแต่งที่ชื่อว่า Christophe Huet ที่ออกแบบไว้นปี 1730
THE ART GALLERIES
ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดส่วนเเสดงเป็นห้องแกเลอร์รี่ โดยเป็นส่วนที่จัดแสดงภาพวาดที่ Dukes of Aumale สะสมไว้ การเข้าไปเยี่ยมชมภาพวาด หรือศิลปะภายในส่วนของพิพิธภัณฑ์ก็เปรียบกับเป็นการย้อนเวลาเพื่อชมความงดงามของศิลปะในอดีต
ภาพวาดราวๆ 85 ภาพในเเกเลอร์รี่แห่งนี้จัดแสดงเพื่อให้เห็นถึงความชื่นชม เเละหลงหลในศิลปะของ Dukes of Aumale ภาพเขียนเหล่านี้มีทั้งผลงานของศิลปินดังอย่าง Eugène Delacroix ซึ่งเป็นศิลปินในกระเเสเเนวคิดโเเมนติกจากฝรั่งเศสนั่นเอง
ก่อนออกจาแกเลอร์รี่ เรายังได้พบกับส่วนของหลังคาทรงโค้งซึ่งเป็นส่วนที่สะท้อนให้เห็นถึงสไตล์เรเนซองส์แบบอิตาเลี่ยน
นอกจากการสะสมภาพาดเเล้ว Duke of Aumale ยังมีอีกหนึ่งงานอดิเรก คือ การสะสมหนังสือ ดังนั้นเมื่อเดินชมปราสาทไปเรื่อยก็จึงได้พบกับห้องสมุดที่สวยงามอย่างมาก และเต็มไปด้วยหนังสือมากมาย หนังสือของ Duke of Aumale ถูกนำไปประมูลอยู่บ่อยครั้งในงานประมูลทั่วยุโรป
หนังสือเกือบ 19,000 ถูกจัดเรียงอยู่ในห้องหนังสือแห่งนี้ นี่น่าจะเป็นสถานที่โปรดของเหล่าคนรักหนังสืออย่างแน่นอน
ด้านนอกของปราสาท Chantilly คุณจะได้พบกับสวนขนาดใหญ่ โดยแบ่งบริเวณสวนออกเป็น 3 ตีม ได้แก่ สวนสไตล์ฝรั่งเศสซึ่งออกแบบโดย André Le Nôtre สวนสไตล์จีนที่ออกแบบมาตั้งเเต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 18 และสวนสไตล์อังกฤษซึ่งออกแบบมาตั้งเเต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ในบริเวณสวนขนาดกว้างนี้มีทั้งส่วนของทะเลสาบ ต้นไม้ แม่น้ำ ลานหญ้าที่ผสมผสานกันออกมาอย่างลงตัว
ใกล้กับตัวปราสาท คุณจะได้พบกับ Great Stables ซึ่งว่ากันว่าเป็นหนึ่งในโรงม้าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ออกแบบโดยสถาปนิกที่ชื่อว่า Jean Aubert ในศตวรรษที่ 18 บริเวณโรงมาแห่งนี้มีลานแข่งขนาดใหญ่และมีการแสดงโชว์ตลอดทั้งปี รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์เกี่ยวม้าซึ่งเปิดให้เข้าชมมาตั้งแต่ 2013 ภายในมีการจัดแสดงภาพวาดบอกเล่าเรื่องราวความผูกพันของม้าเเละวิถีชีวิตของมนุษย์ด้วย หากไปถึงตัวปราสาทแล้วก็แนะนำว่าให้แวะเข้าไปชมโรงม้าแห่งนี้เพิ่มเติมด้วยก็ไม่เลว
เรื่อง : Lexi Wang
ภาพ : Lexi Wang & PHAN Thanh Thuy
แปล : Supawadee Pinkhao