Crepes หรือ เครปแบบฝรั่งเศสเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวฝรั่งเศส หากลองมาทำความเข้าใจกันให้ลึกซึ้ง เครปแบบฝรั่งเศสนั้นมีอยู่ด้วยกันหลักๆ สองประเภท คือ Crêpe (เคร็ป) และ Galette (กาแล็ต)
คำว่า “crêpe” ของชาวฝรั่งเศสนั้นใช้เรียกครอบคลุมทั้ง Crêpes de Froment (เคร็ปเดอโฟรม็องที่ทำจากแป้งสาลี) และ Galettes de Sarrasin (กาแล็ตเดอซาคาแซ็งที่ทำจากแป้งบัควีท) ซึ่งชาวต่างชาติอาจจะสับสนได้เมื่อได้เห็นเมนูอาหารในร้านเคร็ปฝรั่งเศส Crêpes de Froment จะเป็นเคร็ปของหวาน มีเนื้อบางและสีน้ำตาลทอง ส่วนผสมสำหรับแป้งเคร็ปชนิดนี้ได้แก่ ไข่ แป้ง นม น้ำตาล เนย และทอดบนกระทะจนได้ที่ ส่วน Galettes de Sarrasin นั้นจะมีความหนากว่า และออกจะมีความกรอบอยู่นิดหน่อย สีของแป้งมีความเข้มมากกว่าและมีรสชาติเค็มกว่านิดหน่อย
Crêpe เป็นอาหารฝรั่งเศสที่นิยมทานกันทั่วไปในหลายๆเมืองของประเทศฝรั่งเศส ส่วน Galette จะนิยมในแคว้น Bretagne (เบรอตาญ หรือ Brittany) และหลายๆคนน่าจะเคยได้ยินชื่อเมนูนี้ในนามว่า galette bretonne
ชาวฝรั่งเศสไม่นิยมกินตัวแป้งเครปแบบเปล่า แต่จะมีการเติมทอปปิ้งเข้าไป ร้านเครป หรือ creperie ในฝรั่งเศสส่วนใหญ่มีตัวเลือกหลากหลายสำหรับเครป แต่ถ้าเป็นร้านแบบดั้งเดิมที่เก็บรักษาความเป็นออริจินัลของเครปฝรั่งเศสไว้จะมีเมนูประจำที่สามารถเลือกรับประทานได้เพื่อรับรู้ถึงรสชาติแบบดั้งเดิมของเมนูนี้
ตัวเครปที่ทำจากแป้งสาลี เมนูประจำที่หาทานได้ ก็ได้แก่ crêpes au sucre (แป้งเครปโรยน้ำตาล), crêpes caramel au beurre salé (แป้งเครปโรยคาราเมลรสเค็มจากเบรอตาญ หรือ Salted Caramel นั่นเอง), แป้งเครปราดซอสนูเทลล่าและโปะหน้าด้วยกล้วย และไม่ว่าจะเมนูไหนก็สามารถเพิ่มตัว Crème Chantilly (วิปครีมรสหวานหอม) ได้ด้วย ตัวเครปแป้งสาลี บางครั้งอาจจะเรียกว่า Suzette (สูตรแป้งเครปในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่มาพร้อมกับน้ำตาลคาราเมล เหล้าฝรั่งเ เลมอนและเปลือกส้ม และจุดเปลวไฟเมื่อเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร เพิ่มความตื่นเต้นในการรับประทาน
ตัวเครปแป้งบัควีท จะถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับไส้แฮม ไข่ และชีส เพิ่มด้วยแซลมอน ไส้กรอกโชริโซ่ หรือ ไส้กรอกเครื่องใน andouille de Guéméné ตามแต่จะเลือก
นอกจากรสชาติดั้งเดิมของเครปแล้ว ร้านอาหารหลายๆร้านยังรังสรรค์เมนูเครปให้มีความแปลกใหม่มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสูตรแป้งแบบวีแกน เครปที่หน้าฟัวกราส์ หรือล็อปสเตอร์ เครปแป้งสาลีโดยทั่วๆไปราคาเริ่มต้นที่ 3 ยูโร ไปจนถึง 6 ยูโร ส่วนตัวเครปแป้งบัควีทจะมีราคาแพงขึ้นมาหน่อย โดยจะเริ่มต้นที่ 8 ยูโร ไปจนถึง 15 ยูโร หากเป็นเครปในร้านอาหารหรูที่มาการสอดแทรกส่วนผสมที่มีราคาแพงขึ้นก็อาจจะมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย
รูปทรงของเครปนั้นมีอยู่หลากหลายแบบตามจินตนาการของเชฟแต่ละคน โดยทั่วไปก็จะเป็นทรงสี่เหลี่ยม หรือพับสามเหลี่ยม แต่บางร้านก็นำเสนอเครปมาโดยการม้วยโรล ดังในภาพด้านบนที่เราถ่ายมาจากร้าน Breizh Café
ร้านเครปแบบฟาสต์ฟู้ดมีอยู่มากมายในแหล่งท่องเที่ยวของปารีส ซึ่งราคาจะอยู่ที่ราว 5 ยูโร เครปที่ขายตามจุดท่องเที่ยวจะเป็นทรงพับแบบสามเหลี่ยม ด้วยราคาที่ไม่แพงนัก วัตถุดิบอย่างชีส หรือซอสชอกโกแล็ตก็จะเป็นแบบที่ราคาถูก รสชาตทั่วๆไป แต่ถ้าหากอยากได้ประสบการณ์การกินเครปที่ดีกว่าก็ต้องลองเข้าไปที่ร้านขายเครปโดยเฉพาะหรือที่เรียกว่า Crêperie นั่นเอง
ที่รอบๆสถานีรถไฟ Gare Montparnasse เป็นบริเวณที่เรียกว่าโซนเบรอตาญ ณ ปารีส นั่นก็เพราะช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีผู้คนอพยพมาจากแคว้นเบรอตาญของฝรั่งเศส โดยใช้การเดินทางโดยสารถไฟและมาตั้งรกรากที่บริเวณใกล้เคียง และนั่นก็ทำให้บริเวณรอบๆมีร้านอาหารสไตล์เบรอตาญอยู่มากมาย ส่วนร้านที่เป็นหนึ่งในร้านเครปที่ดีที่สุดนั้นมีชื่อว่า “Breizh Café” เป็นร้านอาหารเฟรนไชส์ทั่วปารีส (Breizh ในภาษาเบรอตาญมีความหมายว่า เบรอตาญหรือบริททานี) ราคาของเครปที่ร้านนี้จะมีราคาสูงกว่าร้านเครปอื่นๆ นั่นก็มีที่มาจากการใช้ส่วนผสมและวัตถุดิบที่ผ่านการเลือกมาเป็นอย่างดีและยังมีกรรมวิธีในการประกอบอาหารที่พิถีพิถันทุกขั้นตอน
เครื่องดื่มที่เหมาะกับการรับประทานเครปฝรั่งเศสนั้นก็คือไซเดอร์นั่นเอง ไซเดอร์เป็นเครื่องดื่มที่คล้ายๆกับสปาร์คเคลิลลิ่งไวน์ทำจากแอปปเปิ้ลหมัก ไซเดอร์ส่วนใหญ่นั้นผลิตในสองแคว้นเป็นหลัก ได้แก่ บริททานีและนอ์มังดี ไซเดอร์นั่นจะเทเสิร์ฟในแก้วไวน์ที่มีทรงดังภาพด้านล่าง หรือเรียกว่า bolée (โบเล่) นั่นเอง
Cider จะมีสีออกเหลือง แต่ก็อาจจะมีโทนที่แตกต่างกันออกไปตามแต่วิธีการหมัก โดยทั่วๆไปจะมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 6 เปอร์เซ็นต์ ไซเดอร์สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ “Doux” (ดูซ หรือ ไซเดอร์แบบหวาน หรือ Sweet) ซึ่งจะมีรสชาติที่อ่อน และอีกประเภทหนึ่ง คือ “Brut” (บรูท) ซึ่งจะมีรสชาติที่เข้มขึ้น บางประเภทจะถูกเรียกว่า“Cidre fermiers”(ซิด เฟมิเย่) ซึ่งเป็นไซเดอร์ที่ผลิตจากไร่แอปเปิ้ลโดยตรง
เมื่อพูดถึงเครป เราก็คงต้องเอ่ยถึงเทศกาลเครปแห่งชาติ หรือภาษารั่งเศสเรียกว่า Chandeleur (หรือ Candlemas ที่เกิดขึ้นทุกวันที่ 2 กุมภาพันธ์) วันนี้นับเป็นหนึ่งในวันหยุดทางศาสนาที่รำลึกถึงพระแม่มารีและพระบุตร บ้างก็เรียกวันนี้ว่าเป็น Le Jour des Crêpes (วันของเครป) เพราะชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่จะมีธรรมเนียมการทำเครปกินที่บ้าน และเชิญชวนให้สมาชิกในครอบครัวมาร่วมกันทำเครป
อีกหนึ่งธรรมเนียมหรือเรื่องเล่าที่น่าสนใจ ก็คือ หากผู้ที่ทำเครปถือเหรียญไว้ในมือข้างหนึ่ง และใช้มืออีกข้างกลับแผ่นเครปในกระทะได้สำเร็จ จะถือว่าปีนั้นเป็นปีที่ดี หากอยากประสบความสำเร็จก็สามารถลองทำได้ แต่เราก็แนะนำว่าให้ลองทาน้ำมันบนกระทะเสียก่อนที่จะทดลองความเชื่อนี้
เราหวังว่าเรื่องราวของเครปจะทำให้หลายๆคนเพลิดเพลินและเตรียมพร้อมกับการเดินทางไปเที่ยวฝรั่งเศสในครั้งต่อไป
Bon appétit!
เรื่องและภาพ : O'bon Paris Team