สำหรับใครที่เป็นสายท่องเที่ยวผจญภัย วิ่งเล่นในธรรมชาติ Dune du Pilat หรือภูเขาทรายขนาดใหญ่แห่งบอร์โด คือ อีกหนึ่งสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด
Dune du Pilat ถ้ามองผ่าน ก็คงรู้สึกเหมือนพาตัวเองเข้าไปอยู่ในทะเลทรายซาฮารา เนินทรายแห่งนี้มีความสูงมากว่าร้อยเมตร แบ้วเป็นแนวยาวเกือบ 3 กิโลเมตร เนินทรายแห่งนี้เกิดลมแอตแลนติกที่พัดทรายให้เกิดมาเป็นกองรวมกันมากกว่าหลายพันปี และยังคงกินบริเวณมากขึ้นทุกๆปี
เมื่อขึ้นไปถึงที่ด้านบนของเนินทรายแห่งนี้ ภาพที่จะปรากฎให้ได้เห็น คือ อ่าว Arcachon และมหาสมุทรแอตแลนติก ที่ด้านล่างของเนินทรายคุณยังจะได้เห็นสันทรายกลางทะเล “Banc D’Arguin” ซึ่งจะดูเหมือนมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงอยู่ตลอดเวลาเนื่องมาจากแรงลมและคลื่นในมหาสมุทร เเละหากมองไปที่ทางซ้ายมือ ก็จะได้พบกับแหลม Cap Ferret
ก่อนอื่นให้ทำการนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Arcachon โดยจะเจิ่มต้นจากสถานี Gare Saint Jean ในเมืองบอร์โด การเดินทางใช้เวลาประมาณ 50 นาที ราคาตั๋วอยู่ที่ประมาณ 8 ยูโร โดยรถไฟจะมีให้บริการอยู่ทุกชั่วโมง เมื่อเดินทางไปถึงที่สถานี Arcachon ให้เลือกขึ้นรถบัสสาย 1 ที่ด้านหน้าสถานีรถไฟนั่นเอง ราคาตั่วรถบัสอยู่ที่ 1 ยูโร สำหรับขาเดียว โดยปกติจะมีรถบัสวิ่งทุกๆ 30 นาที หากใครต้องการซื้อตั๋วทั้งไป-กลับก็สามารถแจ้งพนักงานขายตั๋วได้เลย ก่อนขึ้นรถบัสให้สังเกตให้เเน่ใจว่ารถบัสที่ขึ้นนั้นเป็นรถบัสที่จะเดินทางไปยังสถานีปลายทาง Plage de la Salie และให้เลือกลงที่ป้าย Dune du Pilat
เมื่อเดินทางไปยัง Dune du Pilat แน่นอนว่าจะได้พบกับภาพของภูเขาทรายที่ตั้งสูงตระหง่าน น่าตกตะลึง คุณต้องไม่พลาดที่จะเดินขึ้นไปเยี่ยมชมที่บริเวณยอดของภูเขาทราย การเดินขึ้นไปยังยอดของภูเขาทรายนี้สามารถทำได้ทั้งการเดินขึ้นบันได หรือหากใครต้องการเพิ่มความสนุกให้กับการท่องเที่ยวก็สามารถเดินไต่ทรายขึ้นไปได้เช่นกัน
หรือถ้าใครที่อยากจะเดินขึ้นจากฝั่งมหาสมุทรก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เดินไล่มาจากอ่าว Arcachon โดยเป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง การเดินจากฝั่งทะเลนี้ถือว่าเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น เเละเต็มไปด้วยบรรยากาศที่สวยงามตลอดระยะการเดิน นอกจากนี้คุณยังสามารถเช่าจักรยานปั่นจากอ่าว Arcachon ไปยัง Dune du Pilat ก็ได้อีกด้วย ใครชอบผจญภัยแบบไหนก็เลือกได้เลย
อีกหนึ่งตัวเลือกที่แปลกใหม่ คือ การนั่งเรือจาก Cap Ferret ไปยัง Dune du Pilat โดยเรือมีทั้งหมด 3 รอบต่อวันด้วยกัน แน่นอนว่าการนั่งเรือคงจะเป็นอีกเส้นทางที่สร้างเสริมประสบการณ์น่าประทับใจการเดินทางให้กับใครหลายคน
ระยะเวลาที่เหมาะสำหรับการนั่งเล่น วิ่งเล่น ชื่นชมความงดงามของของ Dune du Pilat ก็อยู่ที่ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง แต่หากใครที่อยากใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดทะเลเต็มๆวันก็สามารถแพลนทริปเที่ยวภูเขาทราย Dune du Pilat ร่วมกับการเที่ยวทะเลในบริเวณอ่าว Arachon ก็ย่อมทำได้
การเดินเล่นริมทะเลบริเวณนี้มีหลากหลายกิจกรรม และหนึ่งในนั้น คือ การนั่งเรือไปยังแหลม Cap Ferret (มีเรือให้บริการทุกชั่วโมง ราคา 7€) การนั่งเรือใช้เวลาประมาณ 25 นาที เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวประมงและนั่งเรือต่อไปยัง Dune du Pilat ในราคา 13 ยูโร เมื่อเรือจอดก็สามารถเลือกได้ว่าลงไปว่ายน้ำใกล้บริเวณภูเขาทรายหรือนั่งปิคนิคสบายๆริมทะเล
หากใครที่ไม่สะดวกเตรียมอาหารไปทานเอง คุณสามารถเข้าไปรับประทานอาหารได้ที่ร้าน la Coorniche ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากภูเขาทราย นอกจากอาหารรสชาติอร่อย บรรยากาศริมทะเล ที่มีทั้งสีฟ้าของทะเล เเละสีเบจของทราย รับรองว่ามื้ออาหารนี้จะมีแต่ความประทับใจ
ก่อนเดินทางกลับมายังตัวเมืองบอร์โด คุณสามารถเดินเเวะเข้าไปชมหมู่บ้าน Arcachon ซึ่งมีกำเเพงสไตล์ศตวรรษที่ 19 เป็นอีกหนึ่งจุดสนใจ
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินทางไปเที่ยที่ภูเขาทรายแห่งนี้ คือ ช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม อากาศในช่วงเหมาะอย่างมากสำหรับการเดินทาง และเป็นช่วงที่มีรถสาธารณะให้บริการค่อนข้างเยอะ (โดยเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม)
ที่บนภูเขาทรายนั้น เราขอเตือนว่าให้เตรียมอาหารทานเล่นขึ้นไปให้พร้อม เเละเข้าห้องน้ำ ทำภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย เนื่องจากบนภูเขาทรายนั้นเป็นสถานที่ปลอดสิ่งก่อสร้างหรือร้านใดๆทั้งสิ้น นอกจากนี้อย่าลืมเเว่นกันเเดเพื่อป้องกันทั้งแสงแดด ลม และเศษทรายที่เกิดจาดลมพัด
การเดินทางด้วยรองเท้าแตะหรือเท้าเปล่า คือ ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใครที่กำลังตั้งคำถามเรื่องนี้อยู่ แต่อย่างไรก็ตามการเดินเท้าเปล่าอาจจะต้องทนความร้อนของทรายอยู่บ้าง ดังนั้นก็ลองเช็คสภาพอากาศกันสักหน่อยก่อนการเดินทาง
ช่วงพระอาทิตย์ตก ณ อ่าว Arcachon คือ ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ถ้าใครที่มีเวลาเหลือ อาจจะลองหาที่พักใกล้ เเละใช้เวลาค้างคืนเพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกก่อนกลับ
ภาพเเละเรื่อง - Vincent Sacau