ประเทศฝรั่งเศสเป็นชาตที่มีชื่อเสียงเรื่องอาหาร เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักชิม การันตีได้จากการได้รับการคดเลือกให้เป็นหนึ่งในรายชื่อของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (intangible cultural heritage) เราได้พูดกันอยู่บ่อยครั้งว่าชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศสในด้านอาหารนั้น หลักๆก็มาจากอาหารต่างๆหลากหลายชนิด เช่น ทรัฟเฟิล ฟัวส์กราส์ ชีส ไวน์ เป็นต้น ต้องบอกเลยว่าถ้าจะลองชิมอาหารฝรั่งเศสให้ครบทุกอย่าง ทุกชนิดก็คงต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ บางครั้งการเดินทางไปเยือนถิ่นกำเนิดของอาหาร หรือการเข้าไปรับประทานในร้านอาหารฝรั่งเศสแบบแท้ๆนั้นก็ต้องยอมรับว่ามีค่าใช้จ่ายที่สูงไม่น้อย ดังนั้นหนึ่งทางออกที่จะช่วยประหยัด และทำให้ได้ทานอาหารหลายๆอย่างพร้อมกัน ก็คงไม่พ้นการซื้อกลับมาทานที่บ้าน ในกรุงปารีสนั้นมีร้านขายผลิตภัณฑ์ประกอบอาหารอยู่จำนวนมาก แต่สำหรับใครที่อาจจะมีเวลาจำกัดในเรื่องของการเดินทาง หรือไม่อยากที่จะต้องเดินทางไปหลายสถานที่เพื่อจับจ่าย เลือกซื้ออาหาร เราขอเชิญชวนให้เข้าไปเลือกซื้ออาหารได้ที่ Le Gourmet (เลอกุคเม่) ซึ่งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง กาเลอรี่ ลาฟาแยตต์ ( Galeries Lafayette) จริงๆก็เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของกาเลอรี่ลาฟาเเยตต์ก็ไม่ผิด ในส่วนของ Le Gourmet แห่งนี้ได้รับรวมผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆไว้มากมาย ทั้งอาหารสด ขนม ของหวาน อาหารปรุงสำเร็จ ซึ่งล้วนแล้วเเต่เป็นสินค้าที่ได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี เป็นสินค้าคุณภาพผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญทั้งสิ้น
เนื้อหาของเราวันนี้ เราขอมุ่งไปที่การเลือกซื้ออาหารเพื่อ (1) เป็นของฝาก หรือของที่ระลึก (2) เพื่อจัดเตรียมปาร์ตี้ขนาดเล็กในห้องพัก (3) เพื่อจัดเตรียมช่วงเวลาจิบชากับเพื่อนหรือตนสนิท
Le Gourmet ตั้งอยู่ในตึก Maison & Gourmet อยู่ทางฝั่งตรงข้ามของอาคารเครื่องใช้ผู้ชาย ของกาเลรี่ ลาฟาแยตต์ (Galeries Lafayette) ที่ชั้นใต้ดินของ Le Gourmet นั่นสามารถเรียกได้ว่าเป็นห้างสรรพสินค้าสำหรับอาหารที่รวบรวมผลิตภัณฑ์เกรดเอ พรีเมี่ยม มีทั้งร้านขายเนื้อ อาหารทะเล ชีส แฮม และอื่นๆอีกมากมาย เเละชั้น G ของ Le Gourmet เป็นจุดรวบรวมอาหารแบรนด์ดังๆที่เป็นที่รู้จัก เช่น ขนมอบ ช็อกโกแลต เครื่องเทศ เบอเกอรี่ เเละร้านกาแฟ เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 1 ก็จะได้พบกับห้องเก็บไวน์ขนาดใหญ่ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไล้ท์สำคัญ เพราะเมื่อพูดถึงไวน์แล้ว ด้วยความเป็นฝรั่งเศสก็จะต้องพิถีำิถัน คัดเลือกมาอย่างดี
ของฝากเจ้าประจำเมื่อมาถึงปารีส หลายๆคนคงอาจจะเริ่มรู้สึกอยากจะเปลี่ยนจากพวงกุญแจหอไอเฟลเป็นอย่างอื่นบ้าง Le Gpurmet แห่งนี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังเเน่ๆ เพราะนอกจากจะได้ของฝากที่แตกต่างไปจากเดิมเเล้ว ยังเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ผู้ที่ได้รับต้องปลื้มปริ่มเป็นอย่างแน่นอน
Alain Ducasse เป็นเชฟชื่อดังระดับ ร้านอาหารของเขาได้รับรางวัลมิชลิน (Michelin) และเมื่อพูดถึงผลิ๖ภัณฑชอกโกแลตบาร์ ก็เเน่นอนว่าจะต้องไม่ให้เสียชื่อ เจ้าชอกโกแลตบาร์นี้ถูกผลิตขึ้นภายใต้คอนเซ็ป "bean-to-bar" ก็คือจากเมล็ดโกโก้สู่ช็อกโกแลตแท่งกันเลยทีเดียว ผลิตภัณฑ์ซิเนอเจอร์สำคัญอีกหนึ่งอย่าง คือ ชอกโกแลตบาร์ความเข้มข้นระดับ 75% ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสและมีความสุขไปกับความลงตัวของชอกโกแลตที่แสนจะเข้มข้น และกลมกล่อม ส่วนใครที่อาจจะชอบความมีลูกเล่นสักหน่อยก็อาจจะเลือกเป็น Hazelnut chocolate spread หรือชอกโกเเลตสำหรับทาจนมปัง ที่มีส่วนผสมของถั่วอัลมอนด์ เฮเซลนัทเคลือบน้ำตาล (hazelnut praline) ดาร์กชอกโกแลต และชอกโกแลตนม เมื่อได้รับประทานเเล้ว รับรองเลยว่าอารมณ์ที่ขึ้นเเละจะช่วยเพิ่มรอยยิ้มให้กับเด็กหรือผู้ที่ได้รับอย่างแน่นอน
Boissier คือ ผู้ผลิตขนมหวาน โดยก่อตั้งเป็นกิจการขึ้นมาตั้งเเต่ปี 1827 ผลอตภัณฑ์ของ Boissier เน้นไปที่ลูกอมหลากสีที่ถูกบรรจุอยู่ในกล่องลวดลายโรเเมนติก มีสีสัน มองผ่านๆก็ดูคล้ายกับกล่องจิวเวอร๊่ เครื่องประดับต่างๆ
Pierre Marcolini เป็นร้านช็อกโกเเลตชื่อดังจากเบลเยี่ยม เมื่อพูดถึงชอกโกแลตจากเบลเยี่ยมก็คงไม่ต้องอธิบายสรรพคุณให้มากมาย เบลเยี่ยมขึ้นชื่ออย่างยิ่งในด้านของการผลิตชอกโกแลต รสชาติความกลมกล่อมของช็อกโกเเลตรูปทรงต่างๆ บรรจุมาในกล่องรูปร่างเรียบหรู แน่นอนว่าผู้ได้รับคงเป็นปลื้มอย่างแน่นอน
Bonne Maman เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ขวัญใจชาวฝรั่งเศส เมื่อได้ทำความรู้จักกับเเบรนด์นี้แล้ว เราขอการันตีว่าคุณจะไม่มีทางผิดหวัง รสชาติที่ไม่มีทางลืมได้ อร่อย ติดใจ ผลิตภัณฑ์คุกกี้ของ Bonne Maman ทุกรุ่น ทุกรสชาตินั้นเป็นหนึ่งไม่เเพ้ใคร Bonne Maman เริ่มต้นมีชื่อเสียงด้วยคุกกี้แยมเเละมามาเลด ดังนั้นหากจะเลือกซื้อคุกกี้เป็นของฝาก คุกกี้ทาร์ตเเยมสตริเบอร์รี่ของ Bonne Maman คือหนึ่งในรายการเเนะนำ ราคาไม่เเพง เเต่เต็มไปด้วยคุณภาพ นอกจากนี้เรายังของเเนะนำให้เลือกเอาขนม Mademeine จาก Bonne Maman ติดมือมาด้วย ขอการันตีเลยว่าคุ้มค่าเงินเเละสร้างความประทับใจได้อย่างเเน่นอน
ส่วนของขวัญสำหรับเพื่อนที่เป็นสายนักชิม หรือผู้หลงใหลในการปรุงอาหาร ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเห็ดทรัฟเฟิล คือ ตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว Artisan de la Truffe มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเห็ดทรัฟเฟิลให้เลือกมากมาย ทั้งน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล เกลือผสม ซึ่งจะช่วยสร้างกลิ่นอายของอาหารฝรั่งเศส
หลายครั้งที่การจัดปาร์ตี้เล็กในห้อง หรือมื้อค่ำง่ายๆกับคนสนิทในบ้าน ก็เป็นเรื่องที่น่าสนุกเเละสร้างช่วงเวลาดีๆได้มากทีเดียว
La Cave มีขนาดประมาณ 450 ตารางเมตร เเละจักเก็บไวน์ไว้ถึง 2500 ชนิด มีทั้งไวน์จากฝรั่งเศส เเละไวน์จากนานาชาติ ซึ่งไวน์เเละเครื่องดื่มที่วางขายใน La Cave มีทั้งราคาเเพงไล่ลงไปถึงราคา 10 ยูโร ที่ La Cave มีผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์คอยให้ความช่วยเหลือ สำหรับใครที่อาจจะยังไม่ค่อยมีความรู้ก็ลองถามผู้เชี่ยวชาญประจำ La Cave ได้เลย ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ ในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า "sommelier"
5 Jotas เป็นร้านขายแฮม Ibelian Pata Negra ซึ่งเป็นแฮมที่ผลิตด้วยกรรมวิธีเเบบดั้งเดิม ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น G ที่หน้าร้านจะมีเชฟประจำอยู่ เมื่อเราต้องการซื้อเเฮม เชฟประจำร้านก็จะตัดชิ้นส่วนของแฮมออกมาจากก้อนเนื้อที่ห้อยอยู่ที่ด้านหน้าร้านให้เราได้เห็นชัดเลย เป็นประสบการณ์สนุกๆในการเลือกซื้ออาหารอีอย่างหนึ่ง
Maison Vérot เป็นร้านที่เชี่ยวชาญเรื่องของผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์มาตั้งเเต่ปี 1930 Pâté en croute คือ เนื้อสัตว์บดปรุงรส มีทั้งเนื่อหมู ตบห่านบด และแฮม ห่อด้วยแป้งพายด้านนอกเเละนำไปอบให้ได้รบชาติเเละเนื้อสัมผัสกลมกล่อม Pâté en croute นิยมรับประทานเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย คู่ไปกับสลัดก่อนอาหารหลักในมื้อ
Foie gras (ฟัวกราส์) เป็นหนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของฝรั่งเศส ได้มาจากตับของเป็ดหรือห่าน เนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล เข้ากันดีกับไวน์ขาว ผลมะเดื่อฝรั่ง (ลูกฟิก) หรือแยมผลไม้ ฟัวสกราส์ประเภทที่ง่ายสำหรับการรับประทานที่สุดก็คงจะเป็นแบบ terrine หรือแบบที่มีลักษณะเป็นก้อน เพียงแค่เปิดเเพกเกจ วางเนื้อฟัวกราส์ลงไปบนขนมปังฝรั่งเศส (ถ้ามีเครื่องปิ้งก็จะยิ่งดี) เเล้วเพิ่มแยมลงไปอีกนิดหน่อย เพียงแค่นี้ก็จะได้รับประทานฟัวกราส์ในแบบฝรั่งเศสเเล้ว พยายามอย่าป้ายเนื้อฟัวกราส์แบบเนื้อเเยม ให้วางลงไปแบบเป็นก้อนๆเลย แบบนี้จะดูมีความเเฟนซี น่ารับประทานเเละอร่อยมากกว่า
Camembert, Brie, Comté... เมื่อมาถึงฝรั่งเศส ชีส คือ อีกหนึ่งรายการอาหารสำคัญที่ต้องได้ลอง ที่ขั้นได้ดินของ Le Gourmet เป็นแหล่งรวบรวมชีสจำนวนมากมาย นับไม่ถ้วนเลยทีเดียว ถ้าอยากจะห่อกลับข้ามประเทศ เราสามารถขอให้พนักงานช่วยเเพกชีสในถุงสุญญากาศ เพื่อช่วยการถนอมอากหารได้
ถ้าจะลองทานแบบฝรั่งเศสเเท้ ก็ขอเเนะนำว่าต้องมีขนมปังฝรั่งเศส (บาแกตต์) ติดมือไปด้วย ซึ่งร้านขนมปังที่เราเเนะนำให้ลองไปเลือกชิมดู คือ ร้านขนมปังที่ตั้งอยู่ที่ชั้น G ของ Le Gourmet นั่นเอง เชฟขนมปัง Thierry Meunier ผู้ซึ่งได้รับรางวัล "Meilleur Ouvrier de France" หรือช่างทำขนมปังที่ดีที่สุดของฝรั่งเศส คือ เชฟประจำของร้านขนมปังเเห่งนี้
การดื่มชาเเละกาแฟ เป็นอีกหนึ่งวัฒธรรมเฉพาะของชาวฝรั่งเศส
มาการ็อง จาก Pierre Hermé น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วสำหรับใครหลายคน เนื้อสัมผัสกรุบที่ด้านนอก ความนุ่มกรุบเมื่อกัดเข้าไป รสชาติแยบยลของครีมที่สอดซ่อนอยู่ตรงกลาง ทุกส่วนประกอบของขนมชนิดนี้คือ ศิลปะและความประณีตที่น่าชื่นชม กล่องบรรจุที่สวยงาม สีสันที่สะดุดตา คงไม่ง่ายที่จะห้าใจไม่ลอง
Eclair de Génie คือ ชื่อของร้านขนมเอเคลร์ที่เปิดขึ้นตั้งเเต่ปี 2012 สีสันเเละการจัดวางขนมเอแคลร์นั้นเเสดงให้เห็นถึงความประณีต ใส่ใจใทุกรายละเอียด เอเเคลร์รสครีม Lemon yuzu และ salted caramel เป็นรสชาติที่นิยมที่สุดที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรพลาด
สัญลักษณ์รูปสุขัขจิ้งจอก คือ สัญลักษณ์ของขนมแบรนด์ Yann Couvreur "Paris Brest" คือ ขนมที่สร้างชื่ให้กับ Yann Couvreur ครีม hazelnut cream เนื้อนุ่มเเน่นๆ ความกรอบกรุบด้านนอก นุ่มลิ้นที่ด้านในของเเป้งชู เป็นเหตุปลที่ทำให้ขนมนี้มีชื่อเสียง เเละควรค่ากับการลิ้มรส นอกจาก ¨Paris Brest แล้ว ไอศกรีมของ Yann Couvreur ในช่วงฤดูร้อนยังเป็นที่นิยมสุด ยืนยันได้จากความยาวของจำนวนคนที่มายืนต่อเเถงเพื่อรอไอศกรีมในช่วงหน้าร้อน
รูปด้านบนที่เห็นอยู่นั้น คือ เค้กที่เกิดจากตัดสินใจร่วมงานกันของศิลปิน อย่าง Jo Di Bona เเละร้าน Dalloyau เค้กในภาพนี้มีชื่อเรียกว่า Opéra เป็นเค้กลิมิเต็ดอีดิชั่น ด้วยการตกแต่ง ลวดลายที่แปลกตาออกไป น่าจะเป็นการยืนยันถึงความเเปลกใหม่ เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างชัดเจน หากลองมองให้ดีๆ ลวดลายบนเค้กนั้นเป็นกราฟิตี้คัลเลอร์ฟูล ภาพของพระเจ้าหลุยศที่ 14 นั่นเอง
One of the oldest French historical tea house (since 1854), Mariage Frères คือ ชื่อของยี่ห้อชาที่มีชื่อเสียงมาเนิ่นนาน ตั้งเเต่ปี 1854 กลิ่นที่่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รวมถึงลวดลายบรรจุภัณฑ์ที่หรูหราทำให้ชื่อเสียงของ Mariage Frères เป็นที่รู้จัก กลิ่นชาที่ขายดีที่สุดของ Mariage Frères คือ กลิ่น Marco Polo ซึ่งเป็นชาดำที่มีกลิ่นหอมของมวลดอกไม้เป็นเหตุผลสำคัญที่ใครๆก็พากันติดใจ
ในช่วงคริสมาสต์ ที่ Le Gourmet จะมีการตกเเต่งตามเทศกาล เเละยังมีเค้กรูปแบบเฉพาะเเต่ละเทศกาลวางขายอีกด้วย
If you are over the age of 16 and living outside of European Union, you can get a tax refund for a value of 12%, when the total amount of your purchases made on the same day at Galeries Lafayette Paris Hausmann is over 100 euros. สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 16 ปีเเละอาศัยอยู่นอกทวีปยุโรป คุณสามารถของภาษีมูลค่าเพิ่ม 12% คืนได้หากมียอดใช้จ่ายในวันนั้นเกินกว่า 100 ยูโรที่ Galeries Lafayette Paris Hausmann การดำเนินการขอภาษาคืน สามารถทำได้ภายในสามวันหลังจากวันที่ทำการซื้อสินค้า
All the receipts (excluding purchases at restaurants or cafes) can be combined. ใบเสร็จต่างๆ สามารถนำมารวมกันได้เพื่อทำการขอคืนภาษี อย่างไรก็ตามขั้นตอนการขอคืนภาษีอาจจะมีการเปลี่ยนเเปลงอยู่เรื่อยๆด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยคูรสามารถเข้าไปดูรายละเอียดการขอภาษาคืนได้ ที่นี่
ที่ตึก Maison&Gourmet คุณสามารถขื่นเอกสารขอคืนภาษาได้ที่ชั้น 3 หรืออาจจะนำไปดำเนินการที่ตึก Coupole ก็ได้เช่นกัน
เรื่อง- Yuka Ishihara
ภาพ - Phan Thanh Thủy
ที่อยู่: 35 Boulevard Haussmann, 75009, Paris
การเดินทาง: เมโทรสาย 7 หรือ 9 สถานี Chaussée d'Antin-La Fayette / เมโทรสายline 3, 7 หรือ 8 สถานี Opéra / เมโทรสาย 12 สถานี Trinité / RER สาย A สถานี Auber / RER สาย E สถานี Haussmann-St Lazare
เวลาทำการ : วันจันทร์-วันเสาร์ 10:00-18:00 (อย่างไรก็ตามอาจมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงสถานการณ์โรคระบาด โดยสามารถติดตามข้อมูลได้ที่นี่ )