Grand Palais ตั้งอยู่เพียงตรงกันข้ามกับ Petit Palais ติดกับถนน Champs-Elysees ถูกก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 1900 สำหรับนิทรรศการจัดแสดงสินค้าโลกที่จัดขึ้นที่กรุงปารีส ปัจจุบันนี้ได้กลายมาเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆมากมาย อย่างเช่นผลงานศิลปะ หรือแฟชั่นโชว์ เป็นต้น แฟชั่นโชว์ชื่อดังที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือแฟชั่นโชว์จากแบรนด์เนมสัญชาติฝรั่งเศสชื่อดังอย่าง Chanel ที่เมื่อไรที่มีคอลเลคชั่นใหม่เกิดขึ้นก็มักจะมาจัดงานแฟชั่นโชว์ที่นี่เป็นประจำเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน
ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2018 ไปจนถึงวันที่ 17 มกราคม 2019 ที่ Grand Palais แห่งนี้ก็จะมีนิทรรศการจัดแสดงผลงานศิลปะเกี่ยวกับเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับการยอมรับกันว่าเป็นสถานที่ให้กำเนิดศิลปะหลากหลายแขนงที่สืบทอดกันมาจนถึงทุกวันนี้
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยศตวรรษที่ 18 ที่เมืองเวนิส (Venice) ประเทศอิตาลี เหล่าประชาชนชาวเวนิสต่างก็ตกตะลึงกับศิลปะหลากหลายแขนงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น visual art, decorative art, ดนตรี และโอเปร่า นอกจากนั้นยังทำให้ประเทศอื่นๆในยุโรปได้ตื่นตะลึงอีกด้วย ถ้าหากจะให้กล่าวถึงศิลปินต่างๆก็จะมี จิตรกร Piazzetta และ Giambattista Tiepolo ช่างแกะสลัก Corradini นักแต่งเพลง Nicola Porpora เป็นต้น
ในงานนั้นจะแบ่งออกเป็นหลายๆห้อง แสดงผลงานศิลปะที่แตกต่างกันออกไป เช่น ภาพวาด รูปปั้นแกะสลัก มัณฑนศิลป์ และดนตรี นอกจากนี้ยังมีห้องที่บอกเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปที่ศิลปะจากเมืองเวนิสได้มีอิทธิพลต่อศิลปะต่อประเทศอื่นๆในยุโรปอย่างไรอีกด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่พิเศษมากๆเลยก็คือโมเดลโครงสร้างสถาปัตยกรรมเหมือนจริงขออาคารต่างๆในสมัยศตวรรษที่ 18 ยกตัวอย่างเช่น Palazzo Venier ที่ได้ถูกเปลี่ยนมาเป็น Atelier de Domenico Rizzi ในภายหลัง และปัจจุบันนี้คือ Fondation Peggy Guggenheim
หลายๆคนที่เคยเดินทางไปเมืองเวนิสแล้วอาจจะคุ้นตากับหน้ากากคาร์นิวัล สัญลักษณ์ของเมืองที่มีวางขายอยู่ทั่วไปในฐานะของที่ระลึก เจ้าหุ่นกระบอกที่ปรากฏอยู่ในภาพนี้คือตัวอย่างหุ่นกระบอกที่เคยใช้จัดแสดงละครหุ่นเชิดในศตวรรษที่ 18 ที่เมืองเวนิส หุ่นกระบอกเหล่านี้ต่างเป็นศิลปะทำมือทั้งสิ้นจึงมีความละเอียดแฝงอยู่ในหุ่นกระบอกทุกตัว ถ้าหากใครได้มีโอกาสไปเยือนเมืองเวนิสอีกครั้ง ก็อาจจะหาโอกาสไปเข้าชมละครหุ่นเชิดที่ยังมีการจัดแสดงอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ เรื่องที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็เห็นจะเป็น "The Adventures of Pinocchio"
ที่นิทรรศการแห่งนี้ได้จัดแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินที่มีชื่อเสียงที่สุดในสมัยศตวรรษที่ 18 ทั้งหมด 3 ท่านด้วยกัน ได้แก่ Pietro Longhi, Giambattista Tiepolo และ Francesco Guardi โดยทั้ง 3 ท่านนี้มีบ้านเกิดอยู่ที่เมืองเวนิสนั่นเอง
โดย Longhi นั้นได้มีชื่อเสียงโด่งดังมาภาพวาดของเขา ที่เน้นเป็นศิลปะร่วมสมัย วาดภาพจากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นตรงหน้า ต่อมาคือ Tiepolo ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากภาพวาดบนเพดานและกำแพง โดยผลงานของเขาได้รับการขนานนามว่า "The greatest decorative painter of eighteenth-century Europe" ปิดท้ายด้วย Guardi ที่สร้างสรรค์ผลงานเกี่ยวกับศาสนา และในภายหลังได้เปลี่ยนมาวาดเป็น urban scenes เป็นหลัก ถึงแม้ว่าทั้ง 3 ท่านนี้จะมีสไตล์การวาดภาพที่แตกต่างกันออกไป หากแต่ว่าในเรื่องของฝีมือนั้นต่างไม่มีใครยอมใคร ผลงานศิลปะของทั้ง 3 ท่านได้มีอิทธิพลต่อศิลปะในสมัยต่อมาจนมาถึงยุคปัจจุบันนี้ และทั้ง 3 ท่านนั้นต่างก็ได้รับการขนานนามว่าเป็น "The traditional old masters of that period"
โดย Francesco Guardi ภาพวาดนี้เป็นภาพพรรณนาถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่บ้านริมแม่น้ำในเมืองเวนิส โดยภาพนี้อยู่ในการดูแลของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Alte Pinakothek | DIE PINAKOTHEKEN ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน
ที่ด้านใน Grand Palais นั้นได้มีการตกแต่งอย่างสวยงาม นอกจากจะได้ชื่นชมผลงานศิลปะในนิทรรศการนี้แล้ว ยังมีโอกาสได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมอันน่ามหัศจรรย์ใจนี้ด้วย
Scenagraphist และผู้ออกแบบเวทีชาวฝรั่งเศส Macha Mekeieff ได้ทำการออกแบบโชว์สุดพิเศษที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆของศิลปะจากเมืองเวนิส โชว์จะรวมไปถึงดนตรีสุดอลังการ การเต้นรำและการแสดง เป็นโชว์ที่เปิดให้ผู้เข้าชมได้เข้าชมในช่วงกลางคืนสำหรับใครที่อยากจะนั่งไทม์แมชชีนเพื่อย้อนกลับไปอยู่ในสมัยศตวรรษที่ 18 เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมของงานนี้ได้ที่เว็บไซต์ของ Grand Palais ได้เลยที่ www.grandpalais.fr
เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan
ภาพ: Che Fen OU YANG
ที่อยู่: 3 Avenue du Général Eisenhower, 75008 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Champs-Élysées-Clemanceau (สาย 1 และ 13)
เวลาทำการ: วันจันทร์และวันพฤหัสถึงวันอาทิตย์ 10:00-20:00 / วันพุธ 10:00-22:00 (ปิดทุกวันอังคาร) / วันที่ 24 และ 31 ธันวาคม เปิดถึง 18:00
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 14€ / อายุระหว่าง 16-25 ปีพ 10€ / อายุต่ำกว่า 16 ปีเข้าชมฟรี
งานจัดขึ้นตั้งแต่วันที่: 26 กันยายน 2018 ถึงวันที่ 17 มกราคม 2019