เราสามารถพบกับร้านอาหารเวียดนามได้ทั่วไปในกรุงปารีส เมนูอย่างสลัดโรลแบบเวียดนาม และเฝอเป็นเมนูทั่วไปเราสามารถหารับประทานได้ง่ายๆ และเพื่อเป็นไกด์ให้กับหลายๆคนที่จะไปเที่ยวปารีส วันนี้เราขอแนะนำให้รู้จักกับร้านอาหารเวียดนามที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวเรา
ลักษณะเฉพาะของประเทศทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ อากาศที่ร้อนชื้น และมีฝนประปราย และนั่นก็เป็นที่มาของรูปแบบอาหารเวียดนามรวมไปถึงวัฒนธรรมการกิน
อาหารเวียดนามเป็นการนำเอารสชาติที่แตกต่างมาอยู่รวมกันจนเกิดเป็นรสชาติของเมนูอาหารที่ลงตัว รสชาติของอาหารมีความหวาน เปรี้ยว และเผ็ดนิดหน่อย
อาหารประเภททอดหรือย่างมักจะเสิร์ฟมาพร้อมกับผักสด เช่น ผักกาดแก้ว ใบสะระแหน่ ใบโหระพา ตะไคร้ และเครื่องสมุนไพรอื่นๆ เพื่อให้ลดทอน ตัดเลี่ยนความมันจากการทอด ดังนั้นเราก็จะเห็นว่าอาหารเวียดนามนั้นมีความหลากหลาย เต็มไปด้วยสีสัน และประณีตบรรจง
ร้านอาหารนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ île Saint-Louis ซึ่งทันทีที่เดินเข้ามาในร้านก็จะได้เจอกับบรรยากาศที่เหมือนหลุดเข้าไปในร้านอาหารยุค 80 อาหารทานเล่นและของเล่นต่างๆที่นำมาตกแต่งร้านมีที่มาจากความตั้งใจทำให้ร้านมีบรรยากาศคล้ายกับร้านชำใกล้โรงเรียน บรรยากาศเหมือนยุคอดีต
ฮานอยเป็นเหมืองที่อยู่ทางเหนือของประเทศเวียดนาม เมืองนี้มีบรรยากาศที่เรียบง่าย ช้าๆ สบายๆ ไม่เร่งรีบ ซึ่งต่างจากกรุงโฮจิมินห์ที่อยู่ทางใต้ กรุงโฮจิมินห์มีความเป็นเมืองของคนรุ่นใหม่ มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา รสชาติของอาหารทั้งสองเมืองก็ต่างกันอย่างมากด้วย เมนูอย่างเฝอหรือเปาะเปี้ยะ (หรือที่ชาวฝรั่งเศสเรียกว่า Nem) ของทั้งสองเมืองนี้มีความแตกต่างกันอยู่มากทั้งในเรื่องของวิธีทำและวิธีการกิน โดยทั่วไป การรับประทานเฝอจะมีการเติมพริกหั่น หรือซอสพริกและน้ำมะนาวลงไปก่อนรับประทาน แต่ละเมืองในฝั่งเหนือฝั่งใต้ก็จะมีเครื่องเคียงต่างกันออกไป
เฝอของเมืองทางใต้จะมีรสชาติที่หวานกว่าทางเหนือ และเราก็จะต้องเติมเครื่องสมุนไพรเข้าไปเอง รวมถึงผักต่างๆ เช่น ถั่วงอก หรือซอสหมักที่ทำจากถั่วหมัก แต่เฝอของฮานอยเสิร์ฟมาในชามที่มีน้ำซุป เนื้อ เส้น ต้นหอมซอย และหอมซอย โดยจะนำมาเสริ์ฟพร้อมกับ quẩy (แป้งทอดลักษณะคล้ายปาท่องโก๋) และ trứng chần (ไข่ลวกในน้ำซุปเฝอ) เราสมารถเอาquẩyจิ้มน้ำซุป และทานคู่ไปกับอาหารในชามเฝอ
ที่ร้าน Hà Nội 1988 Sao vàng คุณจะได้รับประทานเมนูเฝอรสชาติแท้ๆจากฮานอย คู่กับ quẩy และ trứng chần รวมไปถึงเครื่องเคียงอีกหลากหลายที่สามารถเลือกได้ และยังมี phở bò sốt vang (เฝอเนื้อสไตล์บูกินยงหรือเนื้อตุ๋นไวน์แดง)
เราขอการันตีว่าร้านนี้คือหนึ่งในร้านเฝอที่ดีที่สุดในปารีส ร้านนี้เป็นร้านที่ทำเส้นเฝอเอง สดใหม่ทุกวัน น้ำซุปใช้เวลาตุ๋นถึง 24 ชั่วโมงเพื่อให้ได้รสชาตเข้มข้น เชฟของร้านได้รับรางวัล Hoa hồi vàng การันตี ซึ่งเป็นรางวัลผู้ชนะเลิศเชฟเฝอในเวียดนาม
ไปดูกันต่อเลยว่า มีเมนูไหนที่เราประทับใจกันบ้าง:
Spring rolls มีความคล้ายคลึงกับสลัดโรลของฝั่งไทยเรา รสชาติของเมนูนี้เต็มไปด้วยคุณภาพในทุกคำ ความผสมผสานของเนื้อสัตว์ ผักสด เส้นขนมจีนเวียดนาม ที่หุ้มด้วยแป้งที่มีส่วนผสมของแก้วมังกรทำให้รสชาติลงตัวถึงที่สุด และยิ้งไปกว่านั้นซอสหวานๆที่มีกลิ่นของผลไม้ยังทำให้เมนูนี้เพอร์เฟ็คสุดๆ
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าร้านเฝอมีอยู่หลายร้านในปารีส แต่ไม่ใช่ทุกร้านที่จะมีเมนู phở bò sốt vang หรือเฝอเนื้อตุ๋นไวน์ เนื้อในชามนี้ตุ๋นในไวน์รวมกับเครื่องเทศต่างๆ และเสิร์ฟมาในน้ำซุปที่ใช้เวลาเคี่ยวถึง 24 ชั่วโมง แน่นอนว่ารสชาติที่ได้นั้นมีความพิเศษ นุ่มลิ้น สูตรลับของร้านนี้อีกอย่าคือตัวเส้นที่ทำเอง ทำให้เฝอทุกชามมีความสดใหม่ และบางครั้งก็สนุกไปกับการรับประทานเส้นแปลกๆ เช่น เส้นสีเขียวที่ได้จากการผสมผักโขมลงไปให้แป้งทำเส้น เพียงแค่ได้ชิมตำแรกก็รู้เลยว่าหยุดไม่ได้ ต้องไปต่อ
เมนูนี้เป็นการเสิร์ฟอาหารมาในกะทะร้อนที่มีไข่ เนื้อบด เนื้อสไลด์ และหมูราดซอส โดยจะวางคู่มากับขนมปังฝรั่งเศสหั่นสไลด์
กะทะร้อนที่เสริ์ฟมาทำให้เนื้อและอาหารในกะทะค่อยๆสุก วิธีการกินเพื่อเพิ่มอรรถรส ก็คือ ให้เอาขนมปังลงไปจิ้มตัวไข่แดงเยิ้มๆ นั่นเอง
หากใครเคยเดินทางไปเวียดนามจะรู้ว่าการที่จะหาร้านที่ขายทั้งเฝอเนื้อและเฝอไก่ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งนี้ก็เพราะน้ำซุปนั้นเป็นคนละชนิดกัน ในปารีสก็ไม่ต่างกัน แต่ที่ร้าน Ha Noi 1988 Sao vang นี้ คุณไม่ต้องกังวลเพราะมีทั้งซุปเนื้อและไก่ให้เลือก
จบจากของคาวก็ไม่ลืมที่จะล้างปากกันด้วยของหวาน นั่นคือ cà phê sữa đá หรือกาแฟเย็นของเวียดนาม
Ha Noi 1988 Sao Vang เป็นร้านอาหารเวียดนามคุณภาพดี ที่มีรสชาติอาหารแบบเวียดนามแท้ๆ มีเมนูที่หลากหลาย และยังเป็นการปรุงสดใหม่อีกด้วย อย่าลืมแวะไปอุดหนุน หากใครกำลังมองหาร้านอาหารเวียดนามระหว่างทริปเที่ยวปารีส
เื่อง : Jingxin, Thuy
ภาพ : PHAN Thanh Thuy
ที่ตั้ง : 16 - 18 Rue le Regrattier, 75004 Paris
การเดินทาง : เมโทรสาย 7 สถานี Pont Marie / เมโทรสาย 1 สถานี Saint Paul
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-วันศุกร์ 12:00น. - 15:00น., 19:00น. - 23:00น. / วันเสาร์-วันอาทิตย์ 12:00น.- 23:00น.