หลายคนคงเคยได้ยินว่าประเทศฝรั่งเศสนั้นเต็มไปด้วยอาหารอร่อยมากมาย เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อมีโอกาสได้มาเยือนที่ประเทศฝรั่งเศสก็ห้ามพลาดที่จะลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของที่นี่ แต่ใครจะรู้บ้างว่าร้านอาหารไหนเสิร์ฟอาหารฝรั่งเศสต้นตำรับท่ามกลางร้านอาหารที่มีอยู่เป็นร้อยเป็นพันร้านในกรุงปารีส มาวันนี้ทางเราจะมาช่วยแนะนำร้านอาหารฝรั่งเศสเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมากว่าร้อยปีแล้ว นั่นก็คือร้านอาหาร La Gauloise ที่เมื่อคุณได้ก้าวเข้าไปในร้านก็เหมือนราวกับว่าคุณได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยอดีต รับประทานอาหารฝรั่งเศสต้นตำรับที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว นอกจากที่นี่
ชื่อร้าน "La Gauloise" ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึง "Gaul" ที่แปลว่า "ชาวฝรั่งเศสโบราณ" ที่ต้องย้อนกลับไปเมื่อสมัยศตวรรษที่ 3-5 ก่อนคริสต์ศักราช โดยร้านอาหาร La Gauloise แห่งนี้เหมาะและกับคำว่า
ร้านอาหารตั้งอยู่ในเขต 15 ของกรุงปารีส บริเวณที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ผสมผสานเข้ากับความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว และถ้าหากคุณเดินตรงไปอีกไม่ไกลบนถนน Avenue de la Motte Picquet ถนนเส้นที่ร้านอาหารตั้งอยู่ คุณก็จะได้พบกับสัญลักษณ์ของกรุงปารีสที่ตั้งตระหง่านสง่างามอยู่ริมแม่น้ำแซน (Seine) นั่นก็คือหอไอเฟลนั่นเอง
เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในร้าน ก็จะพบกับพนักงานที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ด้านในร้านอาหารมีการประดับตกแต่งในสไตล์ฝรั่งเศสอย่างแท้จริง เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นมีความเรียบง่ายและหรูหรา โทนสีแดงน้ำตาลช่วยทำให้บรรยากาศดูขลังยิ่งขึ้น บวกกับไฟสีส้มอุ่นที่ทำให้ด้านในร้านดูอบอุ่น รอบๆร้านอาหารมีการปลูกต้นไม้พุ่มเล็กๆเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร้านอาหาร อีกทั้งวิวด้านนอกหน้าต่างที่คุณสามารถมองดูผู้คนสัญจรขวักไขว่ไปมาได้ ความวุ่นวายด้านนอกร้านช่างผิดกับความเงียบสงบด้านในร้านอย่างบอกไม่ถูก รูปภาพถ่ายในอดีตเป็นเครื่องการันตีได้ว่าชื่อเสียงของร้าน La Gauloise นั้นมีมานานมากแค่ไหน
ทางร้านมีเมนูอาหารมากมายให้เลือกและทั้งหมดนั้นเป็นอาหารโฮมเมดล้วนๆ ทางร้านใส่ใจรายละเอียดในการปรุงอาหาร ทุกจานถูกปรุงออกมาอย่างพิถีพิถัน รับรองได้เลยว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน โดยเมนูที่เห็นอยู่ด้านบนนี้เป็นขนมปังบาแก็ตพร้อมซอส Lyonnaise ที่ทำมาจากซาวครีม เลม่อน และพริกไทยสีสันสดใส อาจจะฟังดูเรียบง่าย แต่เป็นการเริ่มต้นมื้ออาหารที่ดีทีเดียว
ถ้าหากคุณต้องการที่จะสัมผัสประสบการณ์อาหารฝรั่งเศสต้นตำรับ ห้ามพลาด Foie Gras de Canard เด็ดขาด เพราะฟัวกราส์นั้นถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของอาหารฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังเป็นอาหารยอดนิยมของทางร้านอีกด้วย วัตถุดิบถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันโดยเชฟมือฉมังของทางร้าน เสิร์ฟมาพร้อมกับไวน์ขาวที่เข้ากันเป็นอย่างดีกับฟัวกราส์ และถ้าหากไม่รู้ว่าจะเลือกไวน์ขาวแบบไหนดี ลองไวน์ Pouilly Fume de Selection Jean-Marie Berthier ที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง
ซุปหัวหอมที่นิยมรับประทานกันทั่วประเทศฝรั่งเศส เป็นซุปหัวหอมเข้มข้นที่โรยหน้าด้วยชีสและนำไปเข้าเตาอบเพื่อให้ชีสละลาย เป็นอีกหนึ่งจานเรียกน้ำย่อยที่เรียกได้ว่าเด็ดไม่แพ้กัน ไม่มีอะไรจะทำให้คุณมีความสุขไปมากกว่าซุปหัวหอมร้อนๆท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นอีกแล้ว
มาถึงจานหลักกันบ้าง Coq au Vin หรือไก่ตุ๋นไวน์แดง เสิร์ฟมาคู่กับเส้นพาสต้า Tagliatelle สูตรพิเศษของทางร้าน โดยเจ้า Coq au Vin นั้นเป็นการนำไก่ตัวผู้ สัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แน่นกว่าไก่ชนิดอื่นๆ ลงไปตุ๋นในไวน์แดงเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้เนื้อไก่นั้นนุ่มหอม หลังจากนั้นก็ใส่เห็ด แอปเปิ้ล แครอท และวัตถุดิบอื่นๆอีกมากมายและตุ๋นเพิ่มอีก 6 ชั่วโมงเพื่อให้รสชาติของวัตถุดิบแต่ละอย่างซึมซาบเข้าไปในน้ำซุปและเนื้อไก่ เมื่อได้ที่แล้ว เจ้า Coq au Vin ก็ถูกยกมาเสิร์ฟในหม้อเพื่อกักเก็บความร้อน เนื้อไก่ที่ตุ๋นจนนุ่มได้ที่ กับซอสไวน์แดงที่ให้รสชาติที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ บอกได้เลยว่าคุณจะต้องติดใจ
อีกหนึ่งจานหลักก็คือกุ้งที่ถูกนำไปอบกับน้ำมันงาจนได้ที่ เสิร์ฟมาพร้อมกับควินัวริซอตโต (Quinoa Risotto) พร้อมเครื่องเคียงอีกมากมายในจาน ผสมผสานกันอย่างลงตัว
เมื่อหมดของคาวก็ต้องต่อด้วยของหวาน โดยของหวานเมนูแนะนำของทางร้านคือ Soufflé au Grand Marnier เพื่อเป็นการปิดท้ายมื้ออาหารมื้อนี้อย่างสวยงาม กลิ่นหอมของผลไม้ต่างๆที่อยู่ใต้ซูเฟล่นุ่มฟูนั้น ช่วยตัดรสชาติอาหารคาวก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี
และถ้าใครเป็นสายขนมหวาน ห้ามพลาด Profiteroles with Berthillon vanilla ice cream โดยเจ้า Profiteroles นั้นถูกเสิร์ฟมาคู่กับไอศกรีมวานิลลาจากแบรนด์ดังของประเทศฝรั่งเศสอย่างแบรนด์ Berthillon วางอยู่ท่ามกลางซอสช็อกโกแลตที่ทั้งหอมและหวาน เข้ากันได้ดีกับไอศกรีมวานิลลา
หลังจากมื้ออาหารอันดีเยี่ยมแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวสำรวจกรุงปารีสกันต่อ ดาวน์โหลดคูปองส่วนลดจาก O'bon Paris รับทันทีส่วนลด 10% สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ยกเว้นไวน์ชนิดขวด
เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan
ภาพ: Yuna Lee
ที่อยู่: 59 Avenue de la Motte - Picquet 75015 Paris France
การเดินทาง: เมโทรสถานี La MOTTE - PICQUET GRENELLE (สาย 6, 8 และ 10)
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 12:00-23:00