ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำหมู่บ้านที่สวยงามและเก่าแก่ในจังหวัด Tarn ซึ่งอยู่ในแคว้นออกซิตานนีของฝรั่งเศส หมู่บ้านเหล่านั้นได้แก่ Cordes sur Ciel, Penne, Puycelsi, และ Bruniquel
Tarn เป็นเขตเมืองหรือจังหวัดทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งชื่อเมืองนั้นถูกตั้งชื่อตามแม่น้ำ Tarn (เขตเมืองต่างๆในฝรั่งเศสส่วนใหญ่ตั้งชื่อตามแม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองนั้นๆ) ในปัจจุบัน เมือง Tarn ยังคงเป็นเมืองที่รักษาความดั้งเดิมหรือความเป็นชนบทเอาไว้ เมืองหลักของจังหวัดนี้ มีชื่อว่า Albi ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่เพียงห้าหมื่นคนเท่านั้น ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเนินสูง และเต็มไปด้วยหินปูน รวมถึงหินทราย ผลผลิตทางการเกษตรเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนี้ เช่น Tarn wine (Gaillac wine), เนื้อสัตว์, ผลไม้, และผัก เป็นต้น
เขตเมืองที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวและขนบธรรมเนียมแบบฝรั่งเศส รวมไปถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน การมาท่องเที่ยวที่จังหวัด Tarn จึงเป็นการท่องเที่ยวสู่ธรรมชาติและย้อนเวลากลับไปเรียนรู้ประวัติศาสต์ของภูมิภาคนี้ อาคารบ้านเรือยนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหตุผลดีๆที่เราควรจดชื่อของ Tarn ไว้สำหรับการมาเที่ยวฝรั่งเศสในครั้งต่อไป
อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่คุณเห็นอยู่ในภาพนั้นได้รับการก่อสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 12 และช่วงต้นศตวรรษที่ 13
หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องของสงครามครูเสดในอดีตที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตะวันออกกลาง ต่อมาในปี 1209 สงครามครูเสดได้เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเกิดความขัดแย้งระหว่างโป๊ปและลัทธิแคทาร์หรือ Cathars (คริสตชนแบบทวินิยมและไญยนิยม) ชาวลัทธิ Cathars ดูแลปกป้องพื้นที่ออกซิตานี (พื้นที่ทางใต้ของฝรั่งเศสในปัจจุบัน) และให้การคุ้มครองกษัตริย์แห่งตูลูส นอกจากปัญหาความขัดแย้งเรื่องศาสนา ผู้นำทางเหนือของฝรั่งเศสยังมีความต้องการที่จะบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ออกซิตานีอีกด้วย
หมู่บ้าน Albi เป็นสถานที่ซึ่งลัทธิแคทาร์เติบโต และเมื่อเกิดสงครามต่อต้านชาวแคทาร์ จึงมีการเรียกชื่อสงครามครั้งนั้นว่า Albigensian Crusade หมู่บ้านในจังหวัดTarn ได้รับการป้องกันเป็นอย่างดีจากภัยสงคราม ท้ายที่สุดแล้วอาณาจักรตอนใต้ก็พ่ายแพ้ต่อสงคราม หมู่บ้านต่างๆตกอยู่ภายใต้ผู้บุกรุก และการควบคุมโดยดินแดนใกล้เคียง
หมู่บ้านจำนวนมากในเมืองได้รับการพัฒนามาเรื่อยๆจนกระทั่งศตวรรษที่ 18 และเมื่อเข้าสํู่ศตวรรษที่ 19 การอพยพเข้าถิ่นฐานเข้าสู่ตัวเมืองก็เริ่มขึ้น จึงทำให้อาคารต่างๆในเมืองไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาไปมากนัก ยังคงเก็บรักษาความดั้งเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
Cordes Sur Ciel แปลตรงตัวว่า หินเหนือเมฆ หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่บนยอดของเนินเขา ในวันที่ท้องฟ้ามัวๆ เมฆคลุมทั่วฟ้า คุณอาจจะรู้สึกเหมือนว่าเมืองที่ลอยอยู่บนฟ้า และนั่นก็เป็นที่มาของชื่อเมืองนั่นเอง
หมู่บ้านนี้สามารถใช้วิธีการเดินเท้าเพื่อเที่ยวชมเมืองได้ แต่หากว่าคุณอยากขึ้นรถไฟจิ๋วเพื่อเที่ยวรอบเมืองก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3 ยูโร ส่วนทัวร์พร้อมกับออดิโอไกด์นั้นก้มีราคาอยู่ที่ 6.5 ยูโร และใช้เวลาประมาณ 40 นาที
หมู่บ้านนี้ได้รับการค้นพบในศตรวรรษที่ 13 โดยขุนนางชื่อ Raymond ที่ 7 แห่งตูลูส (count Raymond VII of Toulouse) ซี่งเป็นผู้นำในการปกป้องพื้นที่ในแถบนี้จากความเสียหายในช่วงสงครามครูเสด หลังจากสงครามขบลง หมู่บ้าน Cordes sur Ciel กลายเป็นศูนย์กลางการค้า พ่อค้าจำนวนมากพากันมาสร้างที่พักอาศัยและสถานที่ต่างๆในสไตล์โกธิค โดยอาคารต่างๆเหล่านั้นยังคงปรากฎให้เห็นจนถึงปัจจุบัน ถ้าคุณได้มีโอกาสไปเดินเยี่ยมชมเมืองก็ยังคงจะได้พบกับทางเดิน ถนนที่ปูด้วยหิน ให้บรรยากาศเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต
ใกล้กันกับประตูเมืองเก่า เป็นบริเวณที่มีเสน่ห์อย่างมาก บรรยากาศความเป็นชนบทที่เต็มไปด้วยสีสัน หมู่บ้านนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว จึงทำให้มีร้านอาหารและร้านค้าตั้งให้เห็นอยู่เนืองๆ ร้านค้าหลายร้านมีสินค้าทำมือซึ่งน่าจะเป็นของฝากที่เหมาเหม็งเลยทีเดียว
หมู่บ้าน Penne ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำ Aveyron ทัศนียภาพของเมืองสวยงงาม อลังการแบบลืมหายใจเมื่อได้เห็น
ในช่วงที่สงคราม Albigensian Crusade ดำเนินอย่างต่อเนื่อง หมู่บ้านกลายเป็นสถานที่ซึ่งชาวลัทธิแคทาร์อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ ปราสาทต่างๆได้รับการรุกรานจากผู้ก่อสงครามศาสนา แต่ก็ยังคงไม่ได้รับความเสียหายมากมายนัก
คุณสามารถเดินชมเมืองไปตามเส้นทางทีปูด้วยหินไปยังซากปราสาทเก่า
ในฤดูร้อน การแสดงการต่อสู้แบบยุคกลางเลียนแบบนักรบในอดีตถูกจัดขึ้นที่บริเวณลานกว้างในปราสาท บางส่วนของตัวปราสาทได้รับการบำรุงและดูแลรักษาโดยทีมของผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการก่อสร้างแบบยุคกลาง อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ รวมไปถึงการแต่งกายแบบยุคกลางอีกด้วย
Bruniquel เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ชาวฝรั่งเศสเนื่องจากเป็นสถานที่ซึ่งใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์หลายๆเรื่อง เรื่องที่ดังที่สุด คือ “The old Gun” ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 กำกับโดย Robert Enrico หมู่บ้าน Bruniquel ตั้งอยู่บนเนินหิน และมีปราสาทยุคกลางของขุนนาง 2 ปราสาทตั้งเด่นเป็นสง่าที่สุดในตัวหมู่บ้าน หนึ่งในปราสาทนั้นสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ส่วนอีกปราสาทหนึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 ทางเข้าตัวหมู่บ้านมีกำแพงป้องกันเป็นสัญลักษณ์สำคัญ บ้านเก่าๆที่สร้างโดยหินนั้นจะเป็นอาคารที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 อาคารต่างๆเหล่านี้รวมไปถึงถนนต่างๆยังคงเก็บรักษาความดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี
หมู่บ้าน Puycelsi มีที่ตั้งอยู่บนส่วนเนินที่ยื่นออกไปในทะเล มองเห็นป่าขนาดใหญ่ และนี่จึงเป็นที่มาที่ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่รู้จักว่าเป็นป้อมปราการในป่าใหญ่ เนื่องจากที่ตั้งของหมู่บ้านเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ จึงทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นจุดป้อมปราการมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เป็นต้นมา ในช่วงเวลาของสงคราม Cathar Crusade ป้อมปราการแห่งนี้มีส่วนช่วยอย่างมากในการต่อต้านการรุกรานจากผู้บุกรุก ตัวหมู่บ้านแถบจะไม่ได้รับการพัฒนาเลยในช่วงปี 1950 แต่ในช่วงหลังจากนั้นก็ได้รับการดูแลและพัฒนาโดยผู้อยู่อาศัย จกลายมาเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญ
การท่องเที่ยวในหมู่บ้านเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้รถยนต์ส่วนบุคคล การใช้รถส่วนบุคคลจะทำให้การเที่ยวเมืองนี้สนุกสนานมากยิ่งขึ้นและสะดวกสบาย รถขนส่งสาธารณะไม่ค่อยมีให้บริการมากเท่าไหร่ในเมืองนี้ การเดินทางจากสถานีรถบัส Albi คูณสามารถขึ้นรถบัสสาย 707 ไปยัง Cordes sur Ciel (รถบัสมีให้บริการทุกๆชั่วโมงในฤดูร้อน) การเดินทางในวันหยุดสุดสัปดาห์ในช่วงเวลาฤดูร้อนจะมีรถบัสให้บริการจากสถานีรถไฟ Montauban ไปยังหม่บ้าน ra Bruniquel, Penne, และ Cordes (รถบัสสาย 107-30) หากไม่สะดวกที่จะขึ้นรถบัสประจำทาง เราสามารถใช้บริการรถบัสทัวร์ที่จัดโดยสำนักงานท่องเที่ยวของตูลูส (Toulouse Tourism Office) โดยบริการทัวร์นี้มีให้บริการสำหรับหมู่บ้าน Albi และ Cordes sur Ciel (ทุกวันอังคาร วันพฤหัส และวันเสาร์ ในเดือนมีนาคมและพฤศจิกายน)
เรื่องและภาพ - Vincent Sacau