Metz เป็นเมืองขนาดเล็กในแคว้นลอเเรน (Lorraine) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส อยู่ห่างจากปารีสออกไป 320 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงโดยการโดยสารรถไฟ เมืองนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสตราสบูร์ค (Strasbourg) และมีตลาดคริสต์มาสที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กับตลาดคริสต์มาสในเมืองสตราสบูร์คเลย แต่อย่างไรก็ตามเมืองนี้อาจจะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากเท่ากับที่สตราสบูร์ค ผู้คนในเมืองนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ บรรยากาศของเมืองนี้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาคารสถานีรถไฟกลางของเมือง Metz สร้างขึ้นโดยชาวเยอรมันตั้งเเต่ปี 1905 และใช้เวลายาวนานถึง 3 ปีจนกว่าจะแล้วเสร็จ การเดินท่องเที่ยวในเมือง Metz นั้นสะดวกสบายเพียงเเค่เดินตามป้ายต่างๆในเมืองก็จะได้พบกับสถานที่ต่างๆที่น่าสนใจมากมาย การเดินเท้าจากสถานีรถไฟไปยังใจกลางเมืองก็ใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นการเดินชมเมืองไปในตัว สะดวกสุดๆ
Metz เป็นเมืองที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 3,000 ปี เมืองนี้ตั้งอยูชุมทางของแม่น้ำ Moselle และแม่น้ำ Seille ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลไปยังประเทศลักเซมเบิร์กและเยอรมัน ไม่ว่าจะเดินไปที่มุมไหนของเมือง Metz ก็จะได้พบกับเรื่องราวของประวัติศาสตร์มากมายซ่อนตัวอยู่
Metz ตั้งอยู่ใกล้กับประเทศเยอรมนีและลักเซมเบิร์ก เมืองนี้ตกเป็นของเยอรมนีอยู่ครั้งหนึ่งในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งหนึ่ง และหลังจากสงครามครั้งนั้นก็กลับมาเป็นเมืองของประเทศฝรั่งเศสอีกครั้ง ดังนั้นการเดินเที่ยวภายในเมือง Metz นี้ คุณจึงจะได้พบร่องรอยอารยธรรม วัฒนธรรมของเบอรมนีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ หรือสถาปัตยกรรม ในสมัยจักรวรรดิโรมัน เมือง Metz เคยได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมด้วย ป้อมปราการของเมือง Metz ไม่ได้มีขนาดใหญ่หากเทียบกับที่อื่นๆ แต่มีความสำคัญอย่างมากในฐานะของสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมในยุคกลาง
เมื่อเดินเข้าไปที่ย่านใจกลางเมือง คุณจะได้พบกับสถานที่ชอปปิ้ง ที่เต็มไปด้วยตึกสวยมากมาย หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นโรมัน โกธิค เรเนซ้องส์ บาโรก หรือ ศิลปะสมัยใหม่
หากมาเที่ยวที่เมือง Metz ในเดือนธันวาคม ตลาดคริสต์มาส คือ ไฮไลท์สำคัยเลยทีเดียว ภายในตลาดคริสต์มาสจะเต็มไปด้วยบูธขายของเเละการตกเเต่งที่สวยงามอย่างยิ่ง
โบสถ์ Saint-Etienne ตั้งอยู่ในบริเวณใจกลางเมือง ที่จัตุรัส Place d'Armes บางครั้งอาจจะถูกเรียกว่าโบสถ์ Saint Stephen รูปแบบของโบสถ์ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมโกธิคในยุคกลาง และได้รับการนรขนานนามให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมในปี 1930 เนื่องมาจากความงดงามและประวัติศาสตร์ที่ยาวนานนั่นเอง โบสถ์แห่งนี้สร้างจากหินปูนที่ได้มาจากแคว้นลอแรนนั่นเอง สีของหินปูนที่เปลี่ยนสภาพมาเป็นสีเหลืองเนื่องจากการการกลัดกร่อน ทำมห้โบสถ์มีสีดังที่เห็นในภาพ
โบสถ์แห่งนี้มีขนาดค่อนข้างเล็กและสูงเพียง 8 เมตรเท่านั้น จุดที่น่าสนใจที่สุดในโบสถ์ คือ กระจกสีนั่นเอง
กระจกสีที่ใช้ตกแต่งภายในโบสถ์นั้นมีขนาด 6.496 ตารางเมตร และได้รับการขนานนามว่าเป็นกระจกสีที่ดีที่สุดในโลก กระจกสีนี้ใช้เวลาหลายร้อยปีกว่าจะแล้วเสร็จ หนึ่งในศิลปินที่ร่วมสร้างสรรค์ผลงานนี้ คือ Chagall ซึ่งเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงอย่างมาก
ภายในโบสถ์มีการตกแต่งด้วยภาพวาดที่สวยงามเช่นกัน ซึ่งล้วยเเล้วเเต่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนานั่นเอง นอกจากนี้ในบางครั้งยังมีการจัดแสดงนิทรรศการศิลปะจากศิลปินร่วมสมัยอยู่บ่อยครั้ง
ตามตำนานที่เล่าต่อกันมา ว่ากันว่าครั้งหนึ่งมีมังกรที่ไล่จับชายหนุ่มผู้หนึ่ง แต่เมื่อได้พบกับสัญลักษณ์ของไม้กางเขน มังกรก็กลับกลายมาเชื่อฟังเเละยอมสยบ นับตั้งเเต่นั้นมามังกรนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วเมือง
Temple Neuf (Tangpur Neff) หรือแปลตรงตัวได้ว่าวัดใหม่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรไปเยี่ยมเมือมาถึงเมือง Metz โบสถ์นี้เป็นโบสถ์ของนิกายโปรเตสแตนท์ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1901 ถึง 1905 เมื่อเยอรมนีเข้ามาที่เมือง Metz นอกจากการสำรวจโบสถ์แล้ว พื้นที่รอบของโบสถ์ก็ถือว่าเหมาะกับการเดินเล่นและนั่งพักเช่นกัน หากเดินสำรวจในร้านขายโปสการ์ดก็จะพบว่าภาพของโบสถ์และบริเวณรอบๆโบสถ์นั้นปรากฎอยู่บนโปสการ์ดจำนวนมากเลยทีเดียว
ไม่ห่างจากบริเวณโบสถ์เท่าไหร่นัก คุณจะได้พบกับเกาะกลางแม่น้ำ Metz-Edo ซึ่งเรียกว่าเกาะ Petit-Saulcy บนพื้นที่เกาะแห่งนี้มีสวนชื่อว่า Jardin d'Amour ตั้งอยู่
Metz คือเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ ไม่นานมานี้มีการก่อสร้างตึกขื่อว่า 'Pompidou Center' เพื่อสร้างความโมเดิร์นเข้าไปให้กับเมือง ความเก่าเเก่ของเมืองบวกกับตึกโมเดิร์นนี้ผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัว เราขอเชิญชวนให้คุณได้ลองมาสัมผัสบรรยากาศของเมืองนี้ด้วยตัวเอง รับรองว่าไม่ผิดหวัง
ภาพ: Vincent Sacau