ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน "หมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส" หมู่บ้าน Moustiers-Sainte-Marie ตั้งอยู่ระหว่างหน้าผา 2 หน้าผาในแคว้น Provence-Alpes-Côte d'Azur หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ 760 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีผู้อยู่อาศัยเพียง 694 คนเท่านั้น
ตัวหมู่บ้านนั้นตั้งอยู่ใน National Reserve of Verdon ที่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เขียวขจีและภูเขาสูง แทบจะดูไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขา เมื่อขับรถมาจนใกล้จะถึงเขตหมู่บ้าน ถนนจะเริ่มคดเคี้ยวขึ้นเรื่อยๆ เผยให้เห็นตัวหมู่บ้านวับๆแวมๆตามถนนที่เลี้ยวลด
เมื่อมาถึงที่หมู่บ้าน ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยวิวที่สวยงามที่เห็นอยู่ตรงหน้า ภูเขา แม่น้ำ และดอกไม้ที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งอย่างสดใสสวยงาม
ว่ากันว่าหมู่บ้านนี้นั้นเป็นหมู่บ้านแห่งแรกที่มีคนอาศัยอยู่ในยุคสมัยก่อน หลักฐานที่ปรากฏนั้นนั่นก็คือสุสานของ Grand Segriè ที่ถูกค้นพบโดย André Muller ในช่วงปี 1980s ปัจจุบันนี้ที่หมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมายที่เดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก
โดยรายได้หลักของหมู่บ้านนั้นมาจากอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผา โดยมีช่างมากฝีมือจากหมู่บ้านวางขายเครื่องปั้นดินเผากันโดยทั่วไป เครื่องปั้นดินเผาที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องปั้นดินเผาที่ดีที่สุดในพื้นที่นั้นเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะต่างๆ กระจัดกระจายอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้กว่า เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านแห่งศิลปะและงานฝีมือเลยก็ว่าได้
สถาปัตยกรรมของหมู่บ้านนั้นไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันซะทีเดียว หากแต่มีการผสมผสานตั้งแต่ยุคสมัยโรมัน ยุคสมัยบาโรก และยุคสมัยกลาง และถึงแม้ว่าสถาปัตยกรรมในยุคต่างๆนั้นกระจัดกระจายกันออกไป แต่ก็ดูเหมือนว่าแต่ละสไตล์กลับเข้ากันได้เป็นอย่างดีเมื่อมาอยู่รวมกันที่นี่
ร้านขายของที่ระลึกต่างๆกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งเมือง และจะเห็นได้ว่าร้านขายของที่ระลึกส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งเป็นสินค้าหลักที่ผลิตที่หมู่บ้านแห่งนี้
เดินเล่นไปเรื่อยๆก็จะสังเกตุได้ว่ามีลำธารเล็กๆคดเคี้ยวตัดผ่านหมู่บ้านตามทาง คาเฟ่และร้านอาหารต่างๆต่างพร้อมใจกันเปิดที่ริมลำธารเรียงรายกันอยู่เต็มไปหมด
แต่ละที่ก็จะมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวน้ำตกเล็กๆไกลๆได้ การที่ได้มานั่งรับประทานอาหารที่นี่ในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะตก ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มไล่สีไปเรื่อยๆ ช่างเป็นวิวที่โรแมนติคที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
นอกเหนือจากธุรกิจการท่องเที่ยวและเครื่องปั้นดินเผาแล้ว ที่นี่ยังมีผลมะกอก ที่เป็นอีกรายได้หลักของหมู่บ้านเช่นกัน ในขณะที่บางคนเลือกที่จะเดินทางไปทำงานที่เมืองใกล้ๆอย่างเช่น Riez
แต่ก็ยังมีคนในหมู่บ้านที่ต้องการจะสานต่อธุรกิจครอบครัวที่ทำสืบต่อกันมาโดยการเก็บเกี่ยวผลผลิตท้องถิ่นมาวางขาย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ลดลงแต่อย่างใด
ที่จุดชมวิวจากมุมสูงนี้ บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรสามารถมาขวางกั้นวิวนี้ได้ จากตรงนี้คุณสามารถมองเห็นวิวหมู่บ้านนี้สุดลูกหูลูกตา รวมไปถึงต้นไม้ที่เขียวขจีและบ้านสีต่างๆที่ล้อกับแสงแดดในช่วงซัมเมอร์ การท่องเที่ยวในโพรวองซ์ครั้งนี้ยังมีอะไรที่ยังตกสำรวจอีกมาก อย่างไรก็ตาม ลองแวะมาที่หมู่บ้านเล็กๆอย่าง Moustiers-Sainte-Marie แล้วคุณจะติดใจในเสน่ห์ของมันอย่างแน่นอน
The Gorges de Verdon และ Gréoux-les-Bains นั้นตั้งอยู่ไม่ไกลมากจากที่นี่ สามารถขับรถไปได้โดยใช้เวลาไม่นาน ถ้าหากมีเวลาเหลือก็ลองแวะเวียนไปกันดู และถ้าหากใครอยากชมทุ่งลาเวนเดอร์ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดเห็นจะเป็นช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคม จะเป็นช่วงที่ลาเวนเดอร์ออกดอกเต็มที่ที่สุด
เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan
ภาพ: Pierre Ieong
การเดินทาง: การไปยังหมู่บ้าน Moustiers-Sainte-Marie นั้นสามารถทำได้โดยรถยนต์หรือรถบัสเท่านั้น ขับรถไปทางหลวง A51 (Aix-en-Provence Sisteron) ออกทางออก Manoque (Valensole, Puimoisson, Moustiers direction) หรือ Vinon-sur-Verdon - Cadarache (Gréoux, Riez, Moustiers (D952) direction)