พิพิธภัณฑ์มงมาร์ต สถานที่กักเก็บความทรงจำแห่งศิลปะแห่งกรุงปารีส

 

MUSÉE DE MONTMARTRE

ที่อยู่: 12 Rue Cortot, 75018 Paris, France

การเดินทาง: เมโทรสถานี Lamarck-Caulaincourt (สาย 12)

เวลาทำการ: เดือนเมษายนถึงกันยายน 10:00-19:00 / เดือนตุลาคมถึงมีนาคม 10:00-18:00 / เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม 10:00-18:00 และ 10:00-22:00 ทุกวันพฤหัส

ราคา: ผู้ใหญ่ 12€ / นักเรียนอายุต่ำกว่า 25 ปี 9€ / เด็กอายุระหว่าง 10-17 ปี 5.50€

 

INTRO

Musée de Montmartre หรือพิพิธภัณฑ์มงมาร์ต ตั้งอยู่ที่ 12 Rue Cortot ในเขตมงมาร์ต ที่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเขตที่ศิลปินจิตกรส่วนใหญ่ชอบมารวมตัวกันตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 ที่นี่ ซูซาน วาลาดง (Suzanne Valadon) ได้เคยอาศัยอยู่ที่นี่และใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสตูดิโอในการสร้างผลงานของเธอ นอกจากนั้นแล้ว ออกุสต์ เรอนัวร์ (Auguste Renoir) ก็ยังได้เคยสร้างผลงานชื่อว่า "Bal du Moulin de la Galette" ที่นี่อีกด้วย นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อส่วนหย่อมด้านหลังตัวพิพิธภัณฑ์ "Jardin Renoir" เพื่อเป็นการระลึกถึงจิตกรชื่อดังและผีมืออันยอดเยี่ยมของเขา นอกจากนั้นแล้วทางพิพิธภัณฑ์ยังมีการเก็บรักษาสัญลักษณ์ของบาร์ Lapin Agile ที่ถูกออกแบบโดยอองเดร จิล (André Gill) ไ้ว้อีกด้วย

 

พิพิธภัณฑ์ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักและสวนหย่อม ส่วนแรกคือนิทรรศการชั่วคราวและมีการเปิดให้เข้าเยี่ยมชมสตูดิโอเก่าของซูซาน วาลาดง ส่วนที่สองคือนิทรรศการถาวรที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์มงมาร์ตแห่งนี้ โดยตัวตึกที่เห็นในภาพนี้เป็นตึกที่จัดแสดงนิทรรศการถาวร ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และได้รับการบูรณะอีกครั้งหนึ่งเมื่อปี 1959

 

ภาพวาดโดย Alfred Renaudin ที่แสดงให้เห็นถึงชีวิตในเขตมงมาร์ตในอดีต เมื่อสมัยศตวรรษที่ 19 ที่ผ่านมา

 

ภาพวาด "Le Maquis de Montmartre" โดย Marcel Leprin กล่าวถึงบริเวณ The Maquis ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างถนน Rue Girardon และถนน Rue Caulaincourt ในอดีตเคยเป็นที่ดินที่รกร้างว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ในภายหลังได้กลายมาเป็นหมู่บ้านเล็กๆในเขตมงมาร์ต โดยคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นส่วนใหญ่คือคนเก็บของเก่า พ่อค้าขายของมือสอง ช่างฝีมือ และเหล่าจิตกร ว่ากันว่า Jean Renoir มักจะชอบมาที่นี่เพื่อมาหาหอยทาก

 

สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยที่พิพิธภัณฑ์มงมาร์ตคือ สตูดิโอของซูซาน วาลาดง โดยซูซานได้อาศัยอยู่ที่มงมาร์ตนี้เกือบทั้งชีวิตของเธอ เธอเริ่มทำงานครั้งแรกเมื่ออายุได้เพียง 15 ปี โดยรับอาชีพเป็นนางแบบให้แก่จิตรกรมากมาย อาทิเช่น อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก (Henri de Toulouse-Lautrec) และ ออกุสต์ เรอนัวร์ (Auguste Renoir) เป็นต้น หลังจากนั้นเธอได้พบกับจิตรกรชาวฝรั่งเศส แอดการ์ เดอกา (Edgar Degas) ผู้ที่มองเห็นความสามารถของเธอและสนับสนุนเริ่มวาดภาพ

ซูซานอาศัยอยู่ในสตูดิโอแห่งนี้ตั้งแต่ปี 1912 กับสามี André Utter และลูกชายของเธอจนถึงปี 1926 ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกทางกัน เธอเคยกล่าวเอาไว้ว่าช่วงเวลาที่เธออาศัยอยู่ที่นี่นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้

 

ซูซานไม่เคยเรียนเขียนภาพเลยทั้งชีวิต แต่เธออาศัยการฝึกฝนและการเรียนรู้ด้วยตัวเอง สีสันสดใส เส้นชัด และการสื่ออารมณ์ที่ชัดเจน คือเอกลักษณ์ของผลงานของเธอ ผลงานของเธอส่วนใหญ่จะเป็นภาพวาดพอร์ตเทรตและภาพหญิงสาวเปลือยกาย ซูซานถือเป็นศิลปินที่ไม่ได้ทำตามแนวทางสมัยนิยมเท่าไรนัก ไม่ใช่เพียงเพราะพื้นเพของเธอที่ไม่เคยเรียนมาทางด้านนี้ แต่เป็นเพราะว่าเธอได้ทำลายกรอบในการวาดภาพเปลือยไปเสียหมด เธอมีมุมมองในการวาดภาพเปลือยของหญิงสาวต่างจากจิตรกรหญิงท่านอื่นๆ และภาพวาดเปลือยของเธอก็มักจะถูกยกมาเป็นหัวข้อบทสนทนาเกี่ยวกับ Feminism

 

ห้องนอนของซูซาน โดยได้รับการบูรณะและตกแต่งภายในโดย Hubert Le Gall

 

นอกจากนั้น ในพิพิธภัณฑ์ยังมีการพูดถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของบาร์ Le Chat Noir ที่ถือเป็นคาบาเร่ต์โชว์แห่งแรกในยุคโมเดิร์น Le Chat Noir เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ปี 1881 ที่ 84 Boulevard de Rochechouart โดย Rodolphe Salis และถูกปิดตัวลงเมื่อปี 1897 หลังจากที่ Salis ได้เสียชีวิตลง

 

O'BON PARIS' NOTE

ที่ด้านข้างของพิพิธภัณฑ์นั้นมีไร่องุ่นตั้งอยู่ ในเดือนตุลาคมของทุกๆปี จะมีเทศกาล Fête des Vendanges de Montmartre จัดขึ้นที่นี่ เป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลเก็บเกี่ยวและการหมักไวน์ ใครที่มีโอกาสมาที่กรุงปารีส ให้ตระหนักไว้เสมอว่าย่านมงมาร์ตไม่ได้มีแค่มหาวิหารซาเกรเกอร์ (Basilique du Sacré-Coeur de Montmartre) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งน่าสนใจอีกมากมายเพียงแค่ค้นหา

 


เรื่องและภาพ: Che Fen OU YANG

แปล: Aphinya Kasemsukphaisan