ประเทศเนเธอร์แลนด์


เหตุผลที่ต้องไปเที่ยวประเทศเนเธอร์แลนด์

ท่องเที่ยวในประเทศเนเธอร์แลนด์

ประเทศเนเธอร์แลนด์ (The Netherlands) หรืออีกชื่อหนึ่งที่คนเรียกกันคือ "ฮอลแลนด์" (Holland) มีอาณาเขตติดกับประเทศเบลเยี่ยมและเยอรมัน เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นบ้านเกิดของศิลปินชื่อดังอย่างแร็มบรันต์ (Rembrants) ประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นมีจำนวนของผู้อพยพค่อนข้างสูง จึงทำให้มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม

การท่องเที่ยวในประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นเป็นการท่องเที่ยวที่ค่อนข้างเรียบง่าย เดินเล่นในตัวเมือง เข้าชมพิพิธภัณฑ์ ศูนย์แสดงศิลปะ และสถาปัตกรรมต่างๆ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมที่ค่อนข้างหลากหลายแล้ว โดยเฉพาะในอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เมืองหลวง ที่มีเสน่ห์แบบที่เมืองอื่นไม่มี ทั้งคลองเล็กคลองน้อย ตัดกับถนนเส้นต่างๆ ตึกรามบ้านช่อง รวมไปถึงจักรยานและเรือ ที่เป็นยานพาหนะหลักของคนที่นี่ แค่นี้ก็สามารถทำให้คุณรู้สึกสนุกแล้ว


ภาษาท้องถิ่น: ภาษาดัตช์ (Dutch)

พื้นที่: 41,543 ตารางกิโลเมตร

ศาสนา: นิกายคาทอลิกและคริสต์เตียน

สกุลเงิน: ยูโร (EUR) สัญลักษณ์ €

กระแสไฟฟ้า: 230V

 

 

เนเธอร์แลนด์ เที่ยวไหนดี

เที่ยวไหนดีในเนเธอร์แลนด์?

ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมืองที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุดคือเมืองหลวงอย่างอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) นอกจากนั้นยังมีเมืองเล็กๆมากมายที่ล้อมรอบอัมสเตอร์ดัมอยู่ คุณสามารถนั่งรถไฟหรือรถบัสไปยังเมืองเล็กนั้นๆได้อย่างสะดวกสบาย

1) อัมสเตอร์ดัม (AMSTERDAM): พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Rijksmuseum Amsterdam, ป้ายสัญลักษณ์ I amsterdam, พิพิธภัณฑ์ Stedelijk Museum Amsterdam, พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum), พิพิธภัณฑ์บ้านแอนน์ แฟรงค์ (Anne Frank House), จัตุรัสดัม (Dam Square), ตลาดดอกไม้ Bloemenmarkt, พิพิธภัณฑ์บ้านแร็มบรันต์ (Rembrandt House Museum), พิพิธภัณฑ์ Heineken Experience, ย่านจอร์แดน (Jordaan District) และจุดชมวิว A'dam Lookout 

2) หมู่บ้านซานส์ สคันส์ (ZAANSE SCHANS): หมู่บ้านกังหันลมโบราณ (Windmill Village), พิพิธภัณฑ์กังหันลม De Kat (Windmill Museum De Kat) และโรงงานทำรองเท้าไม้ (Wooden Shoes Factory)

3) ซานดัม (ZAANDAM): สถานีรถไฟซานดัม (Zaandam Station) และ โรงแรม Inntel Hotel -- เมืองซานดัมมีชื่อเล่นว่า "เมืองเลโก้" (Lego City) เนื่องจากตึกอาคารที่ถูกสร้างออกมาคล้ายกับตัวต่อเลโก้

4) ฮาร์เลม (HAARLEM): วิหารเซนต์บาโว (Saint-Bavo Church), พิพิธภัณฑ์เทย์เลอร์ (Teylers Museum), Wrote Markt -- ปัจจุบันนี้เมืองฮาร์เลมเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยว ด้วยความสวยงามของเมืองและใช้เวลาเพียง 20 นาทีเดินทางโดยรถไฟจากเมืองอัมสเตอร์ดัม

5) รอตเทอร์ดาม (ROTTERDAM): บ้านทรงเต๋า (Cube House), หอคอย Euromast (Euromast Tower), สะพานอีราสมุส (Erasmus Bridge) -- รอตเทอร์ดัมเป็นเมื่องที่มีชื่อเสียงทางสถาปัตยกรรมเป็นอย่างมาก

6) เดอะเฮก (THE HAGUE): พิพิธภัณฑ์เมาริซ (Mauritshuis Museum), พิพิธภัณฑ์ Yi Jun Peace (Yi Jun Peace Museum) และรัฐสภาบินเนนฮอฟ (Binnenhof)

7) สวนเคอเคนฮอฟ (KEUKENHOF): เทศกาลชมดอกทิวลิปจัดขึ้นที่สวนดอกไม้เคอเคนฮอฟ ดอกทิวลิปจะบานสะพรั่งเต็มที่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นสถานที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนประเทศเนเธอร์แลนด์

8) หมู่บ้านกีธูร์น (GIETHOORN): เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "หมู่บ้านไร้ถนน" การสัญจรในหมู่บ้านนี้เป็นไปได้ด้วยการสัญจรทางน้ำทั้งสิ้น

 

 

เนเธอร์แลนด์ เที่ยวช่วงไหนดี

เนเธอร์แลนด์ช่วงไหนน่าเที่ยวบ้าง?

ช่วงเวลาที่โรแมนติคที่สุดคือตอนที่ดอกทิวลิปบานสะพรั่ง: เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม

ช่วงนี้ยังถือว่าเป็นฤดูใบไม้ผลิอยู่ อากาศอุ่นขึ้นจากหน้าหนาวที่ผ่านมาและแสงแดดที่มีมากขึ้น ช่วงนี้เป็นช่วงที่ดอกทิวลิปกำลังบานเต็มที่ยิ้มรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชม อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าอุณหภูมิจะอุ่นขึ้นจากหน้าหนาว แต่ก็ยังเย็นอยู่ ควรจะมีเสื้อคลุมติดตัวไปด้วยในกรณีที่อากาศหนาว

 

ลมพัดเย็นสบายที่มาพร้อมกับเวลากลางวันที่นานขึ้น: เดือนมิถุนายนถึงกันยายน

ฝนจะตกค่อนข้างชุกในช่วงนี้ แต่เวลากลางวันจะยาวนานขึ้น พระอาทิตย์ออกมาทักทายผู้คนมากขึ้น ทำให้มีเวลาในการท่องเที่ยวมากขึ้น มากไปกว่านั้นยังมีหลากหลายเทศกาลที่จัดขึ้นในช่วงนี้ สำหรับใครที่ต้องการจะชมวิวตอนกลางคืน แนะนำว่าไม่ควรเริ่มต้นวันเช้ามาก มิฉะนั้นอาจจะเหนื่อยเกินไป

 

อากาศหนาว เป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับการทำกิจกรรมในร่ม: เดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์

หน้าหนาวก้าวเข้ามาอย่างเต็มตัว ฝนตกชุก มีเมฆมาก และอากาศค่อนข้างอึมครึม แต่ข้อดีก็คือพระอาทิตย์ตกจะสวยที่สุดในช่วงเวลานี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลากลางวันจะสั้นกว่าฤดูอื่นๆ ทำให้มีเวลาช่วงกลางวันน้อยลง แนะนำว่าควรวางแผนการท่องเที่ยวในร่มให้มากกว่ากลางแจ้ง อย่างเช่นการเดินชมพิพิธภัณฑ์เป็นต้น เพื่อไม่ให้อากาศเป็นอุปสรรคในการท่องเที่ยว

 

 

งบประมาณการท่องเที่ยว เนเธอร์แลนด์

งบประมาณในการท่องเที่ยวเนเธอร์แลนด์

ค่าครองชีพของประเทศเนเธอร์แลนด์จะคล้ายกับประเทศอื่นๆในยุโรป ข้าวของและวัตถุดิบในการประกอบอาหารในซุปเปอร์มาเก็ตนั้นจะมีราคาที่ถูกกว่าราคาอาหารในร้านอาหาร การรับประทานอาหารที่ร้านอาหารที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นมีราคาที่ค่อนข้างสูง การเดินทางโดยการใช้ระบบขนส่งสาธารณะค่อนข้างมีราคาที่สูงเช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้ว คนท้องถิ่นที่นี่มักใช้จักรยานในการสัญจร ค่าใช้จ่ายต่อวันในการท่องเที่ยวที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ จะอยู่ที่ประมาณ 80€ ต่อคน ไม่รวมค่าที่พัก 

 

 

อาหารท้องถิ่น เนเธอร์แลนด์

กินอะไรดีเมื่อไปเยือนเนเธอร์แลนด์?

วัฒนธรรมด้านอาหารของประเทศเนเธอร์แลนด์ยังคงความเป็นท้องถิ่นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การออกไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารก็ยังมีราคาแพงกว่าประกอบอาหารเองที่บ้าน คนเนเธอร์แลนด์จึงนิยมประกอบอาหารเองมากกว่าออกไปรับประทานข้างนอก แต่ถ้าหากพบเห็นร้านอาหารไหนที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยว นั่นมีความเป็นไปได้สูงมากว่าคนเยอะ แนะนำว่าให้ทำการสำรองที่นั่งไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการต่อคิว

1) STROOPWAFEL: ถ้าหากมีโอกาสได้ไปเดินตามตลอดสดที่มีพ่อค้าแม่ค้าท้องถิ่นมาขายของ ก็จะพบกับเจ้า Stroopwafel ได้ไม่ยาก โดยเจ้า Stroopwafel นี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์เลยทีเดียว เป็นการนำวัตถุดิบต่างๆไปสอดไส้ในวาฟเฟิล แต่ไส้ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดก็คือไส้คาราเมลนั่นเอง

2) HARING: คือปลาเฮร์ริง (Herring) ที่ถูกนำไปดองกับน้ำส้มสายชูและเกลือ ร้านขายเจ้า Haring นั้นสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น Haring เฉยๆ หรือแซนด์วิช Haring ก็ย่อมได้

3) DUTCH PANCAKE: ดัตช์แพนเค้กนั้นมีรูปร่างที่ค่อนข้างบาง และมักจะมีท็อปปิ้งที่หลากหลาย "Poffertjes" คือแพนเค้กขนาดพอดีคำ นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า

4) FRENCH FRIES: เฟรนช์ฟรายก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กันในประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยที่นี่จะไม่รับประทานเฟรนช์ฟรายกับซอสมะเขือเทศแต่เป็นมายองเนสสไตล์ดัตช์ (Dutch Mayo) และซอสชนิดอื่นๆแทน มอยองเนสสไตล์ดัตช์นั้นนอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติแล้ว ว่ากันว่ามันยังช่วยรักษาความร้อนของเฟรนช์ฟรายได้ด้วย ปริมาณเฟรนช์ฟรายที่เสิร์ฟนั้น ส่วนมากไซส์เล็กมักจะไม่เล็กตามชื่อ เป็นปริมาณที่กำลังอิ่มพอดี

5) DUTCH CHEESE: ชีสที่เราเคยเห็นในการ์ตูนในวัยเด็กจะเป็นชีสก้อนใหญ่สีเหลือง ไม่ได้มีแค่ในการ์ตูนอีกต่อไป โดยชีสที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นี้ ส่วนมากจะเป็นก้อนใหญ่สีเหลือง มักจะแบ่งขายเป็นก้อนเล็กๆรับประทานคู่กับขนมปัง

6) CROQUETTE: เจ้า Croquette เรียกได้ว่าเป็นขนมท้องถิ่นที่ดีที่สุด มันคือมันบดที่นำไปทอดจนกรอบเหลือง ไม่ว่าจะเป็นตามสถานีรถไฟหรือในตัวเมือง คุณจะพบเห็นตู้จำหน่ายสินค้าแบบหยอดเหรียญ ขายเจ้า Croquette นี้ในราคาที่ถูกแสนถูก 

7) HUTSPOT: คือหนึ่งอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ โดย Hutspot มักจะนำไปปรุงรวมกับ Klapstuk หรือเนื้อจากส่วนซี่โครงของวัว

 

 

การเดินทางในประเทศเนเธอร์แลนด์

การเดินทางในเนเธอร์แลนด์

ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นมีระบบขนส่งสาธารณะที่หลากหลาย ทั้งรถไฟ เมโทร แทรม รถบัส และจักรยาน โดยจักรยานถือเป็นยานพาหนะที่คนส่วนใหญ่ใช้ ทำให้ถนนหนทางต่างมีเลนสำหรับรถจักรยานอย่างชัดเจน ถ้าหากใครต้องการท่องเที่ยวแบบคนท้องถิ่น สามารถเช่าจักรยานและปั่นไปรอบๆเมืองได้ และเพื่อความปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่และรถยนตร์บนท้องถนน อย่าลืม ทำสัญญาณเลี้ยวด้วยมือเวลาต้องการจะเลี้ยวด้วยล่ะ

เวลาที่เดินทางด้วยเมโทร แทรม หรือรถบัส จะต้อง validate ทุกครั้งทั้งก่อนและหลังเดินทาง และเมื่อเดินทางด้วยรถไฟ ตู้ validate ตั๋วมักจะอยู่ที่ชานชาลา

ที่เมืองอัมสเตอร์ดัมนั้น ประตูบนรถแทรมจะมีช่องทางเข้าทางออกกำหนดไว้อย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นต้องเข้าออกให้ถูกทาง

เมโทร แทรม และรถบัส จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้าไปจนถึงเที่ยงคืนครึ่ง โดยมีรถบัสกลางคืน (Night Bus) มาวิ่งแทนที่จนถึง 7 โมงเช้า

 

1) การเดินทางจากสนามบินอัมสเตอร์ดัมไปยังใจกลางเมือง

รถไฟ: จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟ Amsterdam Centraal ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการเดินทาง ตั๋วขาเดียวราคาอยู่ที่ 4.30€

  

2) การเดินทางในตัวเมืองอัมสเตอร์ดัม

1. I AMSTERDAM CITY CARD: ถ้าคุณถือบัตร I amsterdam City Card คุณสามารถเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะได้ฟรีและไม่จำกัดรอบ อีกทั้งยังสามารถเข้าสถานที่ท่องเที่ยวได้หลายที่ด้วยบัตรใบนี้

ราคา: 24 ชั่วโมง 59€ / 48 ชั่วโมง 74€ / 72 ชั่วโมง 87€ / 96 ชั่วโมง 98€

เว็บไซต์: www.iamsterdam.com

 

2. AMSTERDAM GVB DAY TICKET: ด้วยตั๋ว Amsterdam GVB Day Ticket นี้ คุณสามารถเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะได้ฟรีและไม่จำกัดรอบตามจำนวนเวลาที่กำหนดในตั๋ว โดยตั๋วจะนับจากชั่วโมงและนาทีที่ validate ตั๋ว ไม่ได้นับเป็นวัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ค่อนข้างคุ้มสำหรับใครที่ต้องการที่จะท่องเที่ยวอยู่แค่ในเมืองอัมสเตอร์ดัม

ราคา: 1 วัน (24 ชั่วโมง) 7.50€ / 2 วัน 12.50€ / 3 วัน 17.50€ / 4 วัน 22.50€ / 5 วัน 27.50€ / 6 วัน 31.50€ / 7 วัน 34.50€

 

3. AMSTERDAM TRAVEL TICKET: เจ้าตั๋วนี้มีให้เลือกตั้งแต่แบบ 1 วันถึง 3 วัน โดยตั๋วนี้นับเวลาจากวัน โดยวันที่ 1 จะเริ่มที่เที่ยงคืนและจบลงที่ 23:59 ไม่ได้นับเป็นชั่วโมงและนาที ตั๋วนี้สามารถใช้ได้กับรถไฟและ Shuttle Bus เดินทางระหว่างตัวเมืองและสนามบินได้

ราคา: 1 วัน 16€ / 2 วัน 21€ / 3 วัน 26€

 

4. AMSTERDAM & REGION TRAVEL TICKET: สำหรับใครที่วางแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่หมู่บ้านซานส์ สคันส์ (Zaanse Schans) และเมืองซานดัม (Zaandam) นั้น คุณสามารถขึ้นรถไฟไปได้ด้วยตั๋ว Amsterdam & Region Travel Ticket นี้ อีกทั้งยังสามารถเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะได้ฟรีและไม่จำกัดรอบในเมืองอัมสเตอร์ดัม และสามารถใช้ได้กับรถไฟและ Shuttle Bus เดินทางระหว่างตัวเมืองและสนามบินได้อีกด้วย

ราคา: 1 วัน 18.50€ / 2 วัน 26€ / 3 วัน 33.50€

 

3) การเดินทางจากอัมสเตอร์ดัมไปยังเมืองใกล้ๆ

รถไฟ: จากเมืองอัมสเตอร์ดัม คุณสามารถเดินทางไปยังเมืองใกล้ๆได้ด้วยรถไฟ คุณสามารถซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ผ่านเว็บไซต์ 

รถบัส: โดยทั่วไปแล้วรถบัสมักจะใช้เวลาในการเดินทางนานกว่ารถไฟ แต่จะมีราคาที่ต่ำกว่า 

 

 ตั๋วรถและบัตรส่วนลด เนเธอร์แลนด์ 

ตั๋ว บัตรเดินทาง และส่วนลดต่างๆในเนเธอร์แลนด์

สำหรับนักเรียนที่เดินทางท่องเที่ยว อย่าลืมถือบัตรนักเรียนแบบ International Student Card ติดตัวมาด้วย เพราะที่นี่มีส่วนลดหลากหลายสำหรับผู้ที่ถือบัตรนักเรียน สอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับส่วนลดสำหรับนักเรียนได้ก่อนทำการซื้อตั๋ว

ด้วยความที่ราคาค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ที่อัมสเตอร์ดัมนี้มีราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้มีตัวเลือกที่จำกัดในการเลือกเข้าพิพิธภัณฑ์ แต่ถ้าหากใครที่ถือบัตร I amsterdam City Card หรือ Holland Pass นั้น เจ้าบัตรเหล่านี้จะมีส่วนลดสำหรับพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทำให้ช่วยประหยัดไปได้มาก ถ้าหากต้องการสั่งซื้อ สามารถสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์และสั่งให้มาส่งที่บ้านได้เลย หรือจะเลือกมารับที่สนามบินหรือสถานีรถไฟก็ได้ หรือถ้าหากใครไม่ได้เตรียมตัวมาหรือไม่เคยทราบเกี่ยวกับบัตรนี้มาก่อน คุณสามารถเดินเข้าไปซื้อได้เลยที่ Tourist Center ตามสถานีรถไฟและในตัวเมืองได้เลย

 

1) I AMSTERDAM CITY CARD

ใครที่มีเวลาเดินทางค่อนข้างน้อย ต้องการที่จะไปเที่ยวหลายๆที่ในเวลาที่จำกัด เจ้า I amsterdam City Card นี้เรียกได้ว่าเพอร์เฟ็ค เพราะเจ้าบัตรนี้สามารถเข้าพิพิธภัณฑ์ได้หลายที่ภายใน 1 วัน หรือตามช่วงเวลาที่บัตรกำหนด พิพิธภัณฑ์ที่สามารถเข้าได้คือ พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum), พิพิธภัณธ์แห่งชาติ Rijksmuseum, พิพิธภัณฑ์ Stedelijk Museum Amsterdam หรือแม้กระทั่งล่องเรือชมเมือง Amsterdam River Cruise ก็ยังได้ พิพิธภัณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีพิพิธภัณฑ์อีกกว่า 60 แห่งที่สามารถเข้าไปชมได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้บัตรนี้เพื่อเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะได้ฟรีและไม่จำกัดรอบอีกด้วย (ยกเว้นการเดินทางด้วยรถไฟระหว่างตัวเมืองและสนามบิน) และยังมีส่วนลดอีกมากมาย

สั่งซื้อบัตรล่วงหน้าได้ในเว็บไซต์ เลือกให้ไปส่งที่บ้าน หรือจะมารับที่สนามบินหรือสถานีรถไฟก็ได้ เวลาในบัตรจะเริ่มนับก็ต่อเมื่อมีการ validate บัตรครั้งแรกเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางหรือการเข้าพิพิธภัณฑ์

ราคา: 24 ชั่วโมง 59€ / 48 ชั่วโมง 74€ / 72 ชั่วโมง 87€ / 96 ชั่วโมง 98€

เว็บไซต์: www.iamsterdam.com

 

2) HOLLAND PASS 

Holland Pass นั้นออกจะแตกต่างจาก I amsterdam City Card เสียหน่อย เจ้า Holland Pass นี้จะแบ่งออกเป็น 3 แพ็คเกจคือ Small, Medium และ Large ขึ้นอยู่กับจำนวนสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการจะไป แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวจะถูกแบ่งออกว่าเป็น Silver หรือ Gold Level โดยแต่ละแพ็คเกจจะสามารถไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแพ็คเกจนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณถือ Small Holland Pass คุณสามารถเข้าสถานที่ท่องเที่ยวได้ 1 Gold Level และ 2 Silver Level นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว คุณยังจะได้รับส่วนลดอีกมากมายและไกด์บุ้คฟรีเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวอย่างสะดวกสบาย

ราคา: Small 40€ / Medium 55€ / Large 72€

เว็บไซต์: www.hollandpass.com

 

 

สกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยนเงินเนเธอร์แลนด์

สกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยนในเนเธอร์แลนด์

ประเทศเนเธอร์แลนด์ใช้สกุลเงินเดียวกันกับประเทศอื่นๆในยุโรป นั่นก็คือ EUR (€) หรือยูโร นับว่าค่อนข้างสะดวกสบายเลยทีเดียว เพราะไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงินให้ยุ่งยากเมื่อต้องเดินทางท่องเที่ยวต่อไปยังประเทศอื่นๆในยุโรป ร้านอาหารบางร้านในประเทศเนเธอร์แลนด์รับเฉพาะบัตรเครดิต/เดบิตเท่านั้น เพราะฉะนั้นอย่าลืมเตรียมบัตรเครดิต/เดบิตไว้ให้พร้อมด้วย

 

 

ของที่ระลึก ของฝากน่าซื้อ เนเธอร์แลนด์

ของที่ระลึกน่าซื้อจากเนเธอร์แลนด์

1) STROOPWAFEL: เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของประเทศเนเธอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ สำหรับเจ้าวาฟเฟิลที่สอดไส้คาราเมลไว้ด้านใน Stroopwafel หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป ทริคในการรับประทานให้อร่อยคือวางเอาไว้บนแก้วกาแฟหรือชาร้อนๆ ไอน้ำจากเครื่องดื่มร้อนจะทำให้วาฟเฟิลนั้นนิ่มขึ้น

2) TULIP SOUVENIR: อีกสัญลักษณ์สำคุญก็คือดอกทิวลิป ไม่ว่าจะเป็นโปสการ์ด แม็กเน็ตติดตู้เย็น และอีกมากมายที่มีดอกทิวลิปเป็นองค์ประกอบหลักในสินค้านั้นๆ

3) WOODEN SHOES: ที่หมู่บ้านซานส์ สคันส์ ที่นั่นจะมีโรงงานทำรองเท้าไม้ตั้งอยู่ ที่นั่นคุณสามารถเลือกซื้อร้องเท้าไม้ในรูปแบบต่างๆได้ หรือจะเป็นรองเท้าธรรมดาที่ออกแบบให้ดูเหมือนรองเท้าไม้ก็มีให้เลือกอีกมากมาย

4) VAN GOGH SOUVENIR: พิพิธภัณฑ์ที่ห้ามพลาดเลยเมื่อไปเยือนเมืองอัมสเตอร์ดัมก็คือ พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ ด้านในมีของที่ระลึกนับไม่ถ้วนที่มีภาพวาดของแวนโก๊ะเป็นองค์ประกอบหลัก ใครที่เป็นแฟนแวนโก๊ะพลาดไม่ได้อย่างแน่นอน

5) TOTE BAGS: กระเป๋าผ้าที่มีลวดลายต่างๆของสถานที่ท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ดัม, ดอกทิวลิป, หรือแม้กระทั่งภาพวาดศิลปะต่างๆ นับเป็นของที่ระลึกที่ได้รับความนิยมอย่างมากเลยทีเดียว

6) MIFFY: กระต่ายมิฟฟี่ (Miffy) มีบ้านเกิดอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นี่เอง และในเมืองอัมสเตอร์ดัมนั้นมีร้าน Miffy Official Shop เปิดให้บริการ ด้านในมีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ และแน่นอนว่าสินค้าแทบทุกชิ้นต้องมีเจ้ากระต่ายมิฟฟี่อยู่ด้วย น่ารักน่าชัง อดที่จะซื้อทุกอย่างไม่ได้จริงๆ

7) DUTCH MAYO: ชาวดัตช์มักจะรับประทานเฟรนช์ฟรายคู่กับมายองเนสสไตล์ดัตช์ (Dutch Mayo) ถ้าหากใครชื่นชอบก็สามารถไปเดินหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป

 

  

Tax Refund แท็กซ์รีฟันด์ เนเธอร์แลนด์

การของคืนภาษี (TAX REFUND) ในเนเธอร์แลนด์

Tax Refund หรือการคืนภาษีนั้น เป็นระบบการคืนเงินภาษีของสินค้าชนิดต่างๆให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะนำสินค้าที่ซื้อจากประเทศนั้นๆกลับไปใช้ที่ประเทศของตนเอง ถ้าหากคุณต้องการทำ Tax Refund ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ คุณจะต้องไม่ถือสัญชาติยุโรปหรือเป็นผู้พำนักอาศัยในทวีปยุโรป (European Residents) และสินค้าจะต้องยังไม่ถูกเปิดและถูกใช้งาน การสังเกตุว่าร้านไหนรองรับการทำ Tax Refund ให้สังเกตุได้จากสติกเกอร์ที่ติดอยู่หน้าร้านหรือที่แคชเชียร์

การที่จะขอ Tax Refund ในประเทศเนเธอร์แลนด์นั้น คุณจะต้องซื้อสินค้าใน 1 ร้านรวม 50€ ขึ้นไปภายใน 1 วัน และเดินทางกลับประเทศตนเองภายใน 90 วัน

หลังจากที่ได้แบบฟอร์มประกอบการขอ Tax Refund แล้ว คุณจะต้องกรอกแบบฟอร์มและไปขอรับการแสตมป์จากเจ้าหน้าที่ที่สนามบิน หลังจากที่แบบฟอร์มได้รับการแสตมป์แล้ว คุณต้องแบบฟอร์มนำไปหย่อนตู้ Tax Refund ที่สนามบิน บริษัทที่ให้บริการขอ Tax Refund นั้นมีอยู่ 2 บริษัทคือ Global Blue Tax Free และ GWK Travelex (Premier Tax Free, Easy Tax Free และ Inova Tax Free) ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นของบริษัทไหนแล้วจึงนำไปหย่อนให้ถูกตู้

แผนก Tax Refund ที่สนามบินอัมสเตอร์ดัมอยู่ที่เทอมินอล Daparture 3 - Lounge 3 คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการเงินคืนแบบเงินสดหรือคืนในบัตร

 

 

มารยาทเบื้องต้นและการทิป เนเธอร์แลนด์

มารยาทเบื้องต้นและการให้ทิปในเนเธอร์แลนด์

ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ไม่มีธรรมเนียมการให้ทิปในร้านอาหาร หากแต่ว่าค่าบริการนั้นได้รวมไปแล้วในบิล อย่างไรก็ตาม คนท้องถิ่นยังมีการให้ทิปอยู่บ้างตามโอกาสและความเหมาะสม

 

 

คำแนะนำการท่องเที่ยว เนเธอร์แลนด์

เคล็ดลับในการท่องเที่ยวเนเธอร์แลนด์

คนท้องถิ่นที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นั้นสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นไม่ต้องหวงเรื่องการสื่อสาร

ช่วงแรกที่ไปถึงอาจจะมีอาการสับสนงงงวยเกิดขึ้นกับถนนหนทางที่นี่โดยเฉพาะในอัมสเตอร์ดัมนั้น เต็มไปด้วยแทรมและรถจักรยาน เนื่องจากสองสิ่งนี้เป็นยานพาหนะหลักของคนท้องถิ่น สำรวจเส้นทางให้ดีก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทับเส้นทางแทรมหรือเลนจักรยาน

ร้านอาหารและร้านค้าบางร้านรับเพียงบัตรเครดิต/เดบิตเท่านั้น ไม่รับเงินสด เพราะฉะนั้น แลกเงินสดแล้วก็อย่าลืมพกบัตรเครดิต/เดบิตติดตัวไปด้วย

สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องรู้เมื่อมาเที่ยวประเทศเนเธอร์แลนด์ก็คือ ความแตกต่างระหว่าง คาเฟ่ (Café) และร้านกาแฟ (Coffee Shop) ถ้าหากคุณไปถามคนท้องถิ่นแถวนั้นว่า "ร้านกาแฟอยู่ที่ไหน?" คุณอาจจะไปเจอกับสิ่งที่คุณไม่ได้คาดคิดก็เป็นได้ เพราะที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นี้ "ร้านกาแฟ" คือสถานที่ขายสารเสพติด รวมไปถึงกัญชาซึ่งเป็นสิ่งถูกกฎหมายในประเทศเนเธอร์แลนด์ เพราะฉะนั้น ถ้าหากต้องการจิบกาแฟร้อนสักแก้ว อย่าลืมว่าจะต้องมองหา "คาเฟ่" ไม่ใช่ "ร้านกาแฟ"

เมื่อถึงเวลาต้องเช็คเอ้าท์จากที่พักและต้องการเดินเที่ยวต่อ แต่ก็ยังมีภาระเป็นกระเป๋าเดินทาง คุณสามารถนำกระเป๋าไปฝากไว้ในล็อคเกอร์ตามสถานีรถไฟได้ อย่างเช่นที่สถานี Amsterdam Centraal เป็นต้น มีล็อคเกอร์เปิดให้บริการมากมาย ราคาขึ้นอยู่กับขนาดของล็อคเกอร์และระยะเวลาที่ฝาก