ประเทศโปรตุเกส


ท่องเที่ยวในประเทศโปรตุเกส

ท่องเที่ยวในประเทศโปรตุเกส

ปัจจุบันนี้ ประเทศโปรตุเกสเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆในฐานะเมืองท่องเที่ยวเนื่องจากสภาพอากาศริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ค่อนข้างดีตลอดทั้งปี ประเทศโปรตุเกสนั้นมีเสน่ห์ที่ประเทศอื่นๆไม่มี โดยเฉพาะทางด้านวัฒนธรรม ภูมิประเทศ และความสวยงามของธรรมชาติ ถ้าเทียบกับประเทศอื่นในยุโรปแล้ว ประเทศโปรตุเกสนั้นไม่ถือว่าเป็นประเทศที่ใหญ่หากแต่ว่ามีเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้สำรวจ มากไปกว่านั้น ประเทศโปรตุเกสยังมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของอาหารจากขนมหวานที่เป็นรู้จักกันไปทั่วโลกอย่างทาร์ตไข่และปลาค็อด ที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการชมการแสดง Portugues Fado หรือทัวร์โรงบ่มพอร์ตไวน์ เป็นต้น


ภาษาท้องถิ่น: ภาษาโปรตุเกส (Portuguese)

พื้นที่: 92,212 ตารางกิโลเมตร

ศาสนา: นิกายคาทอลิกกว่า 74%

สกุลเงิน: ยูโร (EUR) สัญลักษณ์ €

กระแสไฟฟ้า: 220V

  

 

เที่ยวไหนดีในโปรตุเกส?

เที่ยวไหนดีในโปรตุเกส?

ประเทศโปรตุเกสมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และคาแรคเตอร์ของตัวเอง ถ้าหากคุณกำลังแพลนที่จะเดินทางท่องเที่ยวไปตามเมืองเล็กๆ ทางเราแนะนำว่าควรมีเวลามากหน่อยเพื่อที่จะได้สามารถท่องเที่ยวไปได้ในทุกๆที่

1) ลิสบอน (LISBON): จัตุรัสรอสซิโอ (Rossio Square), คอนแวนต์โกธิค (Carmo Convent), รถแทรม Bica Cable Car/Tram, ตลาด Time Out Market, LxFactory, มหาวิหารเจอโรนิโม (Jeronimos Monastery), ร้านทาร์ตไข่ Pasteis de Belem, อนุสาวรีย์แห่งการค้นพบ (Discovery Monument), หอคอยเบเล็ม (Tower of Belem), Sanctuary of Christ the King, Alcantara Observatory, ถนน Augusta Street, จัตุรัสคอมเมิร์ส (Comercio Square), ประตูออกัสต้า (Augusta Arch), โบสถ์ Lisbon Cathedral, Santa Luzia Observatory, ลิฟท์ Santa Justa, เขตเมืองอัลฟามา (Alfama district), Santa Catarina Observatory และพิพิธภัณฑ์ Azulejo Museum

1-2) เมืองอื่นใกล้ๆลิสบอน: ซินทรา (Sintra), Cape Roca, กาชไกช์ (Cascais), Obidos Municipality, Azenhas Do Mar, Nazaré, เอโวรา (Evora) และฟาติมา (Fatima)

2) ปอร์โต้ (PORTO): โบสถ์ Chapel of Souls, ตลาด Bolhao Market, โบสถ์ Porto Cathedral, สถานีรถไฟ São Bento, โบสถ์ São Francis Church, พระราชวัง Bolsa Palace, จัตุรัสริเบเรีย (Ribeira Square), สะพาน Don Luis Bridge, Vila Nova de Gaia, ร้านหนังสือ Livraria Lello, โบสถ์ Carmo Cathedral และคาเฟ่ Majestic Cafe

2-2) เมืองอื่นใกล้ๆปอร์โต้: คอสตาโนวา (Costa Nova), อาเวโร (Aveiro), โกอิมบรา (Coimbra), บรากา (Braga) และกิมาไรส์ (Guimaraes)

3) เมืองทางใต้ของโปรตุเกส: ลากอส (Lagos), ปอร์ติเมา (Portimao), ฟาโร (Faro), อัลกาล์ฟ (Algarve), อัลบูเฟรา (Albufeira), ซาเกรช (Sagres), ทาวิรา (Tavira) และโอลเญา (Olhao)

 

 

โปรตุเกสช่วงไหนน่าเที่ยวบ้าง?

โปรตุเกสช่วงไหนน่าเที่ยวบ้าง?

ฤดูหนาวที่อากาศเย็นสบาย: เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์

ฤดูหนาวของโปรตุเกสนั้นจะไม่หนาวเท่าไรเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในยุโรป อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดจะอยู่ที่ 9 องศาและสูงสุดที่ประมาณ 15 องศา ในช่วงฤดูหนาวนี้อาจจะมีฝนตกชุกประมาณ 15 วันต่อเดือน จึงควรที่จะพกร่มติดตัวเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ในเดือนกุมภาพันธ์ จะมีเทศกาลคานิวัลจัดขึ้นทั่วทั้งประเทศ ทำให้บรรยากาศนั้นดูสนุกสนานอยู่ตลอดเวลา

 
ช่วงไฮซีซั่นเหมาะสำหรับการเดินทางออกท่องเที่ยว: เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม

ในช่วงนี้จะมีฝนตกชุกน้อยลงนิดหน่อย เฉลี่ยประมาณ 10-13 วันต่อเดือน ร่มควรมีติดตัวเอาไว้เสมอในกรณีฉุกเฉิน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-21 องศา อากาศโดยทั่วไปจะมีลมเย็นในช่วงเช้าและช่วงเย็นหลังพระอาทิตย์ตกไปแล้ว แนะนำว่าให้ติดเสื้อแจ็คเก็จเอาไว้สักตัวเพื่อกันหนาว

 
วันที่แดดออกและมีลมโชย: เดือนมิถุนายนถึงกันยายน

ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวในโปรตุเกส ความเป็นไปได้ที่ฝนจะตกมีน้อยลง เฉลี่ยอยู่ที่เพียง 2-6 วันต่อเดือนเท่านั้น อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 16-27 องศา ในตอนกลางวันอากาศอาจจะร้อนมาก หากแต่ว่าถ้าเป็นในตอนเช้าและเย็นอาจจะมีลมเย็นโชยมา จึงควรติดเสื้อคลุมบางๆเอาไว้สักตัว นอกจากนั้นก็ควรมีครีมกันแดดและแว่นกันแดดเนื่องจากแสงแดดที่ค่อนข้างแรง ในเดือนมิถุนายนมักจะมีเทศกาลต่างๆจุดขึ้นมากมายอย่างเช่น Music Festival 

 

บอกลาฤดูร้อนด้วยลมเย็นที่พัดโชยมา: เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน

เพื่อเป็นการหลบหนีอากาศร้อนๆ การมาเที่ยวโปรตุเกสในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนนั้นถือว่าเป็นสถานที่หลบร้อนได้ดีมากๆ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12-22 องศา แต่จะมีการแปรปรวนของอากาศที่เกิดขึ้นบ้างทำให้หนึ่งวันอาจจะมีหลายฤดูกาล ช่วงนี้จะมีฝนตกชุกมากขึ้นประมาณ 11-14 วันต่อเดือน แนะนำให้ติดร่มเอาไว้กับตัวตลอดเวลาจะดีที่สุด

 

 

งบประมาณในการท่องเที่ยวโปรตุเกส

งบประมาณในการท่องเที่ยวโปรตุเกส

ค่าครองชีพในประเทศโปรตุเกสนั้นค่อนข้างต่ำกว่าประเทศอื่นๆในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นของในซุปเปอร์มาเก็ต ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือร้านค้าอื่นๆก็มักจะมีราคาถูกกว่าเสมอและยังมีรสชาติอร่อยอีกด้วย ในขณะที่ราคาค่าเข้าของสถานที่ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงค่าเดินทางและค่าที่พักนั้นจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ค่าใช้จ่ายต่อวันในการท่องเที่ยวที่ประเทศโปรตุเกส จึงจะตกอยู่ที่ประมาณ 50€ ต่อคน ไม่รวมค่าที่พัก

  

 

กินอะไรดีเมื่อไปเยือนโปรตุเกส?

กินอะไรดีเมื่อไปเยือนโปรตุเกส?

ประเทศโปรตุเกสเป็นประเทศที่ล้อมรอบไปด้วยทะเล ดังนั้นอาหารทะเลจึงหารับประทานได้ทั่วไปและมีราคาถูก คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการรับประทานอาหารทะเลได้ตามร้านอาหารทั่วไป

1) ARROZ DE MARISCO: ข้าวทะเลของประเทศโปรตุเกสหรือเรียกง่ายๆว่า Seafood Rice จะมีรสที่ออกเค็ม เป็นข้าวในน้ำซุปกับอาหารทะเลเช่นกุ้ง หอยแมลงภู่ หอยหลอด ปู ปลา เป็นต้น

2) BACALHAU: หนึ่งในอาหารทะเลที่เป็นที่นิยมมากที่สุด Bacalhau คือปลาค็อดที่จะถูกนำไปปรุงเป็นอาหารหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นการทอด ย่าง หรือแม้กระทั่งนึ่ง

3) FILETES DE POLVO: อีกหนึ่งอาหารทะเลนั่นก็คือปลาหมึกยักษ์ ไม่ว่าใครก็ต่างจะต้องชอบรับประทานปลาหมึกยักษ์ทอดกันอย่างแน่นอน ทั้งกรอบนอกนุ่มในและหอมหวน

4) POLVO: ปลากหมึกยักษ์ที่ถูกนำไปต้มที่จะทำให้เนื้อสัมผัสนั้นทั้งนุ่มและหอม รับประทานง่าย

5) SOPA DE PEIXE: ซุปปลาของโปรตุเกสที่เต็มไปด้วยอาหารทะเลอื่นๆและไข่ไก่ ถือว่าเป็นอาหารจานเรียกน้ำย่อยที่ดี 

6) FRANCESINHAS: อาหารท้องถิ่นประจำเมืองปอร์โต้ มีรูปร่างคล้ายแซนด์วิล ตรงกลางสอดไส้เนื้อวัว ไส้กรอก ชีส และวัตถุดิบอีกมากมาย ราดด้วยซอสที่เข้มข้น

7) NATA: ขนมหวานประจำประเทศนั่นก็คือทาร์ตไข่ คุณสามารถหารับประทานที่ไหนก็ได้ตามหัวมุมถนนต่างๆ ดั่งเช่นไอศกรีมเจลาโต้ในประเทศอิตาลีหรือมาการองในประเทศฝรั่งเศส ทาร์ตไข่ตามร้านชื่อดังส่วนใหญ่แล้วจะอบใหม่จากแต่ทุกวันง   

8) PIRI PIRI CHICKEN: ไก่ทอดสไตล์โปรตุเกสเป็นไก่ทอดที่รับประทานกับซอสพิริพิริ (Piri Piri) ซึ่งเป็นซอสที่มีรสเผ็ดด้วยพริก Mozambican Pepper Piri Piri ถ้าหากรับประทานไก่คู่กับซอสนี้อาจจะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่แก่คุณเลยก็เป็นได้

9) BIFANA: เป็นอาหารสไตล์แซนด์วิชที่เรียกว่า Bifana โดยจะมีลักษณะเป็นขนมปังที่สอดไส้ด้วยเนื้อสัตว์ตรงกลาง เสิร์ฟร้อน เหมาะสำหรับรับประทานเป็นอาหารเช้าหรืออาหารว่าง

10) GINJINHA: เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำประเทศโปรตุเกส นิยมดื่มกันมากในเมืองลิสบอน ทำมาจากเชอร์รี่สีดำ น้ำตาล และแอลกอฮอล์ Aguardiente มีรสชาติที่ค่อนข้างฟรุตตี้ มักจะดื่มกันเป็นช็อตพร้อมกับช็อกโกแลต

11) PORTO WINE: นับเป็นเครื่องดื่มที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนประเทศโปรตุเกส พอร์ตไวน์เป็นไวน์ที่ผลิตทางตอนเหนือของประเทศหรือที่เรียกว่า Toru และด้วยความที่ไวน์นี้ถูกส่งออกจากเมืองปอร์โต้ทำให้เป็นที่รู้จักกันในนามพอร์ตไวน์ ไวน์จะมีรสชาติหวานและมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์มากกว่าไวน์ชนิดอื่นๆ 

  

 

การเดินทางในโปรตุเกส

การเดินทางในโปรตุเกส

การเดินทางในประเทศโปรตุเกสนั้นค่อนข้างเป็นระเบียบและเดินทางง่าย การเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆก็สามารถทำได้ง่ายดายโดยการจองตั๋วรถไฟหรือรถบัสออนไลน์ โดยเฉพาะในเมืองลิสบอนและเมืองปอร์โต้ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว จะมีระบบการขนส่งหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นรถแทรม รถบัส หรือแม้กระทั่งรถไฟใต้ดิน ถ้าหากคุณต้องการจำกัดงบประมาณค่าเดินทาง ทางเราแนะนำว่าให้ลองคำนวนเส้นทางการเดินทางก่อนแล้วตรวจสอบบัตรเดินทางว่าการเดินทางของคุณเหมาะกับบัตรแบบไหน อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวบางที่ที่ตั้งอยู่ใกล้กันในระยะที่สามารถเดินได้อีกด้วย ถ้าหากคุณเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่ แนะนำว่าให้ใช้บริการแท็กซี่ Uber ซึ่งจะมีราคาที่ถูกกว่าการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ

 

1) การเดินทางไปยังเมืองอื่นๆในโปรตุเกส

รถไฟ: การเดินทางด้วยรถไฟในประเทศโปรตุเกสนั้นค่อนข้างสะดวกสบายและง่าย โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถสำรองที่นั่งในรถไฟได้ล่วงหน้า 2 เดือนก่อนวันเดินทาง ถ้าหากคุณสามารถสำรองที่นั่งได้เร็ว คุณอาจจะสามารถซื้อตั๋วในราคาโปรโมชั่นได้ คุณสามารถเข้าไปตรวจสอบเวลารถไฟและสำรองที่นั่งได้ที่เว็บไซต์ CP (Comboios Portugal) ที่ www.cp.pt

รถบัส: การเดินทางด้วยรถบัสก็ง่ายดายไม่แพ้กัน คุณสามารถสำรองที่นั่งได้ที่ Rede Expressos ที่ www.rede-expressos.pt และถ้าหากคุณเป็นนักเรียนหรือมีอายุต่ำกว่า 29 ปี จะสามารถซื้อตั๋วในราคาโปรโมชั่นได้ ดังนั้นลองตรวจสอบเวลารถบัสและสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้

 

2) การเดินทางในตัวเมืองลิสบอน

ในตัวเมืองลิสบอนจะมีเมโทร รถบัส และรถแทรม แต่โดยทั่วไปแล้วนักท่องเที่ยวมักจะเดินทางท่องเที่ยวด้วยการเดินเท้าในตัวเมือง ยกเว้นการเดินทางไปที่เขตเบเลมซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ทางเราจึงแนะนำให้คุณท่องเที่ยวด้วยการเดินเท้า เพราะเนื่องจากการจราจรในเมืองนั้นค่อนข้างที่จะติดขัด แต่ถ้าหากต้องการเดินทางด้วยเมโทร คุณสามารถซื้อตั๋วเมโทรแบบเติมเงินได้เพื่อความสะดวกสบายและรวดเร็วในการเดินทาง

บัตรเดินทางแบบเที่ยวเดียว: คุณสามารถซื้อตั๋วแบบขาเดียวได้ในทุกๆครั้งที่คุณต้องการเดินทาง สำหรับรถบัสคุณสามารถซื้อตั๋วจากคนขับรถได้เลยโดยตรง สำหรับรถแทรมจะมีตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติตั้งอยู่ที่ทุกๆสถานี

VIVA VIAGEM CARD: คุณสามารถซื้อบัตรเดินทาง Viva Viagem Card ได้ในทุกๆสถานีเมโทร ในครั้งแรกที่ซื้อคุณจะต้องเสีย 0.50€ เป็นค่าบัตร ซึ่งบัตรนี้สามารถเติมเงินได้เรื่อยๆ การเติมเงินสำหรับการเดินทาง 1 ครั้งมีราคา 1.45€ ซึ่งเมื่อเทียบกับบัตรเดินทางแบบเที่ยวเดียวราคา 1.85€ นั้นถือว่าสามารถประหยัดเงินไปได้เยอะเลยทีเดียว ตั๋วแบบ 24 ชั่วโมงราคาอยู่ที่ 6.30€ ที่คุณสามารถเดินทางได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้งโดยเมโทร รถบัส หรือรถแทรม หรือแม้กระทั่ง Funicular Ascensor de Bica บัตรจะเริ่มนับตั้งแต่ครั้งแรกที่คุณ validate ถึงแม้บัตรจะทำมาจากกระดาษ แต่คุณสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ

LISBOA CARD: คล้ายกันกับบัตร Viva Viagem Card โดยจะมีค่าบัตร 0.50€ ด้วย คุณสามารถเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง อีกทั้งคุณยังสามารถเข้าพิพิธภัณฑ์ฟรีหรือได้รับส่วนลดอีกด้วย บัตร Lisboa Card มีราคา 20€ ใช้ได้ 24 ชั่วโมง, 34€ ใช้ได้ 48 ชั่วโมง และ 42€ ใช้ได้ 72 ชั่วโมง

 

การเดินทางจากสนามบินลิสบอนไปยังใจกลางเมือง

รถบัสสนามบิน: รถรับส่งสนามบินตั้งอยูที่ทางออก 1 ราคา 4€ ต่อคน ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีเพื่อเดินทางเข้าไปยังใจกลางเมือง

เมโทร: เมโทรถือว่าเป็นวิธีการเดินทางจากสนามบินไปยังใจกลางเมืองที่ถูกที่สุด มีราคาเพียง 1.50€ เท่านั้น ถ้าหากคุณต้องการเดินทางเข้าไปยังจัตุรัส Comercio คุณจะต้องเดินทางด้วยเมโทรสาย VM จากสนามบินและเปลี่ยนไปสาย AZ ที่สถานี Sao Sebastiao และลงที่สถานี Baixa-Chiado โดยใช้เวลาประมาณ 50 นาทีในการเดินทาง

รถบัส: รถบัสนั้นขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางที่คุณต้องการจะเดินทางไป คุณสามารถใช้บริการรถบัสทั่วไปได้โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

 

3) การเดินทางในตัวเมืองปอร์โต้

ที่ตัวเมืองปอร์โต้มีเมโทร รถแทรม รถบัส และรถราง คุณสามารถซื้อตั๋วได้ทุกครั้งที่คุณต้องการ แต่ถ้าจะให้ดีควรจะซื้อบัตร Andante Card สำหรับใครที่ต้องการจะพักอยู่ปอร์โต้เป็นเวลานาน เมืองปอร์โต้เป็นเมืองที่มีขนาดเล็ก คุณสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ด้วยการเดินเท้า เพราะฉะนั้นคุณควรจะตรวจสอบเส้นทางการท่องเที่ยวให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อบัตรแบบ 24 ชั่วโมง

ANDANTE CARD: โดยทั่วไปแล้วประเทศโปรตุเกสจะถูกแบ่งออกเป็นโซนสำหรับการเดินทาง และแต่ละโซนจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ถ้าหากคุณกำลังวางแผนว่าจะใช้ขนส่งสาธารณะบ่อยครั้ง คุณสามารถซื้อบั้ตร Andante Card โดยมีค่าบัตร 0.60€ ใช้ได้ 24 ชั่วโมง เพื่อสามารถเดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งเป็นเวลา 24 ชั่วโมง บัตร Andante Card โซน 2 ราคา 4.15€,​ โซน 3 ราคา 5.20€ และโซน 4 ราคา 6.40€ นอกจากนั้นคุณยังสามารถซื้อบัตรแบบเที่ยวเดียวได้เช่นกัน ชื่อว่า Trip Ticket โดยโซน 2 ราคา 1.20€,​ โซน 3 ราคา 1.50€ และโซน 4 ราคา 1.85€ 

 

การเดินทางจากสนามบินปอร์โต้ไปยังใจกลางเมือง

เมโทร: คุณสามารถเดินทางจากสนามบินไปยังใจกลางเมืองปอร์โต้โดยเมโทร ซื้อบัตรเมโทรโซน 4 ราคา 2.30€ ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีเพื่อเดินทางไปยังสถานีรถไฟ Sao Bento ใจกลางเมือง นอกจากนั้นคุณยังสามารถเปลี่ยนจากสาย E ไปยังสาย D ได้เช่นกันที่สถานี Trindade

รถบัสสนามบิน: ถ้าหากคุณต้องการจะเดินทางไปยังสนามบินในช่วงเช้า คุณสามารถนั่งรถบัสสาย 3M โดยสามารถซื้อตั๋วด้วยเงินสดได้เลยในราคา 1.95€ รถเริ่มวิ่งตั้งแต่เวลา 01:00 จนถึง 05:00 รถวิ่งชั่วโมงละ 1 ครั้ง และใช้เวลา 30 นาทีในการเดินทาง

 

 

ตั๋ว บัตรเดินทาง และส่วนลดต่างๆในโปรตุเกส

ตั๋ว บัตรเดินทาง และส่วนลดต่างๆในโปรตุเกส

สำหรับใครที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ อย่าลืมถือบัตร International Student Identity Card (ISIC) ติดตัวมาด้วย เนื่องจากที่นี่มีส่วนลดมากมายสำหรับนักเรียนที่ถือบัตรนี้ ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์หรือสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะซื้อตั๋วต่างๆ ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ว่ามีส่วนลดสำหรับนักเรียนหรือไม่

ในเมืองลิสบอน จะมีบัตร Lisboa Card ที่คุณสามารถเดินทางเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้ฟรีหรือในราคาโปรโมชั่น อีกทั้งยังสามารถใช้ขนส่งสาธารณะได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตรวจสอบราคาค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆก่อนได้ในเว็บไซต์แล้วนำมาเปรียบเทียบดูกับแผนที่คุณวางไว้ว่าคุ้มมั้ยถ้าหากต้องการจะซื้อบัตร Lisboa Card ใบนี้

สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆมักจะมีคิวที่ยาว ถ้าหากคุณสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าได้แนะนำว่าให้ซื้อไว้ก่อนเลยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยว

 

  

สกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยนในโปรตุเกส

สกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยนในโปรตุเกส

ประเทศโปรตุเกสใช้สกุลเงินเดียวกันกับประเทศอื่นๆในยุโรป นั่นก็คือ EUR (€) หรือยูโร นับว่าค่อนข้างสะดวกสบายเลยทีเดียว เพราะไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงินให้ยุ่งยากเมื่อต้องเดินทางท่องเที่ยวต่อไปยังประเทศอื่นๆในยุโรป ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือบาร์ ส่วนใหญ่จะรับทั้งเงินสดและบัตร หากแต่ว่าแนะนำว่าควรมีเงินสดติดตัวนิดหน่อย เนื่องจากบางร้านจะมีจำนวนขั้นต่ำในการใช้จ่ายผ่านบัตร

 

 

ของที่ระลึกน่าซื้อจากโปรตุเกส

ของที่ระลึกน่าซื้อจากโปรตุเกส

1) GINJINHA: เป็นที่รู้จักกันในฐานะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รสเชอร์รี่ มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ค่อนข้างสูงแต่ยังรสหวานทำให้หลายๆคนชื่นชอบ เจ้าเครื่องดื่มยังมีการทำแก้วแบบพิเศษออกมาโดยเป็นแก้วช็อกโกแลตเพื่อใช้ใส่เครื่องดื่มนี้แล้วรับประทานเข้าไปพร้อมๆกัน เหมาะสำหรับเป็นของฝาก

2) CUTIPOL: เป็นแบรนด์ช้อนส้อมและอุปกรณ์การรับประทานอาหารจากโปรตุเกส และถึงแม้ว่าจะเป็นแบรนด์โปรตุเกส แต่คุณก็ยังสามารถหาซื้อตะเกียบจากแบรนด์นี้ได้เช่นกัน เพื่อให้ห้องครัวของคุณดูสวยงามและทำให้มื้ออาหารของคุณน่ารับประทานยิ่งขึ้น

3) ROOSTER SOUVENIRS: ไก่ตัวผู้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรมและความโชคดี ที่โปรตุเกสนั้นมีของที่ระลึกที่มีรูปร่างเป็นไก่ตัวผู้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นแมกเน็ต กระดิ่ง โมเดล แก้ว หรือแม้กระทั่งจานชามก็ต่างมีรูปของไก่ตัวผู้เต็มไปหมด เพื่อเป็นการนำความโชคดีติดตัวกลับบ้านอย่าลืมซื้อเจ้าไก่ตัวผู้กลับไปด้วยล่ะ

4) PORT WINE: ไวน์โปรตุเกสอันมีชื่อเสียงโด่งดังที่มีรสชาติหวาน เหมาะสำหรับเป็นของฝาก อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่สูง มีหลากหลายขนาดให้เลือกซื้อ

5) CANNED FOOD: ปลากระป๋องถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของประเทศโปรตุเกส ในตัวเมืองคุณจะเห็นร้านขายปลากระป๋องหน้าตาน่ารักหลากสีสันอยู่เต็มไปหมด ปลาซาดีนกระป๋องนั้นเป็นที่นิยมมากที่สุด นอกจากปลาซาดีนแล้วยังมีปลาอีกหลายชนิดให้คุณเลือกซื้อ

6) CLAUS PORTO: หรือที่เป็นที่รู้จักกันในฐานะสบู่ Portuguese Royal Soap ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าที่อื่นมากเมื่อซื้อที่ประเทศโปรตุเกส โดยแบรนด์นี้เป็นแบรนด์สบู่จากธรรมชาติ ถือกำเนิดขึ้นที่เมืองปอร์โต้ เซเลบริตี้รวมไปถึงราชวงศ์ของโปรตุเกสต่างก็ใช้สบู่ Claus Porto กันทั้งสิ้น สบู่นี้เป็นสบู่ที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยน แม้แต่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้

7) COUTO TOOTHPASTE: ยาสีฟันประจำชาติที่ชาวโปรตุเกสต่างหลงใหลในดีไซน์สีเหลืองสดและประโยชน์ของมัน ยาสีฟันนี้จะช่วยให้สุขภาพฟันและช่องปากของคุณดีขึ้น อีกทั้งยังไม่มีส่วนผสมของพาราเบนจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน

8) JAM: เมื่อคุณไปเที่ยวที่เมือง Meia หรือเมือง Duzia คุณสามารถซื้อแยมที่บรรจุอยู่ในรูปแบบหลอดได้ ด้วยรูปแบบของหลอดทำให้แยมนี้รับประทานได้อย่างง่ายดาย มีหลากหลายรสชาติให้เลือกไม่ว่าจะเป็นสตรอวเบอร์รี่ กล้วย กีวี่ และอีกมากมาย สามารถรับประทานได้กับทั้งชีส แฮม และขนมปัง

9) AZULEJO TABLEWARE: Azulejo เป็นรูปแพทเทิร์นกระเบื้องสีฟ้าที่คุณสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศโปรตุเกส โดยเฉพาะในเมืองปอร์โต้ โดยจะมีมีสินค้ามากมายหลากหลายชนิด เช่น ถ้วย จาน ชาม เขียง ที่รองแก้ว แผ่นรองหม้อ แก้วกาแฟ และอีกมากมาย ถือว่าเหมาะที่จะเป็นของฝากหรือของที่ระลึกสำหรับทริปนี้มากที่สุด

10) CORK PRODUCTS: ประเทศโปรตุเกสถือเป็นประเทศผู้ผลิตจุกไม้ก๊อกหรือคอร์ก (Cork) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่คุณจึงสามารถพบเห็นของที่ระลึกที่ทำมาจากคอร์กได้มากมายทั่วทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่รองแก้ว แผ่นรองหม้อ โปสการ์ด กระเป๋า แมกเน็ต สร้อยคอ สร้อยข้อมือ เครื่องประดับต่างๆ และอีกมากมาย ราคาขึ้นอยู่กับสินค้าแต่ละชิ้นแตกต่างกันออกไป 

 

  

การขอคืนภาษี (TAX REFUND) จากโปรตุเกส

การขอคืนภาษี (TAX REFUND) จากโปรตุเกส

ในประเทศโปรตุเกส จำนวนของ Tax Refund ที่จะได้รับคืนนั้นขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าต่างๆ และมูลค่าของสินค้าที่คุณซื้อ โดยถ้าหากคุณซื้อสินค้า 61.50€ ขึ้นไป คุณจะได้รับ Tax Refund คืน 23%, 61€ ขึ้นไปรับคืน 22%, 59€ ขึ้นไปรับคืน 13% และ 53€ ขึ้นไปรับคืน 6%

เมื่อคุณได้รับเอกสารประกอบการขอคืนภาษีจากร้านค้า กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนทั้งอีเมล รหัสไปรษณีย์ และเบอร์โทรศัพท์ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปกรอกที่สนามบิน

คุณสามารถใช้เครื่องในการขอรับ Tax Refund ที่สนามบินเลยในกรณีสินค้าที่คุณซื้อภายในประเทศโปรตุเกส แต่ถ้าหากเป็นสินค้าที่คุณซื้อมาจากประเทศในยุโรปก่อนหน้านี้ คุณจะต้องไปยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง คุณจำเป็นจะต้องแสดงพาสปอร์ต เอกสารประกอบการขอคืนภาษี สินค้าที่คุณซื้อ และบอร์ดดิ้งพาส หลังจากที่ได้รับแสตมป์จากเจ้าหน้าที่แล้ว คุณสามารถไปทำต่อได้กับเจ้าหน้าที่ที่ Tax Refund Agency Centre ตั้งอยู่ในบริเวณ Duty-Free

 

   

มารยาทเบื้องต้นและการให้ทิปในโปรตุเกส

มารยาทเบื้องต้นและการให้ทิปในโปรตุเกส

ที่ประเทศมอลต้าไม่มีธรรมเนียมการให้ทิปในร้านอาหาร เพราะฉะนั้นคุณไม่จำเป็นจะต้องให้ทิป ค่าบริการนั้นได้รวมไปแล้วในบิล อย่างไรก็ตาม คนท้องถิ่นยังมีการให้ทิปอยู่บ้างตามโอกาสและความเหมาะสม

 

 

เคล็ดลับในการท่องเที่ยวโปรตุเกส

เคล็ดลับในการท่องเที่ยวโปรตุเกส

ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในประเทศโปรตุเกส โดยส่วนมากแล้วจะอยู่ในระยะที่สามารถเดินได้โดยเฉพาะในเมืองลิสบอน หากแต่ว่าภูมิประเทศนั้นทำให้ในตัวเมืองมีเนินสูงเต็มไปหมด จึงควรที่จะเตรียมรองเท้าสวมใส่สบายไปสักคู่ อีกทั้งยังควรที่จะสำรองห้องพักที่มีโลเคชั่นตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองเพื่อที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางได้มากยิ่งขึ้น

ลองชิมพอร์ตไวน์ (Port Wine) ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่คอไวน์ก็ตาม ไวน์จากเมืองปอร์โต้เป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากและในตัวเมืองก็มีทัวร์พอร์ตไวน์ในราคาที่ไม่แพง คุณสามารถซื้อไวน์จากซุปเปอร์มาเก็ตกลับมาจิบที่ที่พักของคุณก็ได้

รับประทานทาร์ตไข่อย่างน้อย 1 ชิ้นต่อวัน ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็หลงรักในความอร่อยของทาร์ตไข่เมื่อได้ลองชิมที่ประเทศโปรตุเกส อย่าลืมโรงผงซินนามอนอย่างที่ชาวท้องถิ่นเขาทำกันด้วยล่ะ

ด้วยความที่จำนวนของนักท่องเที่ยวนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คุณไม่สามารถไปรับประทานร้านอาหารร้านดังได้โดยไม่ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า ถ้าหากคุณมีร้านอาหารร้านไหนที่คิดว่าจะต้องไปรับประทานให้ได้แน่ๆ แนะนำว่าควรสำรองที่นั่งล่วงหน้าไม่ว่าจะเป็นทางอีเมลหรือโทรศัพท์ก็ตาม เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว

ฟาดู (Fado) ชื่อเรียกการแสดงของประเทศโปรตุเกส มีร้านอาหารมากมายที่มีการจัดการแสดงฟาดูเพื่อเป็นสีสันให้แก่ผู้ที่เข้ามารับประทาน โดยเฉพาะในเขตอัลฟามา (Alfama) ในเมืองลิสบอนที่เต็มไปด้วยบาร์และร้านอาหารฟาดู

สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดเลยก็คือ โดยทั่วไปแล้วร้านอาหารในยุโรปจะเสิร์ฟขนมปังและมะกอกฟรี หากแต่ว่าถ้าเป็นร้านอาหารในประเทศโปรตุเกสแล้วนั้น สิ่งเหล่านี้จะไม่ฟรีอีกต่อไป คุณจะถูกคิดเงินทันทีเมื่อคุณลงมือรับประทานของเหล่านั้น ทางที่ดีถ้าหากไม่ต้องการรับประทานก็ไม่ต้องรับประทานเพื่อไม่ให้โดนเก็บค่าอาหารที่คุณไม่ต้องการ

นักท่องเที่ยวในประเทศโปรตุเกสมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย จำนวนของมิจฉาชีพเองก็เช่นกัน คุณจะต้องระวังคนเหล่านั้นให้ดีเวลาที่ต้องอยู่ในหมู่ผู้คนที่เบียดเสียดหรือตามขนส่งสาธารณะที่คุณอาจจะไม่ทันได้ระวังตัว