สถานที่ที่ถ้าไม่ได้มาจะเรียกว่ามาไม่ถึงกรุงปรากนั้นคือปราสาทปราก (Prague Castle) ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของกรุงปรากไปเสียแล้ว ที่นี่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมากว่า 1,000 ปีและถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ว่ากันว่าที่นี่เปรียบเสมือนตำราเรียนวิชาสถาปัตยกรรมและศิลปะในอดีต
สถานที่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในตัวปราสาทก็คือ St. Vitus Cathedral ในอดีตโบสถ์นี้ได้เคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานพิธีแต่งตั้งกษัตริย์และราชินีของสาธารณรัฐเช็ก ที่นี่ถูกสร้างขึ้นโดยเจ้าชาย Wenceslas เมื่อประมาณปี 925 แรกเริ่มเดิมทีโบสถ์นี้ถูกสร้างขึ้นมาในสไตล์โรมาเนสก์ (Romanesque Rotunda) และหลังจากนั้นก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นสไตล์กอธิค (Gothic) ตัวโบสถ์มีขนาดความถึง 124 เมตรและสูง 100 เมตร เรียกได้ว่าใหญ่มากๆ
หลังจากกว่า 1,000 ปีของการก่อสร้าง ตัวโบสถ์ก็เสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1929 ด้านในโบสถ์มีโบราณวัตถุมากมายที่ตกทอดมาจากเจ้าชาย Wenceslas ทำให้ที่นี่เป็นทั้งโบสถ์และพิพิธภัณฑ์ไปในเวลาเดียวกัน
ที่เห็นในภาพคือรูปปั้นของ Saint John of Nepomuk เป็นรูปปั้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด โดย Saint John of Nepomuk เป็นนักบุญในยุคสมัยของจักรพรรดิคาร์ลที่ 4 (King Wenceslas IV) นักบุญผู้นี้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยความลับของราชินีที่ได้มาสารภาพความผิดกับตน จึงเป็นเหตุให้จักรพรรดิสั่งประหารชีวิตโดยการโยนลงแม่น้ำวัลตาวา หลังจากนั้นร่างของเขาก็ได้ถูกจัดเก็บไว้ที่โบสถ์แห่งนี้ สุสานถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยเงินแท้ เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆจะสังเกตุเห็นสีชมพูที่ตกแต่งอยู่ที่ตัวรูปปั้นด้วย ว่ากันว่าสีชมพูนั้นคือลิ้นของเขาที่ถูกตัดออก หรือเศษเนื้อเยื่อสมอง
เมื่อเดินเข้ามาด้านในแล้วมองหันกลับไป จะเห็นหน้าต่างกระจกสีรูปทรงดอกกุหลาบที่ประกอบไปด้วยกระจกสีกว่า 27,000 ชิ้น สร้างขึ้นโดยอัลโฟนส์ มูชา (Alphonse Mucha) และศิลปินท่านอื่นๆ ในวันที่แดดออก เมื่อแสงแดดส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างบานนี้ จะก่อให้เกิดสีสันสวยงามสะท้อนไปยังตัวโบสถ์ เป็นภาพที่สวยงามมากจริงๆ
เหล่าทหารคุ้มกันปราสาท คนรับใช้ และช่างทอง จะอาศัยอยู่ที่ Golden Lane แห่งนี้จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น โดยชื่อ Golden Lane นั้นได้มาจากเหล่าช่างทองจำนวนมากที่อาศัยอยู่ที่นี่ แรกเริ่มเดิมทีที่นี่ใช้ชื่อว่า Goldsmith Lane ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นชื่อปัจจุบันเมื่อศตวรรษที่ 16
บ้านหลังเล็กๆเหล่านี้เปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมได้ โดยบางหลังเปิดเป็นร้านขายของที่ระลึกบ้าง และบางหลังก็เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ อย่างเล่นบ้านเลขที่ 14 เป็นต้น ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของหมอดูนามว่า Madame de Thebes ผู้ที่พยากรณ์เอาไว้ว่าอาณาจักรที่สามของเยอรมัน (Third Reich) จะถูกโค่นล้ม หลังจากคำพยากรณ์ของเธอได้ถูกเผยแพร่ออกไป เธอก็ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบของเยอรมันตัวไปและเสียชีวิตลงระหว่างการสืบสวนสอบสวน ส่วนบ้านเลขที่ 15 เป็นบ้านของช่างทอง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Golden Lane นั่นเอง
บ้านหลังที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดใน Golden Lane คือบ้านเลขที่ 22 ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของนักเขียนชาวเช็กชื่อดังอย่าง Franz Kafka โดยชื่อของเขาถูกสลักอยู่ที่กำแพงหน้าบ้าน ปัจจุบันนี้บ้านเลขที่ 22 ได้กลายเป็นร้านขายหนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือของ Franz Kafka สามารถมาหาซื้อหนังสือของเขาได้ที่นี่
อาคารประวัติศาสตร์ของปราสาทปรากแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สวยงามและควรค่าแก่การไปอย่างยิ่ง นอกจากนั้น ถนนรอบๆตัวปราสาทก็ยังสวยงามไม่แพ้กัน วิวพาโนราม่าของกรุงปรากที่อยู่ตรงหน้านั้นทำให้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในเทพนิยาย ที่หน้าประตูทางเข้าหลักของปราสาทปรากมีร้านสตาร์บัคส์ตั้งอยู่ อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสับว่าสตาร์บัคส์มันพิเศษยังไง สตาร์บัคส์สาขาปราสาทปรากนั้นพิเศษตรงที่เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของปราสาทปรากนั่นเอง ในวันที่อากาศดี คุณสามารถไปนั่งชมวิวพลางจิบกาแฟที่ที่นั่งกลางแจ้งด้านบนได้ หรือจะนั่งหลบในร้านที่ชั้นล่างในวันที่อากาศหนาวเย็น
ที่อยู่: Pražský Hrad, Kajetánka, Hradčanské nám, 118 00 Malá Strana
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 09:00-19:00 / วันเสาร์และอาทิตย์ 09:00-20:00
ที่ตรงข้ามกับโบสถ์ St. Vitus จะเป็นที่พักของประธานาธบดีของสาธารณรัฐเช็ก สงัเกตุดูว่าถ้าหากมีธงชาติสาธารณรัฐเช็กติดอยู่ที่ตัวตึก นั่นหมายความว่าประธานาธบดีนั้นอยู่ด้านใน
นอกจากโบสถ์ St. Vitus และ Golden Lane แล้วยังมีโบสถ์ St. Georges (St. George's Basilica) และปราสาทเก่าแก่ (Old Palace) ที่สร้างขึ้นมาในสไตล์โรมาเนสก์อีกด้วย ถ้าหากต้องการที่เริ่มต้นการทัวร์ปราสาทจากประตูหลักที่ด้านหน้าของประสาทแล้วไปบรรจบที่ประตูด้านหลัง คุณก็จะได้เห็น โบสถ์ St. Vitus - ปราสาทเก่าแก่ - โบสถ์ St. George - Golden Lane ตามลำดับ หรือถ้าหากว่าเริ่มต้นการเดินทางที่จากประตูด้านหลัง ก็จะพบกับสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ในลำดับที่กลับกัน
หนึ่งในอีเว้นท์สำคัญที่ปราสาทปรากนั่นก็คือพิธีการผลัดเปลี่ยนเวรยามหน้าพระราชวัง ที่จะเกิดขึ้นทุกๆชั่วโมง พิธีการที่ใหญ่ที่สุดจะเกิดขึ้นตอนกลางวัน คุณสามารถรอดูพิธีการเปลี่ยนเวรยามได้ที่ประตูด้านหน้าของปราสาทปรากใน Hradčany Plaza นักท่องเที่ยวมากมายมักจะมายืนรอรับชมพิธีการล่วงหน้าเพื่อให้ได้ที่ที่ดีที่สุด แนะนำว่าให้ไปถึงอย่างน้อย 20 ก่อนพิธีการเริ่ม
ปราสาทปรากมีพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่และมีอะไรให้สำรวจมากมาย เพราะฉะนั้น เผื่อเวลามากหน่อยสำหรับที่นี่โดยเฉพาะอาคารประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์เก่าแก่มากมาย ถ้าหากต้องการจะเดินเที่ยวและรับชมสถานที่แต่ละที่อย่างละเอียด เผื่อเวลามาประมาณครึ่งวันสำหรับปราสาทปรากแห่งนี้ หรือถ้ามีเวลาไม่มาก 2 ชั่วโมงเป็นช่วงเวลาที่กำลังดีสำหรับการเดินชมรอบๆตัวปราสาท
เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan
ภาพ: Yuna Lee
ที่อยู่: 119 08 Prague 1
การเดินทาง: รถ Tram สาย 22 สถานี Prazsky Hrad
เวลาทำการ: เดือนเมษายนถึงตุลาคม ปราสาทปราก 06:00-22:00 และอาคารประวัติศาสตร์ 09:00-17:00 / เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม ปราสาทปราก 06:00-22:00 และอาคารประวัติศาสตร์ 09:00-16:00
ราคา: แพ็กเกจ A - ผู้ใหญ่ 350CZK / เด็กอายุระหว่าง 6-16 ปีและนักเรียนอายุต่ำกว่า 26 ปี 175CZK / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีเข้าฟรี
แพ็กเกจ B - ผู้ใหญ่ 250CZK / เด็กอายุระหว่าง 6-16 ปีและนักเรียนอายุต่ำกว่า 26 ปี 125CZK / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีเข้าฟรี