เทือกเขาพีเรเน่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวฝรั่งเศสทั้งในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน หากเป็นช่วงฤดูหนาว กิจกรรมยอดฮิตก็คือ สกี ส่วนถ้าเป็นหน้าร้อน การเดินทางไกลบนเทือกเขาแห่งนี้ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่นิยมในหมู่ชาวฝรั่งเศส แต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าเทือกเขาแอลป์สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้เทือกพีเร่เน่เป็นที่รู้จักมากขึ้น เราจึงขอเขียนบทความนี้ขึ้นเพื่อเป็นคู่มือสำหรับการท่องเที่ยวในบริเวณ คอมมาช (Comminges) เทือกเขาพีเรเน่ และพาไป แซง แบคทรอง (Saint-Bertrand) สถานที่ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก ขอบอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร จดจำได้ไม่ลืม
แซงต์ แบคทรอง เดอ คอมมาช (Saint-Bertrand-de-Comminges) เป็นเขตชุมชนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ และได้รับการกล่าวขานว่าเป็นมงต์แซงต์มิเชลแห่งพีเรเน่ แม้จะเป็นเพียงเมืองเล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ว่ากันว่าในช่วงยุคของอาณาจักรโรมันจุดที่ตั้งของเมืองนี้เป็นเมืองที่มีชื่อว่า Lugdunum Convenarum และเป็นศูนย์กลางของอาณาเขตต่างๆ (ปัจจุบันคือฝรั่งเศสและสเปน) ดังนั้นจึงทำให้มีร่องรอยของประวัติศาสตร์อยู่มากมาย ทุกๆปีมักจะมีการขุดค้นพบร่องรอยทางโบราณคดีในบริเวณรอบๆนี้
เมืองโบราณนี้ถูกทำลายไปในช่วงเสื่อมถอยของอาณาจักรโรมัน แต่ต่อมาได้กลายมาเป็นเมืองที่มีเป็นศูนย์กลางทางศาสนา มีอาคารมากมายที่ก่อสร้างไว้ตั้งแต่ยุคกลาง และอาคารเหล่านั้นเองทำให้แซงต์แบคทรองได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองยุคกลางที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โบสถ์ของเมืองได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกตามประกาศขององค์กรยูเนสโกว่าด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางแสวงบุญของเหล่าชาวคริสต์เพื่อไปยังอาสนวิหาร Santiago de Compostela เมื่อปี 1998
นอกจากเรื่องราวประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมของเมืองแล้ว แซงต์เบคทรองยังมีสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม อย่างเช่น ส่วนตีนเขาพีเรเน่นั่นเอง ใจกลางของเมืองก็ค่อนข้างมีชีวิตและสีสันที่มาจากร้านอาหารฝรั่งเศส และร้านขายของฝาก รวมไปถึงร้านหนังสือและช่างงานฝีมือต่างๆ เช่น ช่างหนังสัตว์ ช่างตีเหล็ก เป็นต้น
แน่นอนว่าสถานที่ต้องไปเมื่อมาถึงที่เมืองนี้ ก็คือ โบสถ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับองค์กรยูเนสโก โบสถ์นี้ถูกล้อมรอบโดยบ้านโบราณ และป้อมปราการที่สูงชัน ตัวโบสถ์สูงกว่าบริเวณรอบๆถึง 1700 ฟุต
ตัวโบสถ์แบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนที่เป็นอาคารตามแบบสถาปัตยกรรมโรมานเนสก์ที่มาจากช่วงศตวรรษที่ 12 ส่วนที่เป็นสถาปัตยกรรมโกธิคที่มาจากช่วงศตวรรษที่ 14 และส่วนสถาปัตยกรรมเรเนซ้องส์ที่มาจากศตวรรษที่ 16 ตัวโบสถ์เปิดให้ชมฟรีแค่บางส่วนเท่านั้น หากต้องการเข้าชมทุกส่วนของตัวโบสถ์ และพิพิธภัณฑ์รวมถึงตัวสวนด้วย มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 7 ยูโร
ในส่วนของตัวโบสถ์หรือวิหารนั้น มีความน่าสนใจอยู่หลายจุด แต่บริเวณที่น่าทึ่งที่สุดก็คงเป็นทางเดินที่มีหลังคาล้อมรอบลานจัตุรัสดังในภาพที่เห็นด้านบน ทางเดินเป็นซุ้มโค้งแบบโรมันเนสก์ที่รองรับด้วยเสาคู่หลายๆจุด ถ้ามองที่ภาพด้านบน จะเห็นว่ามีเสาที่เป็นรูปปั้นของนักบวชผู้เผยแผ่ศาสนาด้วย หากได้เดินไปที่ส่วนห้องทางทิศใต้ก็จะเจอกับจุดที่สามารถมองออกไปเห็นบรรยากาศของเมืองรอบโบสถ์
ส่วนตัวที่เป็นสถาปัตยกรรมโกธิค (Meridional Gothic) มีหลายจุดที่น่าสนใจ ส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ส่วนของแท่นบูชาที่มีความยาว 55 เมตร กว้าง 16 เมตร และสูง 28 เมตร ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ 1550 นอกจากนี้ยังมีที่นั่งไม้แกะสลักสวยงานถึง 67 ที่ด้วยกัน หลุมศพของเซนต์แบคทรองซึ่งตกแต่งด้วยภาพวาดยุคกลางก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมากที่เดียว เซนต์แบคทรองเป็นบิชอปหรือหัวหน้าบาทหลวงประจำถิ่นที่มีบทบาทสำคัญทางศาสนา และต่อมาได้รับการยกขั้นให้เป็นนักบุญ
ด้านนอกของโบส์ มีสถานที่ซึ่งเรียกว่า Olivetains เป็นจุดให้ข้อมูล และพิพิธภัณฑ์ ซึ่งมีนิทรรศการหลากหลายจัดแสดง รวมไปถึงศิลปะวัตถุจากภูมิภาคนี้ด้วย
ตัวหมู่บ้านนั้นมีขนาดไม่ใหญ่ แต่เต็มไปด้วยอาคารที่คงเอกลักษณ์ยุคกลางไว้ได้เป็นอย่างดี หมู่บ้านนี้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดประเทศฝรั่งเศส ประตูเมืองยุคกลางทัั้งสามประตู และซากกำแพงป้อมปราการปรากฎให้เห็นอยู่ในตัวหมู่บ้านแห่งนี้ (ประตูเมืองที่สวยงามที่สุด ต้องยกให้ Porte Majou) นอกเหนือจากนี้ยังมีบ้านเรือนที่แสดงให้เห็นโครงสร้างไม้ที่มีมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 15 บ้านหลังที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด คือ Maison Bridaut (เมซง บริโด้) ดังที่เห็นในภาพด้านบนนี้ ส่วนที่อยู่บนพื้นที่ซึ่งต่ำลงมา (เรียกว่า ville basse) เป็นจุดที่ปรากฎให้เห็นร่องรอยของซากปรักหักพังของเมืองเก่า Lugdunum Convenarum ซึ่งสามารถเข้าชมได้ฟรี
หากขับรถออกมา 5 นาที หรือเดินประมาณ 30 นาทีจากแซงต์แบคทรอง คุณจะได้พบกับหมู่บ้านเล็กที่ชื่อว่า Valcabrère ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารสไตล์ศตวรรษที่ 12 ตัวโบสถ์นั้นถูกล้อมรอบด้วยบรรยากาศชุมชนที่ดูเหมือนภาพวาด ตัวโบสถ์นั้นมีชื่อว่า Saint-Just-de-Valcabrere ซึ่งนับเป็นอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมโรมานเนสก์
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับโบสถ์นี้ก็คงเป็นเรื่องที่ว่า หินที่นำมาใช้ในการก่อสร้างวิหารนั้นเป็นหินที่ได้มาจากซากเมืองโรมันใกล้ๆนี่เอง ผู้ที่มาเยี่ยมชมจะได้พบการแกะสลักที่สวยงามบนกำแพงวิหาร ค่าเข้าชมวิหารอยู่ที่ 3 ยูโร ซึ่งเป็นราคาที่รวมแอพพลิเคชั่นสำหรับนำทัวร์วิหารภาษาอังกฤษด้วย สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ที่ด้านนอกของวิหาร นักโบราณคดีกำลังทำการค้นคว้าบนซากเมืองโรมันละสุสานในขณะที่เรากำลังเยี่ยมชมตัววิหาร
แต่ละฤดูก็จะมีผลให้บรรยากาศของสถานที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบช่วงที่มีหิมะปกคลุมทิวเขา บางอาจจะชอบช่วงที่ดอกไม้บาน หรือช่วงฤดูใบไม้ร่วง แต่ช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด คงต้องยกให้ฤดูร้อน โดยในเมืองนั้นเต็มไปด้วยผู้คนและมีความครึกครื้นเป็นพิเศษ ในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมของทุกๆปีจะเป็นช่วงที่มีเทศกาลดนตรีนานาชาติแห่งคอมเมชจัดขึ้นที่นี่ (Comminges International music festival) เทศกาลดนตรีนี้เป็นการรวมตัวของนักดนตรีชื่อดังจากทั่วโลก การแสดงดนตรีโดยส่วนใหญ่จะจัดขึ้นในบริเวณของวิหาร
ข้อเสียของการเดินทางมายังแซงต์เบทรองก็คือ ไม่มีรถขนส่งสาธารณะ ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องใช้บริการแท๊กซี่ หรือเช่ารถขับ เราขอแนะนำให้เช่ารถขับ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อที่จะเป็นการสะดวกสำหรับการท่องเที่ยวในริเวณเทือกเขาพีเรเน่ แซงต์ แบคทรอง เดอ คอมมาช อยู่ห่างจากเมืองตูลูสประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด คือ Montrejeau - Gourdan Polignan จุดจอดรถในเมือง แซงต์ แบคทรอง เดอ คอมมาช มีอยู่ทั้งฝั่งเมืองด้านบน และด้านล่าง แต่ส่วนที่จอดรถด้านบนของเมืองนั้จะปิดใช่วงฤดูร้อน ดังนั้นหากไปเที่ยวในช่วงฤดูร้อนก็จะต้องจอดรถที่ด้านที่ราบด้านล่างของเมืองและขึ้นรถไฟเล็กขึ้นไปที่ด้านบนโดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2 ยูโร
สถานที่ตั้งใจกลางเทือกเขาพีเรเน่ทำให้เมืองแซงต์ แบคทรอง เดอ คอมมาช เป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเที่ยวชมความงามของ Comminges และ Pyrénées เรารวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้แซงต์เบคทรองมาให้ดูกันที่ด้านล่างนี้
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติปราศจากการปรุงแต่ง ไม่ควรพลาดหุบเขา Barousse ที่มีแม่น้ำ Ourse ไหลผ่าน ส่วนบนของหุบเขาเป็นพื้นที่ปกคลุมด้วยผืนป่า ส่วนตรงกลางหุบเขาเป็นทุ่งหญ้า ด้านล่างของหุบเขาเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรที่มีไม่มากนัก และแน่นอนว่าธรรมชาติของหุบเขาทำให้สถานที่นี้เป็นที่ซึ่งเหล่าผู้คนที่หลงใหลในธรรมชาติต่างพากันมาเยี่ยมชมหุบเขาเเห่งนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องยกความดีความชอบให้ความเป็นธรรมชาติที่ไม่ปรุงเเต่งของบริเวณเทือกเขาพีเรเน่แห่งนี้ รวมไปถึงผืนดินที่มีความสวยงาม ประกอบกับมรดกทางประวัติศาสตร์ และโบราณสถานต่างๆ
นอกเหนือจากหมู่บ้านหิแล้ว ยังมีสถานที่อีกมากมายที่ไม่ควรจะถูกลืม คือ Mauléon-Barousse, Ferrère, Esbareich, Ourde, รวมไปถึง ซากปราสาท Bramevaque (ภาพประกอบด้านบน)
เหว "Gouffre de la Saoule" (Saoule chasm) หรือ น้ำตกที่เป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเป็นอีกที่ที่น่าไปสัมผัสสักครั้ง นอกจากจะไปดูความสวยงามแล้ว ยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ค้นพบอาหารพื้นเมืองของภูมิภาคนี้ อาหารที่มีชื่อเสียง คือ เนื้อ นั่นเอง
อาหารอีกหนึ่งอย่างที่โด่งดังจากภูมิภาค ก็คือ ชีส Fromage de Barousse ที่ใช้กรรมวิธีแบดั้งเดิมในการบ่มจนได้ชีส ชีสชนิดนี้ทำมาจากนมวัวหรือนมแกะ เป็นชีสที่ดีที่สุดจากภาคกลางของพีเรเน่
ผู้ผลิตชีสส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Sost ซึ่งมีฟาร์มแกะหลายที่เปิดให้เข้าชม
ถ้าต้องเลือกกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งในการท่องเที่ยวภายในบริเวณนี้ เราคงแนะนำให้เดินเล่นในหมู่บ้าน พูดคุยกับชาวเมืองเพื่อที่จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบพีเรเน่แท้ๆ ทำความรู้จักกับวัฒนธรรมฝรั่งเศสแบดั้งเดิม
สำหรับผู้ที่รักสัตว์ นี่เป็นโอกาสที่ดีทีเดียวมี่คุณจะได้สนุกไปกับการพบเจอกับสัตว์ที่หลากหลายในหมู่บ้านแห่งนี้
ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ลูชงมีชื่อเสียงด้านสปา กล่าวคือ ได้รับความนิยมจากเรื่องของน้ำพุร้อนในยุคของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ต่อมาได้มีการพัฒนาเมืองให้ดึงดูดนักเที่ยวด้วยกิจกรรมทางกีฬาและสันทนาการ (Pyreneism) โดยขุนนางที่ชื่อว่า Russell-Killough และนั่นเป็นหนึ่งในที่มาที่ทำให้เมืองมีคฤหาสน์ที่สวยงามมากมายอยู่ในมือง
ลูชงอยู่ห่างจาก Saint-Bertrand-de-Comminges ประมาณสักครึ่งชั่วโมง ถ้าเดินทางด้วยรถยนต์ หมูบ้านลูชงนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาที่สูงกว่า Saint-Bertrand-de-Comminges เมืองลูชงถูกล้อมรอบด้วยภูเขาสูงทำให้วิวทิวทัศน์สวยอย่างสุดๆ และเป็นจุดที่เพอร์เฟ็คสำหรับการเล่นกีฬาฤดูหนาว (สถานีสกี Station Superbagnères คือจุดที่เป็นที่นิยม)
ในเมืองลูชง รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางของพีเรเน่ มีขนมที่เป็นของประจำถิ่น คือ Gâteau à la Broche ตัวขนมทำจากแป้งที่นำเอาไปพันกับแท่งทรงกระบอก และนำไปผ่านกรรมวิธีคล้ายๆการอบกึ่งย่างเพื่อให้สุก
คอมมาช เป็นเขตที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมาย และตั้งอยู่ที่ตีนเขาพีเรเน่ เขตเมืองนี้เคยเป็เมืองที่มีอิทธิพลอย่างมากในช่วงยุคกลาง จึงทำให้เป็สถานที่ที่เหมาะกับการมาท่องเที่ยวเพื่อทำความรู้จักกับเรื่องราวประวัติศาสตร์
เขตของ Comminges มีเมืองอีกหลายเมืองที่น่าสนใจ เช่น Montrejeau, Saint-Gaudens, Aspet, Aurignac และ l'Isle en Dodon (ภาพประกอบด้านบน)
เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณอยากไปสัมผัสกับ Saint-Bertrand-de-Comminges และช่วยให้วางแผนได้ง่ายขึ้น
เรื่องและภาพ : Vincent Sacau