เล็กๆ แต่ชิคเก๋สไตล์แอนทีคแบบฉบับรถฝรั่งเศส
ในเช้าวันจันทร์อันสดใส (แต่หนาวเหน็บ) พวกเราตื่นเต้นมาก เราจะไปซิตี้ทัวร์กัน คงสงสัยกันล่ะสิว่าแค่ซิตี้ทัวร์แล้วมันน่าตื่นเต้นยังไง มันน่าตื่นเต้นตรงที่เราจะไปซิตี้ทัวร์โดยรถ Citroën Deux Chevaux หรือ 2CV กัน!
เจ้ารถ Citroën Deux Chevaux ตัวนี้ เป็นเหมือนรถประจำชาติฝรั่งเศสไปแล้ว ด้วยความที่เจ้า 2CV ถูกเปิดตัวขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศสในปี 1984 (พ.ศ. 2527) โดย Paris Mondial de l'Automobile และมีชื่อเสียงโด่งดังด้วยที่ดีไซน์น่ารักและคลาสสิค แต่กลับมีการผลิตจนถึงปี 1990 (พ.ศ. 2533) เท่านั้น ทำให้ในทุกวันนี้รถรุ่นนี้เป็นรุ่นที่หายากมากๆในท้องตลาดอีกรุ่นหนึ่ง
เรียนรู้วัฒนธรรมฝรั่งเศสโดยตรงจากไกด์ท้องถิ่นA direct contact with French Parisian local culture
ซิตี้ทัวร์ของเราเริ่มต้นที่หน้า Palais Garnier หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ Opéra Garnier โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นโดยโชเฟอร์ของเราวันนี้ คุณลุง Robert Jullien คุณลุงแต่งตัวมาในแบบของคนฝรั่งเศสท้องถิ่นอย่างที่เห็นในรูป เสื้อลายทางสีขาวตัดกับสีน้ำเงินนั่นเอง
คุณลุง Robert ได้เกษียณจากการเป็นอาจารย์สอนภาษาเยอรมันและผันตัวเองมาเป็นโชเฟอร์ด้วยใจรัก คุณลุงมีความสุขกับการขับรถพานักท่องเที่ยวชมเมือง คุณลุงไม่ได้เพียงแค่ขับรถพาชมเมืองเท่านั้น แต่คุณลุงยังเต็มไปด้วยความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆของมหานครปารีส ประวัติศาสตร์ หรือแม้กระทั่งมุกตลกจากอารมณ์ขันของคุณลุงเอง เรื่องราวต่างๆที่ออกมาจากปากคุณลุงที่เล่าให้เราฟังนั้นต่างเป็นเรื่องราวที่เราไม่คุ้นหูหรือเคยได้ยินมาก่อนเลย
มหานครปารีสที่แท้จริง
เริ่มต้นการเดินทางกันเลย
เราเริ่มต้นจาก Opéra Garnier แล้วมาต่อที่ถนนเส้นที่ขึ้นชื่อว่าแพงที่สุดในปารีสนั่นก็คือ Rue de la Paix ที่เต็มไปด้วยร้านบูทีคและร้านขายเครื่องประดับเพชรพลอยต่างๆ ต่อด้วยถนนเส้นที่ก็หรูหราไม่แพ้กันนั่นก็คือ Rue Saint-Honoré ที่ปลายถนนจะมองเห็น Palais Royal และพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) ตั้งอยู่
เราว่านี่เป็นไอเดียที่ดีมากที่เลือกซิตี้ทัวร์ด้วยรถ 2CV นี้ บวกกับไกด์ท้องถิ่นอย่างคุณลุงที่ทำให้เราได้เห็นปารีสในมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อได้นั่งรถผ่านสถานที่ที่เราสนใจก็จะจดชื่อสถานที่นั้นๆเอาไว้แล้วค่อยกลับมาสำรวจอย่างละเอียดทีหลัง นอกจากนั้นคุณลุงยังแนะนำทั้งร้านอาหาร ถนนช้อปปิ้ง รวมไปถึงบาร์ที่ผู้คนนิยมไปปาร์ตี้กันอีกด้วย รวมเวลาซิตี้ทัวร์ทั้งหมด 1 ชั่วโมงครึ่งนั้นเรารู้สึกว่ามันสั้นไปด้วยซ้ำถ้านับเรื่องราวต่างๆ อารมณ์ขันของคุณลุง และบรรยากาศที่สวยงามของมหานครปารีสแห่งนี้
ถึงครั้งนี้จะเป็นการซิตี้ทัวร์ในรถคันเล็กๆ แต่เราไม่ได้ถูกจำกัดให้อยู่แค่ในรถเท่านั้น เป็นเพราะหลังคารถที่สามารถเปิดได้เป็นรถเปิดประทุนที่แท้จริง มองเห็นวิวที่กว้างขึ้นพร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใย นอกจากถนนเส้นใหญ่ๆ คุณลุงก็พาเราเข้ามาในถนนเส้นเล็กๆที่นักท่องเที่ยวอาจมองข้ามไป เราไปที่ย่าน Marais, Île Saint-Louis, Île de la Cité และที่ถนน Rue du Faubourg Saint-Antoine ซึ่งเป็นถนนที่ขายเฟอร์นิเจอร์เต็มไปทั่วทั้งเส้น ในย่านและถนนที่กล่าวมานี้เป็นย่านเก่าแก่ของมหานครปารีสที่ถ้าหากมาเที่ยวกับรถบัสคันใหญ่ อาจจะไม่มีโอกาสได้เข้ามาที่นี่เลยก็ได้
รถ 2CV จะทำให้คุณกลายเป็นชาวปารีเซียงไปโดยปริยาย
การที่เรามาซิตี้ทัวร์ด้วยรถเต่าคันเก่าคลาสสิคนี้ทำให้เรากลายเป็นรถคันที่โดดเด่นออกมาจากท้องถนนโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย เป็นเพราะรถ 2CV นั้นค่อนข้างจะเป็นที่ดึงดูดความสนใจจากคนทั่วไปบนท้องถนนเป็นพิเศษ ระหว่างที่นั่งรถอยู่นั้นก็จะมีคนถ่ายรูปรถ หรือแม้กระทั่งคนท้องถิ่นเองที่โบกมือให้เราด้วยความสดใสเหมือนจะพูดว่า "ยินดีต้อนรับสู่ปารีส" ยังไรอย่างนั้นเลย เมื่อหยุดรถก็จะมีนักท่องเที่ยวที่มาขอถ่ายรูปคู่กับรถก็มี จู่ๆเราก็รู้สึกเหมือนเป็นซุปเปอร์สตาร์ในทันทีทันใดที่ได้เดินทางด้วยรถคันนี้ ผู้คนต่างให้ความสนใจในรถคันนี้กันจนทำเอาเรางงไปเลย
รถคันนี้ยังทำให้มหานครปารีสแห่งนี้แคบลงสำหรับเรา เพราะรถคันกระทัดรัดนี้นั้นเข้าออกตามตรอกซอกซอยได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว ทำให้การเดินทางสั้นลงและกระชับขึ้น และทำให้เราได้เห็นมหานครปารีสนมุมมองที่แตกต่างกันออกไป
ขาดไม่ได้ หอไอเฟล (Tour Eiffel) คนสวยคนนี้ที่มาทีไรก็มองไม่เบื่อ สวยวันสวยคืน
จุดหมายปลายทางหรือจุดสิ้นสุดของซิตี้ทัวร์นี้คือที่ถนน Avenue des Champs-Élysées ที่สุดฝั่งหนึ่งจะมองเห็นประตูชัย (Arc de Triomphe) ตั้งตระหง่านอยู่ และสุดถนนอีกฝั่งหนึ่งก็จะเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ Place de la Concorde ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อเทศกาลคริสต์มาสเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเองก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้สำหรับเทศกาลที่กำลังจะมาถึง
ถ้าเสื้อผ้าไม่พอกันหนาว คุณลุงมีพร้อม
ในความคิดของเรา เราคิดว่ารถ 2CV คันนี้ออกจะแคบไปนิดนึง และด้วยอากาศที่หนาวเย็น (มากกกกกก) ในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาสและด้วยความที่เราเอาเสื้อผ้ามากันหนาวไม่พอ ทำให้เราสั่นเป็นเจ้าเข้าเลย ยิ่งเปิดประทุนรถปะทะลมหนาวเข้าอย่างจัง แต่ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะว่าคุณลุง.. คุณลุงเตรียมผ้าห่มมาให้พร้อม! ยอมใจ นอกจากจะเป็นคุณลุง เป็นโชเฟอร์ที่น่ารัก เป็นไกด์ท้องถิ่นที่เก่ง และยังเป็นทุกอย่างให้เราด้วย
ลองไปซิตี้ทัวร์กับ 4 Roues Sous 1 Parapluie ได้เลย แล้วมาแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบชาวปารีเซียงกันว่าประทับใจตรงไหน เราแนะนำว่าควรเช็คอากาศก่อนที่จะสำรองที่นั่ง เพราะถ้าในหน้าหนาวแบบนี้ ถ้าอากาศติดลบ นั่งรถเปิดประทุนคงไม่ดีแน่ๆ
ซิตี้ทัวร์โดย 4 Roues Sous 1 Parapluie
รายละเอียดโดยคร่าวๆสำหรับซิตี้ทัวร์ 1 ชั่วโมงครึ่งและไกด์ท้องถิ่น ราคาตกอยู่ที่คนละประมาณ 60€ แต่ถ้าหากดาวน์โหลดคูปองส่วนลดจาก O'bon Paris รับไปเลยส่วนลด 20% เยอะนะ ไม่ใช่น้อยเลย ดูรายละเอียดได้ที่ลิ้งค์ทางด้านมุมซ้ายบนได้เลย ขั้นตอนง่ายๆ ไม่ยาก
จุดเริ่มต้นของซิตี้ทัวร์นั้นไม่ได้จำกัดแค่ที่ Opéra Garnier เท่านั้นนะ เราสามารถเลือกเองได้เลยว่าอยากให้รถมารับที่ไหนในใจกลางมหานครปารีสแห่งนี้ แต่เราแนะนำว่าเริ่มต้นที่ Opéra Garnier นี่ดีที่สุดแล้ว
นอกจากนั้นยังมีหลายๆตัวเลือกให้เลือกในเว็บไซต์ ถ้าหากครั้งนี้เป็นการมามหานครปารีสครั้งแรก ลองดูเจ้าซิตี้ทัวร์นี้ก็ไม่เสียหาย ตัวเลือกมีให้เลือกมากมายเช่น Paris Highlights, Paris Monopoly, Paris by Night, Romantic Paris หรือถ้ามีเวลามากหน่อย เจ้าซิตี้ทัวร์นี้สามารถพาไปที่พระราชวังแวร์ซาย (Château de Versailles) ได้เลย หรือจะเป็นแพ็กเกจท่องเที่ยวจากกรุงปารีสไปที่เมืองคานส์ (Cannes) ก็ยังมี
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อเว็บไซต์ที่ http://www.4roues-sous-1parapluie.com/EN/index.html
4 Roues Sous 1 Parapluie:
เว็บไซต์: www.4roues-sous-1parapluie.com (คลิก "Private Tours and Transfers" และเลือก 1 ทัวร์ใน Paris Highlights)
ราคา: เริ่มต้นที่คนละ 30€ ใช้เวลา 45 นาที
แผนการเดินทาง: เปลี่ยนแปลงได้ (เริ่มต้นจากแลนด์มาร์คสำคัญ ไปจนถึงสถานที่เก่าแก่ในมหานครปารีส)
จุดเริ่มต้น: Place de la Concorde สำหรับซิตี้ทัวร์ 30-45 นาที สำหรับซิตี้ทัวร์ที่นานกว่านี้สามารถเลือกจุดเริ่มต้นได้เองที่ไหนก็ได้ในมหานครปารีส (โรงแรมหรืออพาร์ทเม้นต์) ตั้งแต่เขต 1 ถึงเขต 20 หรือด้านหน้าของ Opéra Garnier
แปล: Aphinya Kasemsukphaisan