รู้หรือไม่ว่าเมืองเล็กๆในประเทศเบลเยี่ยมอย่างเมืองลูเวิน (Leuven) เมืองแห่งมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีโรงเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่? เมื่อเดือนพฤศจิกายนของปี 2016 ที่ผ่านมา องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เบียร์เบลเยี่ยมเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศเบลเยี่ยม จากการที่เบียร์นั้นได้เข้ามาเป็นบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนเบลเยี่ยม แต่กระนั้นเองการที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้นไม่ได้มาจากจำนวนการผลิตหรือจำนวนการบริโภคที่สูงลิ่ว แต่เป็นการค้นพบความหลากหลายของเบียร์ต่างหากที่มีทั้งเบียร์ Lambic ที่มีรสชาติเปรี้ยว เบียร์ Trappist ที่มีสีน้ำตาลเข้ม และอีกมากมาย และที่ STELLA ARTOIS BREWERY TOUR ทัวร์โรงเบียร์สเตลล่าอาทัวส์แห่งนี้ จะทำให้คุณรู้จักเบียร์เบลเยี่ยมมากขึ้นและทำให้คุณหลงเสน่ห์ของเบียร์เบลเยี่ยมได้อย่างง่ายดาย
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยศตวรรษที่ 14 โรงเบียร์แห่งนี้เคยเป็นของ Den Hoorn มาก่อนและภายหลังถูกซื้อโดย Stella Artois จนกลายมาเป็นโรงเบียร์มรดกโลกมาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากเข้าข้างใน ได้รับฟังเรื่องราวความเป็นมาของโรงเบียร์แห่งนี้แล้ว ไกด์ก็จะนำคุณไปยังห้องบ่มเบียร์ขนาดใหญ่ โดยไกด์ได้อธิบายว่าการบ่มเบียร์นั้นคือการหมักน้ำ ยีสต์ ฮ็อปส์ (Hops) และวัตถุดิบอื่นๆเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดปฏิกิริยาร่วมกันจนกลายมาเป็นเบียร์บรรจุขวดที่เราดื่มกิน โดยในห้องบ่มเบียร์นี้ วัตถุดิบต่างๆจะถูกควบคุมอุณหภูมิอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ออกมาเป็นเบียร์ที่มีคุณภาพ
ถึงแม้จะเป็นโรงบ่มเบียร์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีมุมน่ารักบ้างไม่ได้ การตกแต่งภายในนั้นเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความขลังของ Stella Artois
เนื่องจากเบียร์นั้นประกอบด้วยวัตถุดิบไม่กี่ชนิด เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัตถุดิบ ที่ถึงแม้จะน้อยนิดแต่กลับทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมหาศาลเลยทีเดียว ที่นี่คุณจะได้รับความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบต่างๆที่นำมาหมักเบียร์และเรียนรู้ถึงขั้นตอนการผลิตเบียร์
มาถึงช่วงที่สนุกที่สุดของทัวร์คือการได้เข้าไปดูโรงงานขณะที่เครื่องจักรกำลังบรรจุเบียร์ลงขวด มองดูเบียร์ขวดแล้วขวดเล่าเลื่อนผ่านบนสายพานไปยังสถานีต่างๆเพื่อกระทำการบรรจุให้เสร็จสมบูรณ์ ยิ่งดูก็ยิ่งเพลิดเพลินพลางจินตนาการไปถึงเวลาที่เราดื่มเบียร์จากขวดเย็นๆชื่นใจ ยิ่งเป็นที่ Stella Artois เบียร์ที่เป็นที่ต้องการของโลกในปัจจุบันนี้ คุณคงจะไม่แปลกใจเลยกับปริมาณการผลิตที่มากมายจนนับไม่ถ้วน
นอกจากการผลิตเบียร์แล้ว ทาง Stella Artois ยังให้ความสำคัญในเรื่องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย โดยทำการลดปริมาณบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และด้วยนโยบายนีของบริษัททำให้ทางบริษัท Anheuser-Busch InBev (ABInBev) บริษัทแม่ของ Stella Artois นั้นได้รับรางวัล Excellence in Reusable Packaging Award ประจำปี 2018 จากสมาคม Reusable Packaging
มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอยนั่นก็คือช่วงชิมเบียร์นั่นเอง โดยมาที่บาร์ของ Stella Artois และรับเบียร์สดใหม่จากโรงบ่มมาดื่มให้ชื่นใจ นอกจากนั้นแล้วในฤดูหนาว คุณยังสามารถทดลองชิมเบียร์ Winter Edition จาก Leffe ได้อีกด้วย
แก้วเบียร์รูปร่างสวยงามนี้ ถูกยกมาเสิร์ฟพร้อมกับเบียร์สดใหม่ปริ่มแก้ว แค่เพียงจิบแรกที่จิบเข้าไปก็รู้สึกได้ถึงความสดชื่นที่ได้รับ บริเวณบาร์นั้น นอกจากเก้าอี้บาร์แล้วก็ยังมีโซฟาและที่นั่งอีกหลากหลาย ให้คุณได้นั่งจิบเบียร์อย่างสบายใจไร้กังวล
หลังจากสิ้นสุดการทัวร์โรงเบียร์สเตลล่าอาทัวร์แล้ว ก็ยังไม่จบลงแค่นั้น หากแต่ว่าทุกคนจะได้รับของที่ระลึกจากโรงเบียร์เพื่อนำกลับไปดื่มที่บ้าน เรียกได้ว่าประสบการณ์ครั้งนี้คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม และอย่าลืมนะว่าดื่มอย่างมีสติ พอดี และไม่มากจนเกินไป เพราะเดี๋ยวจะเกิดอันตรายได้
เรื่องและภาพ: Leona Fujii
แปล: Aphinya Kasemsukphaisan
ที่อยู่: Aarschotsesteenweg 20, 3000 Leuven, Belgium
เวลาทำการสำหรับทัวร์: วันเสาร์และอาทิตย์ รอบภาษาอังกฤษเริ่มตั้งแต่ 15:00 เป็นต้นไป (ปิดทุกวันที่ 23-24 และ 31 ธันวาคมและวันที่ 1 มกราคม)
การเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟจากสถานีรถไฟ Brussels (Midi, Central หรือ Nord) ไปยังสถานีรถไฟ Leuven ใช้เวลาประมาณ 25 นาทีและเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
ราคา: 8.50€ ต่อคน
***หมายเหตุ: สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ Visit Leuven - Brewery Stella Artois