ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง อากาศเริ่มเย็นลง ลมหนาวเริ่มโชยมาเป็นสัญญาณว่าเรากำลังจะก้าวเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเต็มตัว ในช่วงนี้ ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสี จากสีเขียวชอุ่มในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา กลายเป็นสีเหลืองหรือสีแดง เพื่อเตรียมตัวที่จะผลัดใบเหลือเอาไว้แต่กิ้งก้านที่ชี้ขึ้นสู่ท้องฟ้า เมืองทั้งเมืองจะกลายเป็นสีโทน Autumn ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างโรแมนติคอยู่ใช่เล่น การเดินไปตามท้องถนนท่ามกลางเหล่าใบไม้สีเหลืองทองร่วงหล่นอยู่ตามรายทาง ถ่ายรูปกันได้ไม่หยุดเลยล่ะ มาวันนี้เราจะมานำเสนอ 5 อันดับสวนสาธารณะในกรุงปารีส ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้จักกัน ลองมานั่งเล่น ปิคนิค หรือเดินสำรวจสวนกับเพื่อน ครอบครัว หรือแฟน ก็จะเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติคไม่เบาเลย
1. PARC MONCEAU
ที่แรกเลยคือสวน Monceau ตั้งอยู่ที่เขต 8 ของกรุงปารีส โดยสวนนี้นั้นเชื่อมต่อกับถนนใหญ่หลายเส้น นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Paris, je t'aime" หรือ "Paris, I love You" อีกด้วย โดยสวน Monceau นี้ เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นที่ตั้งของ Rotunda และ Pavilion เก่าแก่ สร้างโดยสถาปนิคชาวฝรั่งเศสชื่อดัง Claude-Nicolas Ledoux ในสมัยศตวรรษที่ 19
จะเห็นได้ว่ามีผู้คนออกมาปิคนิค หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งกันมากมาย โดยเฉพาะในวันที่อากาศดี
ที่อยู่: 35 Boulevard de Courcelles, 75008 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Monceau (สาย 2)
เวลาทำการ: 07:00-21:00
2. PARC DE BERCY
สวน Bercy แห่งนี้ ประกอบไปด้วย 3 สวนย่อยด้วยกันในเขต 12 ของกรุงปารีส โดยสวน Bercy นั้นตั้งอยู่เลียบแม่น้ำแซนเลยทีเดียว ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนั้น จะเป็น Bercy Village ซึ่งถ้าหากเดินเล่นหรือปิคนิคกันจนหนำใจกันแล้ว ก็สามารถเดินไปยัง Bercy Village ได้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย
สวน Bercy นั้นเต็มไปด้วยพืชพันธุ์มากมาย อย่างเช่นเจ้าต้น Willow ที่กำลังหยอกล้อกับน้ำในทะเลสาบอยู่
ที่อยู่: 128 Quai de Bercy, 75012 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Bercy (สาย 6 และ 14)
เวลาทำการ: 08:00-20:30
3. PARC MONTSOURIS
ในสมัยศตวรรษที่ 19 ชาวฝรั่งเศสใน Second French Empire ต้องการที่จะสร้างสวนสาธารณะ 4 สวนในตัวเมืองปารีส อันประกอบไปด้วย Bois de Boulogne ทางทิศตะวันตก Bois de Vincennes ทางทิศตะวันออก Parc des Buttes Chaumont ทางทิศเหนือ และ Parc Montsouris ทางทิศใต้ โดยสวน Montsouris แห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นเหมืองหินขนาดใหญ่ แต่ในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่า ต้นไม้ใบหญ้าอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีทะเลสาบที่ผู้คนมักจะมานั่งพักผ่อนหย่อนใจกัน เป็นความสงบเงียบที่หาได้ในกรุงปารีส
เลียบทะเลสาบจะมีม้านั่งไว้ให้ผู้คนที่สัญจรไปมาได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ เพลิดเพลินไปกับเสียงธรรมชาติรอบๆตัว
ที่อยู่: 2 Rue Gazan, 75014 Paris
การเดินทาง: Metro line 6 Glacière / RER B Cité universitaire
เวลาทำการ: 07:00-19:30
4. PARC DES BUTTES-CHAUMONT
สวน Buttes-Chaumont นี้แรกเริ่มเดิมทีนั้นเคยเป็นเหมืองแร่ยิปซัมและหินปูน อีกทั้งยังขึ้นชื่อว่าเป็นเนินเขาแห่งความสิ้นหวังอีกด้วย จนกระทั่งสมัยศตวรรษที่ 19 Haussmann ได้เลือกเอาสถานที่แห่งนี้มาใช้เป็นหนึ่งในพื้นที่หลักของกรุงปารีส ภายใต้การซ่อมแซมปรับปรุงของ Haussmann เขาได้เนรมิตให้เหมืองเก่าที่เคยดูสิ้นหวัง กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง จากที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นเนินเขาแห่งความสิ้นหวัง ตอนนี้ได้กลายมาเป็นเนินเขาที่เขียวขจี เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้อุดมสมบูรณ์ และยังมี Temple de la Sibylle ตั้งอยู่ที่ด้านบนของเนินเขาอีกด้วย
สวน Buttes-Chaumont นี้เต็มไปด้วยเนินเขามากมาย
ที่อยู่: 1 Rue Botzaris, 75019 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Buttes Chaumont (สาย 7) หรือสถานี Jourdain (สาย 11)
เวลาทำการ: 07:00-21:00
5. PARC DE BELLEVILLE
ถ้ากล่าวถึง Belleville หลายๆคนอาจจะนึกถึง China Town มากกว่าสวนสาธารณะ โดยเขต Belleville นั้นตั้งอยู่ที่เขต 20 ของกรุงปารีส ห่างออกไปไม่ไกลก็จะมีสวนสาธารณะเขียวขจีอันแสนสงบสุขตั้งอยู่ ในช่วงยุคกลาง เนินเขา Belleville นั้นอยู่ในครอบครองของราชวงศ์ฝรั่งเศส โดยถูกใช้งานเป็นไร่องุ่น นอกจากนั้นยังมี Bloody Battle การต่อสู้กับทหารจากประเทศรัสเซียเกิดขึ้นที่ Belleville อีกด้วยในช่วงศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันนี้ สวนแห่งนี้ถูกบูรณะขึ้นมาอีกครั้งอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นสถานที่ที่ผู้คนต่างมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด
ที่ด้านบนสุดของเนิน จะสามารถมองเห็นวิวเมืองปารีสได้ทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวลับๆเลยก็ว่าได้
ที่อยู่: 47 Rue des Couronnes, 75020 Paris
การเดินทาง: เมโทรสถานี Pyrénées (สาย 11) หรือสถานี Couronnes (สาย 2)
เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 08:00-21:30/ วันเสาร์และอาทิตย์ 09:00-21:30
เรื่องและภาพ: Che Fen OU YANG
แปล: Aphinya Kasemsukphaisan