VENICE เมืองเวนิส

ไข่มุกแห่งสายน้ำแห่งประเทศอิตาลี

VENICE (VENEZIA)

ช่วงเวลาที่น่าเที่ยว: ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณเดือนมีนาคมถึงตุลาคม)

จำนวนวันที่เหมาะสม: 1-2 วัน

การเดินทาง: การเดินทางมาที่เกาะเวนิสมาสารถเดินทางด้วยเรือสาธารณะเท่านั้น (Vaporetto) ราคา 7.50€ ต่อเที่ยว หรือ 20€ ต่อ 24 ชั่วโมง

 

เมืองเวนิส หรือ Venice นั้นตั้งอยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี เมืองเวนิสนั้นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกในฐานะเมืองกลางน้ำ และได้รับการขนานนามว่า “Pearl of the Adriatic Sea” อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมต่างๆมากมาย นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง The Italian Job และ The Tourist and 007: Casino Royale อีกด้วย

เมืองเวนิสนั้น ยังมีชื่อเสียงในอีกหลากหลายด้าน และหนึ่งในนั้นคือการที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่โรแมนติคที่สุดในโลก ด้วยความที่เป็นเมืองกลางน้ำ ตั้งอยู่บนเกาะ ทำให้เวนิสมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่ไม่เหมือนเมืองไหนๆในโลกนี้ สถาปัตยกรรมต่างๆ รูปปั้น โรงอุปราการ ทุกอย่างนี้ทำให้เมืองเวนิสกลายเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลเข้ามาเพื่อชื่นชมความสวยงาม

 

 

WHERE TO GO

ที่เวนิสนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเต็มไปหมดให้นักท่องเที่ยวได้แวะเวียนไปชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ หอระฆัง หรือพระราชวัง

 

ST. MARK'S SQUARE (PIAZZA SAN MARCO)

จัตุรัส St. Mark นั้นตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองเวนิส ครั้งหนึ่งจักรพรรดินโปเลียนแห่งประเทศฝรั่งเศสเคยกล่าวไว้ว่า ที่นี่เป็น “the most beautiful living room in Europe” หรือเป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในทวีปยุโรป จากจัตุรัสตรงนั้น จะสามารถมองเห็น Basilica di San Marco, Palazzo Ducale และ Campanile de Saint- Marc

ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น หากแต่เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย ตกเย็น ร้านอาหารเริ่มเปิดให้บริการ และมีเสียงเพลงและดนตรีสดดังอยู่ทั่วไปในบริเวณนั้น

 

ที่อยู่: Piazza San Marco, 30124, Venezia

การเดินทาง: ใช้บริการ water bus ไปยัง San Marco/San Zaccaria/Vallaresso

   

BRIDGE OF SIGHS  (PONTE DEI SOSPIRI)

Bridge of Sighs หรือสะพานถอนหายใจที่คนไทยเรียกกัน ตั้งอยู่ด้านหลังของพระราชวังดอจ์ด (Doge's Palace) เป็นสะพานที่มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนสะพานทั่วไป เพราะเป็นสะพานที่สร้างปิดทึบ เนื่องจากในอดีตนั้น สะพานนี้ถูกใช้เป็นสะพานที่ใช้ขนย้ายนักโทษไปยังเรือนจำ และที่มาของชื่อ Bridge of Sighs นั้นก็เพราะว่า ทุกครั้งที่นักโทษเดินข้ามสะพานนี้เพื่อเข้าไปยังเรือนจำ เหล่านักโทษจะถอนหายใจด้วยความเครียดและกังวลมากมาย นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อสะพานนั่นเอง

 

RIALTO BRIDGE (PONTE RIALTO)

ที่เมืองเวนิสนั้นมีสะพานมากมายอยู่ทั่วทั้งเมือง หากแต่สะพานหินสีขาวนี้เป็นสะพานที่มีชื่อเสียงมากที่สุด สืบเนื่องมาจากบทประพันธ์ของวิลเลียม เชกสเปียร์ (William Shakespeare) เรื่อง "The Merchant of Venice" ได้มีการกล่าวถึงสะพานแห่งนี้ โดยสะพานนี้ไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดถ่ายรูปที่ผู้คนนิยมมาถ่ายรูปมากที่สุดอีกด้วย อีกทั้งยังมีร้านขายของที่ระลึกมากมายมาวางขายของที่สะพานแห่งนี้

 

GRAND CANAL (CANAL GRANDE)

เมื่อขึ้นไปยินอยู่บนสะพานในบทประพันธ์อย่างสะพาน Rialto วิวด้านหน้าที่เห็นคือแกรนด์คาแนลหรือคลองเวนิส (Grand Canal of Venice) คลองใหญ่ที่แบ่งเมืองออกเป็น 2 ส่วน เมื่อได้ออกมายืนมองเวนิสในภาพใหญ่ๆอย่างนี้ จะเห็นได้ว่าเมืองนี้ยังคงมีศิลปิน นักประพันธ์ จิตรกร และนักดนตรีมากมาย แฝงตัวอยู่ในนักท่องเที่ยว กำลังทำการแสดงในสิ่งที่ตัวเองรักให้ผู้คนที่สัญจรไปมาได้รับชม

 

GONDOLA (GONDOLA)

และสัญลักษณ์ของเมืองเวนิสจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเรือกอนโดลา (Gondola) ที่มีรูปร่างไม่เหมือนเรือชนิดอื่นๆ ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาล่องเรือกอนโดลาชมเมืองเวนิส เรือกอนโดลาถูกใช้เป็นยานพาหนะหลักชาวเวนิส และย้อนกลับไปเมื่อสมัยศตวรรษที่ 11 เรือกอนโดลานั้นมีมากถึง 10,000 ลำด้วยกัน แต่ในปัจจุบันนี้มีจำนวนที่ลดน้อยลงอย่างมาก

 

เรือกอนโดลาโดยทั่วไปจะมีคนพายเรือที่แต่งตัวคล้ายกัน โดนจะสวมเสื้อลายทางบ่งบอกถึงความเป็นกะลาสีเรือ ระหว่างนั่งเรือชมเมืองเหล่ากะลาสีก็จะทำการร้องเพลงขับกล่อมเพิ่มความสุนทรีย์ให้แก่ลูกเรือของตน โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 80-100€ ต่อลำ นั่งได้ประมาณ 6 คน ใช้เวลาประมาณ 40 ต่อรอบ

 

WHAT TO EAT 

ประเทศอิตาลีเป็นประเทศที่ให้ความใส่ใจในอาหารเป็นอย่างมากและอาหารท้องถิ่นของแต่ละที่ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นอาหารท้องถิ่นของเมืองเวนิสนี้ ด้วยความที่เป็นเกาะ อาหารเวนิสจึงมีการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบบนบกและซีฟู้ดได้อย่างลงตัว

 

วัตถุดิบที่เห็นได้ทั่วไปตามร้านอาหารในเวนิสคือเนื้อแกะ เนื้อเป็ด และเนื้อลูกวัว อีกทั้งยังมีสปาเกตตี้ซอสหมึกดำที่ผู้คนนิยมรับประทานกัน รวมไปถึงล็อบสเตอร์ที่นำไปปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย

 

O'bon Paris' tip

ทุกๆเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีงานคานิวัลเกิดขึ้นที่เมืองเวนิส โดยผู้คนที่เข้ารวมในการแสดงจะสวมใส่หน้ากากที่เป็นอีกสัญลักษณ์สำคัญของเวนิส และแต่งตัวกันอย่างเต็มที่เพื่อเฉลิมฉลองในงานนั้นใครที่อยากซื้อหน้ากากคานิวัลกลับบ้าน หาซื้อได้ตามร้านขายของที่ระลึกทั่วไปในเวนิสได้เลย

 


เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan

ภาพ: Lexi WANG