CASA BATLLO

ใครที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวหรือเคยไปเที่ยวที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน คงจะไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ Antoni Gaudi หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ "เกาดี้" สถาปนิคชื่อดังที่มีผลงานให้เห็นอยู่หลายที่ในบาร์เซโลน่า บอกได้เลยว่าถ้ายังไม่ได้ไปดูสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดยเกาดี้ ถือว่ายังมาไม่ถึงบาร์เซโลน่า และเกาดี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บาร์เซโลน่ามีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา เนื่องจากสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดยเกาดี้มีลักษณะที่ไม่เหมือนใคร และคาซ่าบัตโล่ (Casa Batllo) ก็คือหนึ่งในนั้น

ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องหน้าตาปกติบนถนน Gracia จะมีตึกหนึ่งโดดเด่นออกมาจากตึกอื่นๆ โดยเจ้าตึกนี้ไม่ได้ถูกสร้างเป็นเส้นตรงเหมือนตึกอื่นๆทั่วไป หากแต่ว่ามีรูปทรงโค้งเหมือนคลื่น ตึกนี้อดีตเคยเป็นสมบัติของตระกูลบัตโล่ (Batllo) ผู้ที่ต้องการจะสร้างบ้านบนถนน Gracia ถนนเส้นหลักของกรุงบาร์เซโลน่า เพื่อต้องการโชว์ความร่ำรวยของตน

ที่คาซ่าบัตโล่มี Smart Guide รวมมาให้ในตั๋วแล้ว Smart Guide ประกอบไปด้วย Audio & Visual Guide เพียงใส่หมายเลขที่ปรากฏที่ต้องการจะรับฟังข้อมูล ก็จะมีเสียงเล่าเรื่องความเป็นมาของสถานที่นั้นๆรวมไปถึงภาพเคลื่อนไหวปรากฏอยู่บนหน้าจอด้วย

สถาปัตยกรรมไม่ธรรมดาโดยเกาดี้บนถนน Gracia

ด้วยเอกลักษณ์ของเกาดี้ ที่ต้องการสร้างสถาปัตยกรรมขึ้นมาโดยเลียนแบบรูปทรงธรรมชาติ ทำให้สถาปัตยกรรมของเขาไม่มีส่วนไหนที่เป็นเส้นตรงเลย สังเกตุได้จากห้องนั่งเล่นของตระกูลบัตโล่ที่ปรากฏอยู่ในภาพนี้

เมื่อมองผ่านหน้าต่างบานมหึมาออกไปด้านนอก จะเห็นถนน Gracia ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่สัญจรไปมา หน้าต่างบานใหญ่ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ตระกูลบัตโล่ต้องการเพื่อเป็นการแสดงถึงความร่ำรวยในยุคสมัยนั้น

อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างสำหรับเกาดี้เลยก็คือ ไฟ โดยเกาดี้ได้สร้างหน้าต่างบนหลังคาเอาไว้ในทุกๆห้อง รวมไปถึงห้องเล็กๆด้วย หน้าต่างบนหลังคาจะช่วยให้แสงธรรมชาติสามารถส่องลงมาที่ห้องได้ โดยที่หน้าต่างบนหลังตาก็สามารถเปิดได้เพื่อให้อากาศถ่ายเทมากยิ่งขึ้น

แหงนหน้าขึ้นไปมองที่ด้านบนของห้องนั่งเล่น จะมีเพดานรูปร่างเหมือนน้ำวน พร้อมกับโคมไฟอันมหึมาแขวนอยู่

ในส่วนของสวนหย่อม เกาดี้ได้แรงบันดาลใจมาจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยใช้เทคนิค Trencadis ที่มีลักษณะคล้ายกับเทคนิคโมเสค (Mosaic) ในการวางกระเบื้องหรือแก้วชิ้นเล็กๆ สีสันแตกต่างกันเพื่อให้เกิดเป็นภาพออกมา กระเบื้องและแก้วที่ถูกวางลงไปจะเกิดการล้อกับแสงแดดเมื่อพระอาทิตย์ส่องลงมา ทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงาม

ทุกๆชั้นตามขั้นบันไดเพื่อขึ้นไปชั้นบน จะมีห้อง 2 ห้องตั้งอยู่เสมอ สังเกตุที่ลูกบิดประตูของห้องเหล่านี้ที่หน้าตาไม่เหมือนลูกบิดประตูที่ไหนบนโลกนี้ นั่นเป็นเพราะเกาดี้ได้นำดินมาบีบเอาไว้ในกำมือของเขา แล้วนำมาทำเป็นลูกบิดประตู เพื่อให้ลูกบิดประตูนั้นเข้ารูปรับกับมือที่จะหมุนบิดประตูให้ได้มากที่สุด เห็นได้เลยว่าเกาดี้ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆนี้มากแค่ไหน 

ไม่ใช่แค่ลูกบิดประตูนี้เท่านั้น รายละเอียดต่างๆในตัวบ้านที่เกาดี้ออกแบบนั้นมีความหมายและจุดประสงค์เสมอ ไม่มีอะไรที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความบังเอิญ 

ไฮไลท์ของคาซ่าบัตโล่ก็คือหน้าต่างที่จะเล็กลงเรื่อยๆเมื่อขึ้นไปชั้นบน สีที่ใช้ตกแต่งมีสีเข้มขึ้น บวกกับแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาได้น้อยลงเรื่อยๆ สิ่งนี้ผ่านกระบวนการคิดจากเกาดี้มาเรียบร้อยแล้ว โดยเกาดี้ทำหน้าต่างที่เล็กลงและใช้กระเบื้องสีเข้มขึ้นในชั้นบนเพราะว่าชั้นบนจะได้รับแสงง่ายกว่าชั้นล่าง ในขณะที่ชั้นล่างที่ได้รับแสงน้อยกว่าด้านบนมากก็จะมีหน้าต่างบานใหญ่เพื่อเปิดรับแสงและมีการใช้กระเบื้องสีอ่อนเพื่อให้ตัวบ้านสว่างขึ้น

ตัวราวบันไดในภาพนั้นทำมาจากไม้โอ๊คคู่กับกับกระจกลายคลื่น เมื่อเดินไปตามทาง ไม้โอ๊คจะมีรูปร่างคล้ายกับเกลียวคลื่นที่ซัดขึ้นลงไปตามทาง 

ที่ด้านบนดาดฟ้า มียอดแหลมวางเรียงกันดั่งเช่นในภาพ เจ้ายอดแหลมเหล่านั้นคือปล่องไฟของบ้านที่กลายมาเป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้าน เกาดี้ใช้เทคนิค Trencadis เหมือนเดิมเพื่อสร้างชั้นดาดฟ้าให้สวยไม่แพ้ชั้นไหนๆ ถ้าหากคุณอยู่บนชั้นดาดฟ้าของตึกอื่นๆในบาร์เซโลน่าจะสังเกตุเห็นได้เลยว่าคาซ่าบัตโล่จะโดดเด่นออกมาจากตึกอื่นๆ  คาซ่าบัตโล่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1877 หรือกว่า 140 ปีมาแล้ว แต่มีอายุก็ไม่อาจทำปกปิดความโมเดิร์นและครีเอทีฟของเกาดี้ได้เลย

ชั้นดาดฟ้าด้านบนที่คาซ่าบัตโล่ สามารถขึ้นได้เฉพาะตั๋วบางชนิดเท่านั้น ถ้าอยากขึ้นไปด้านบนลองตรวจเช็คข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนออกเดินทาง

ร้านขายของที่ระลึกของคาซ่าบัตโล่นั้นค่อนข้างน่าสนใจ มีของที่ระลึกมากมายให้เลือกซื้อ รวมไปถึงตัวอักษรที่เกาดี้ออกแบบเอง เหมือนกันตัวอักษรที่ติดอยู่ด้านหน้าห้องตามชั้นบันไดต่างๆ บอกได้เลยว่าตัวอักษรเหล่านี้หาซื้อไม่ได้อีกแล้วนอกจากที่นี่

O'bon Paris' tip 

เวลามาเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ การได้รับรู้เรื่องราวความเป็นมาในอดีตจะทำให้สถานที่เหล่านั้นดูจะน่าสนใจขึ้นหลายเท่าตัว เหมือนเช่นที่คาซ่าบัตโล่นี้ ที่ถ้าหากได้รับรู้ความตั้งใจของเกาดี้ จะก่อให้เกิดความประทับใจเป็นอย่างมาก ข้อมูลทุกอย่างอยู่ใน Smart Guide แล้ว ถึงราคาค่าเข้าจะค่อนข้างสูง แต่ถ้าแลกกันกับสิ่งที่กำลังจะได้เห็นและประสบ ก็คือว่าคุ้มกับราคาที่จ่ายไป 

เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan

ภาพ: Yuna Lee