ในหุบเขาที่เต็มไปด้วยหิมะและความหนาวเย็นมีโรงแรมแห่งหนึ่งซ่อมตัวอยู่ ด้านหน้าโรงแรมเป็นวิวยอดเขาอันสวยงามอย่างยอดเขา Aiguille du Dru ที่ตั้งอยู่เคียงข้างกับยอดเขามงบล็องแห่งเทือกเขาแอลป์ (Mont-Blanc of Alps) ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีและธารน้ำแข็ง Mer de Glace ที่ทำหน้าที่โอบอุ้มความหนาวเย็นของธารน้ำเอาไว้ที่ระหว่างยอดเขา โรงแรมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1880 เพื่อรองรับนักปีนเขาโดยเฉพาะ โดยในสมัยนั้นมักจะมีนักปีนเขาขึ้นมาตรงนี้เพื่อไปชมธารน้ำแข็ง Mer de Glace จนปัจจุบันนี้ก็ยังมีนักปีนเขาและนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วทุกมุมโลก เดินทางมาที่เพื่อไปชมยอดเขาชาโมนิกซ์-มงบล็อง (Chamonix-Mont-Blanc) ลองไปดูกันอะไรคือความพิเศษของโรงแรม Terminal Neige - Refuge du Montenvers ที่ตั้งอยู่ที่ความสูง 6,725 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล
ปัจจุบันนี้คุณไม่จำเป็นที่จะต้องปีนเขาเพื่อขึ้นมาให้ถึงที่ Montenvers ที่ที่โรงแรมตั้งอยู่แล้ว หากแต่คุณแค่เพียงนั่งรถไฟข้ามเขามาเพียง 25 นาที ก็จะมาถึงที่สถานี Mer de Glace Chemin de fer du Montenvers ในชาโมนิกซ์-มงบล็อง ระหว่างทางคุณจะพบกับวิวเทือกเขาทอดยาวสลับกับหมู่บ้านเล็กๆมากมายที่จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อมาถึงที่โรงแรม ด้านหน้าโรงแรมจะเขียนว่า "Grand Hotel du Montenvers" หากแต่ว่าที่จริงแล้ว ชื่ออย่างเป็นทางการของโรงแรมคือ Terminal Neige - Refuge du Montenvers โดยชื่อนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวในอดีตที่มีเหล่านักปีนเขามากมายที่มักจะมานั่งพักเหนื่อยที่บริเวณนี้ ก่อนที่จะออกเดินทางต่อไป
ด้านในห้องพักของโรงแรม การตกแต่งจะเน้นไปทางสีเข้มของเฟอร์นิเจอร์และสีของไม้ที่เป็นวัสดุหลักภายในห้องพัก สีเข้มเหล่านี้ช่วยให้ห้องพักดูอบอุ่นขึ้นสวนทางกับหิมะที่ขาวสะอาดและอากาศที่หนาวเย็นด้านนอก บอกได้เลยหลายคนคงจะคาดไม่ถึงแน่ๆว่าจะมีโรงแรมสุดคลาสสิคตั้งอยู่ในหุบเขาแบบนี้ นับเป็นสถานที่ที่เพอร์เฟ็คสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันแสนสวยงาม
ในขณะที่ด้านนอกอากาศหนาวเย็น ไปแช่น้ำร้อนให้สบายตัวพลางชมวิวด้านนอก หรือว่าจะนั่งเล่นบนโซฟาที่ทางโรงแรมจัดไว้ในที่ริมหน้าต่าง พลางจิบชาหรือกาแฟร้อนๆสักแก้ว อ่านหนังสือเล่มโปรด หรือว่าจะวางแผนท่องเที่ยวของวันต่อไป
และที่เห็นอยู่นี่คือวิวจากหน้าต่าง! ยอดเขาและเทือกเขาแอลป์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนตัดกับท้องฟ้าสีครามในตอนกลางวัน และดาวที่ส่องประกายเต็มท้องฟ้าในตอนกลางคืน เจ้าวิวจากธรรมชาตินี่แหละที่จะทำให้การเข้าพักที่โรงแรมนี้ของคุณน่าจดจำได้ไม่รู้ลืม
นอกจากอ่างอาบน้ำแล้ว ทางโรงแรมยังมีห้องอาบน้ำฝักบัวไว้ให้บริการด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีของใช้จำเป็นอย่างสบู่ แชมพูจากแบรนด์ PURE ALTITUDE จัดเตรียมเอาไว้ให้ แบรนด์นี้มีส่วนประกอบหลักจากธรรมชาติจากทั้งพืชพันธุ์ ดอกไม้ และแร่ธาตุกว่า 70 ชนิด
ดินเนอร์ของทางโรงแรมประกอบไปด้วยจานเรียกน้ำย่อย จานหลัก และของหวาน ในสไตล์ฝรั่งเศส จานเรียกน้ำย่อยที่เห็นในภาพคือสลัดและซุป สำหรับจานหลักจะเป็นอาหารที่ชาวเทือกเขาแอลป์ (Alpine) นิยมรับประทานกันนั่นก็คือชีสฟองดูว์ (Cheese Fondue), Tartiflette, Roast Chicken และ Pot of the Day รับประทานอาหารชาวแอลป์เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศหนาวๆ และดูเหมือนว่าใครที่มาเข้าพักที่นี่จะต้องอาศัยอยู่กับความโดดเดี่ยวที่สวยงามนี้ด้วยความสมัครใจ เนื่องจากว่ารถไฟไม่เปิดให้บริการในช่วงเย็นและกลางคืน ด้วยเหตุนี้อาหารเช้าและอาหารเย็นจึงรวมอยู่ในแพ็คเกจห้องพักเรียบร้อยแล้ว
หลังจากคืนที่แห่งการพักผ่อนท่ามกลางหิมะสีขาวสะอาด ร้านอาหารก็เปิดให้บริการอีกครั้ง ต้อนรับคุณด้วยวิวพาโนราม่าของเทือกเขาแอลป์ที่ต่างจากตอนกลางคืนอย่างสิ้นเชิง ในตอนเช้าที่ท้องฟ้าเปิดกว้าง ก้อนเมฆต่างขยับตัวให้แสงแดดได้ส่องผ่านลงมาที่ยอดเขา ทำให้ภาพที่เห็นตรงหน้าสวยงามมากยิ่งขึ้น อาหารเช้าเป็นอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ มีทั้งขนมปัง ไข่ชนิดต่างๆ ชีส ผลไม้ และอื่นๆอีกมากมาย รับประทานอาหารเช้าพลางจิบกาแฟร้อนๆและชมวิวตรงหน้าไปพร้อมๆกัน บอกได้เลยว่าจะเป็นอาหารเช้าที่ดีที่สุดของคุณเลย
ภาพที่เห็นติดอยู่ที่หน้าประตูห้องเป็นภาพวาดของเหล่านักปีนเขา นักผจญภัย ศิลปิน และนักเขียนชื่อดัง ผู้ที่ต่างก็เคยมาเข้าพักที่โรงแรมนี้ทั้งสิ้น ประตูและภาพวาดเหล่านี้จะติดอยู่ที่หน้าห้องทุกห้อง เป็นตัวแทนของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระหว่างที่พวกเขาเหล่านี้มาเข้าพัก บอกได้เลยว่าถ้าหากคุณแค่แวะเวียนมาเที่ยวที่ Montenvers เพื่อมาชมธารน้ำแข็ง Mer de Glace แล้วจากไปโดยไม่เข้าพักที่นี่สักคืน คุณจะพลาดประสบการณ์ความสวยงามที่หาไม่ได้ที่ไหน นอกจากที่นี่
เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan
ภาพ: Jieun Ahn และ Jessy Cornu
ที่อยู่: Impasse du Montenvers, 74400 Chamonix-Mont-Blanc
การเดินทาง: นั่งรถไฟจากสถานี Mer de Glace Chemin de fer du Montenvers' ในชาโมนิกซ์-มงบล็อง