และแล้วฤดูร้อนที่ชาวปารีสรอคอยก็มาถึง แสงแดดอุ่นๆในยามเย็น สีทองของแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบแม่น้ำแซน (Seine) ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะจับมือ ควงแขนแก๊งเพื่อนซี้ไปตามหาร้านไอศกรีมอร่อยๆในปารีสกัน และเพื่อให้ภารกิจนี้ง่ายขึ้น เราได้เตรียมลิสต์ของร้านไอศกรีม รวมถึงรีวิวของร้านต่างๆถึง 10 ร้านมาให้ทุกคนได้ไปตามกัน ต้องบอกเลยว่าลิสต์ที่เราเตรียมมานั้นเต็มไปด้วยร้านไอศกรีมที่เลือกคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบชั้นดีเพื่อรสชาติไอศกรีมที่คุณจะประทับใจไม่รู้ลืม รสชาติของไอศกรีมนั้นก็มีให้เลือกหลากหลาย ไปดูกันว่ามีร้านไหนน่าสนใจและไม่ควรพลาดบ้าง
ความแปลกใหม่และรสชาติ ★★★★★ / บรรยากาศ ★★★★☆ / โลเคชั่น ★★★★★
La Fabrique Givrée เป็นร้านไอศกรีมที่เกิดจากความฝันของเพื่อนซี้ชายหนุ่มสามคนซึ่งหลงใหลในการคิดค้นและเสน่ห์ของไอศกรีมโฮมเมด La Fabrique Givrée ตั้งอยู่ในย่านการ์ตีเย ลาแตง (Quartier Latin) ใกล้กับ Pantheon และ สวนสาธารณะลักเซมเบิร์ก (Jardin du Luxembourg) ที่ร้านนี้ คุณจะได้พบกับไอศกรีมแบบโฮมเมดแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็น ซอร์เบท (Sorbet) ไอศกรีมรสชาติคลาสสิค หรือไอศกรีมรสชาติใหม่ๆซึ่งคิดค้นโดย La Fabrique Givrée ตัวอย่างเช่น ไอศกรีมที่มีส่วนผสมของหญ้าฝรั่น ไอศกรีมที่มีส่วนผสมของธัญพืชคั่ว ไอศกรีมที่มีส่วนผสมของชมพู่ ไอศกรีมรสแอปริคอทและลาเวนเดอร์ ไอศครีมกลิ่นมิ้นท์และโหระพาฝรั่ง และไอศกรีมรสองุ่นผสมพีช เป็นต้น นอกจากรสชาติต่างๆที่ได้กล่าวมานั้น ทุกๆสัปดาห์ La Fabrique Givrée จะคิดค้นไอศกรีมรสชาติใหม่ๆเพื่อรอเซอร์ไพร้คุณ โดยเเคมเปญนี้มีชื่อเรียกว่า "parfum éphémère" ช่วงที่ทีมงานของ O'bon Paris ไปชิมไอศกรีมที่ร้านนี้ เราได้ลิ้มลองรสชาติของซอร์เบทเชอร์รี่ซึ่งเป็นเมนูประจำสัปดาห์ แว่วมาว่าในสัปดาห์ถัดไป La Fabrique Givrée จะมีไอศกรีมซึ่งมีส่วนผสมของเบียร์เป็นเมนูประจำสัปดาห์ พลาดไม่ได้จริงๆ
เมื่อสั่งไอศกรีม คุณสามารถเลือกได้ว่าอยากเพิ่มทอปปิ้งด้วยถั่วชนิดต่างๆ เช่น พีแคนเคลือบคาราเมล
รสชาติของไอศกรีมได้รับการคอนเฟิร์มจากทีมงาน O'bon Paris ว่าควรค่าต่อการลิ้มลองจริงๆ นอกจากนี้ La Fabrique Givrée ยังได้รับการการันตีจาก Gault & Millau ซึ่งเป็นเว็บไซต์แนะนำร้านอาหารชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศสว่าเป็นร้านไอศกรีมที่รสชาติดีที่สุดในฝรั่งเศส
ที่ตั้ง: 26 Rue Soufflot, 75005 Paris
การเดินทาง: RER สาย B เลือกลงที่สถานี Luxembourg
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์และวันอาทิตย์ 12:30-21:00 / วันอังคารถึงวันพฤหัสบดี 12:30-22:00 / วันศุกร์และวันเสาร์ 12:30-23:00
รสชาติและความแปลกใหม่ ★★★★★ / บรรยากาศ ★★★★★ / โลเคชั่น ★★★★★
ร้านไอศกรีมสัญชาติเลบานอนนี้ เราได้รับคำแนะนำมาจากเพื่อนๆชาวปารีสว่าต้องไปลองให้ได้ สถานที่ตั้งของร้านอยู่ใกล้กับศูนย์แสดงผลงานศิลปะ Pompidou (Pompidou Center) ด้วยรถชาติที่แสนอร่อยและเนื้อไอศกรีมที่เนียนนุ่ม จึงไม่แปลกเลยที่จะได้เห็นผู้คนมายืนรอคิวตลอดทั้งวันเพื่อลิ้มลองไอศกรีมรสเด็ดนี้ ร้านไอศกรีมนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1936 ด้วยความตั้งใจของครอบครัว Bashir ที่ต้องการผลิตไอศกรีมออร์แกนิคจากส่วนผสมของที่มาจากธรรมชาติ 100% รวมไปถึงกรรมวิธีที่ที่สืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่น จึงไม่แปลกเลยที่ Glacier Bachir จะได้รับความนิยมอย่างมาก
สำหรับไอศกรีมโคนสามสกู๊ปดังที่เห็นในภาพนั้น คุณสามารถเลือกไอศกรีมได้ไม่จำกัดรสชาติ แต่ถ้าจะให้เราแนะนำเมนูขึ้นชื่อ ก็คงต้องพูดถึงไอศกรีมเนื้อครีมนุ่มที่มีกลิ่นของกลีบกุหลาบ (pétale de rose) และไอศครีมที่มีนมและพิสตาชิโอเป็นส่วนผสม และอีกหนึ่งเมนูที่พลาดไม่ได้นั่นคือ Ashta ซึ่งเป็นครีมที่มีกลิ่นและรสชาติของดอกส้มเคลือบด้วยถั่วพิสตาชิโอบดดังที่เห็นในภาพ ถ้าต้องการชิมรสชาติเต็มๆเเท้ของ Glacier Bachir เราขอแนะนำให้เพิ่มทอปปิ้งวิปครีมโฮมเมดดังที่เห็นในภาพ
ที่ตั้ง: 58 Rue Rambuteau, 75003 Paris
การเดินทาง: เมโทรสาย 11 เลือกลงที่สถานี Rambuteau / เมโทรสาย 4 เลือกลงที่สถานี Étienne Marcel /เมโทรสาย 1, 4, 7, 11, 14, RER A, B, D เลือกลงที่สถานี Châtelet-Les Halles
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ถึงวันศุกร์, วันอาทิตย์ 12:00-22:30 / วันเสาร์ 12:00-23:00
รสชาติและความแปลกใหม่ ★★★★☆ / บรรยากาศ ★★★★☆ / โลเคชั่น ★★★★★
ร้าน Grom มีสาขาอยู่ 4 สาขาทั่วกรุงปารีส โดยทุกสาขาของ Grom นั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ง่ายต่อการเดินทางไม่ว่าจะเป็น สาขาใกล้สวนสาธารณะลักเซมเบิร์ก (Luxembourg garden) สาขาเซนต์มิเชล (Saint Michel) สาขาชาเตอเล่ (Chatelet) และสาขามาเคร่ (Marais) ร้าน Grom เน้นการตกแต่งที่เรียบง่ายให้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย
Grom มีไอศกรีมให้เลือกหลากหลาย สามารถเลือกได้ว่าต้องการทานไอศกรีมแบบถ้วย แบบโคนชอคโกแลตหรือแบบแท่ง นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มปั่นหรือเฟรปเป้ให้บริการอีกด้วย ใครที่สนใจอยากลอง granita หรือของหวานแบบเกล็ดน้ำแข็งสไตล์อิตาลีก็สามารถมาลองได้ที่ Grom เมนูเด็ดของร้านนี้ที่ห้ามพลาด คือ ไอศกรีมรสพิสตาชิโอ ซึ่งเป็นรสชาติแรกเริ่ม จุดกำเนิดของ Grom ก็ว่าได้ รสชาติของถั่วมีความเข้มข้น เเละในขณะเดียวกันเนื้อครีมก็มีความนุ่ม เนื้อนวลสุดๆ อีกรสชาติหนึ่งที่พนักได้แนะนให้เราลองคือ รสมะพร้าวที่เราคุ้นเคยนั่นเอง
ที่ตั้ง: 19 Rue Soufflot, 75005 Paris
การเดินทาง: Metro line RER B Luxembourg / line 10 Cluny-La Sorbonne
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 11:00-23:00 / วันอาทิตย์ 11:00-22:00
รสชาติและความแปลกใหม่ ★★★★☆ / บรรยากาศ ★★★☆☆ / โลเคชั่น ★★★★★
Gelati d'Alberto นับว่าเป็นร้านเจลาโตที่ดีที่สุดในปารีส รสชาติที่ห้ามพลาดคือ ไอศกรีมรสพิสตาชิโอ ซึ่งใช้ถั่วที่นำเข้ามาจากเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี จึงมั่นใจได้ว่าวัตถุดิบที่นำมาใช้นั้เต็มไปด้วยคุณภาพ รสชาติของไอศกรีมก็อร่อยสุดๆ รวมไปถึงเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มอย่าบอกใคร ร้าน Gelati d'Alberto ตั้งอยู่บนถนน Mouffetard ในย่านการ์ติเย่ ลาเตง (Quartier Latin)นอกจากรสชาติคลาสสิคแล้ว คุณยังจะได้พบกับไอศกรีมรสโมิจิโต (mojito), รสคินเดอร์ (Kinder chocolate), ไอศกรีมรสมะพร้าว และไอศกรีมกลิ่นกุหลาบ หากใครที่ชื่นชอบทานไอศกรีมโคน Gelati d'Albertoจะยิ่งทำให้คุณประทับใจด้วยการเสิร์ฟไอศกรีมในรูปทรงดอกไม้ดังที่เห็นในภาพด้านบน
อีกเรื่องหนึ่งที่เราอยากเขียนเตือนทุกคน คือ ที่ร้านนี้รับเฉพาะเงินสดเท่านั้น และไอศกรีมที่ร้านนี้จะเป็นไอศกรีมเทคอะเวเท่านั้น กล่าวง่ายๆคือ ร้าน Gelati d'Alberto ไม่ได้จัดเตรียมที่นั่งไว้ให้ ดังนั้นหลังจากซื้อไอศกรีมเเล้ว เราขอแนะนำให้เดินเล่นในย่านการ์ติเย่ ลาเตง เพื่อความเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศและรสชาติของไอศกรีม
ที่ตั้ง: 45 Rue Mouffetard, 75005 Paris
การเดินทาง: เมโทรสาย 7 เลือกลงที่สถานี Place Monge
เวลาเปิด-ปิด: วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 13:00 - 00:00
รสชาติและความแปลกใหม่ ★★★★★ / บรรยากาศ ★★★☆☆ / โลเคชั่น ★★★★☆
La Paleteria เป็นร้านไอศกรีมสไตล์เม็กซิกันร้านแรกๆในปารีส ขุมทรัพย์ร้านลับแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านมาเคร่ (Marais) คอนเซ็ปต์สำคัญของการสร้างสรรค์ไอศกรีมร้านนี้คือ การคิดค้นไอศกรีมที่ปราศจากสารปรุงแต่งสังเคราะห์ หรือสีผสมอาหารใดๆ รวมถึงเน้นไปที่การใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ เช่น ผลไม้เกรดสดคุณภาพดี
สีสันของไอศกรีมในร้านมีส่วนอย่างมากในการเย้ายวนให้คุณอยากลิ้มลองรสชาติไอศกรีมจากร้านนี้ ไอศกรีมที่ร้านนี้มีให้เลือกมากมาย เช่น ไอศกรีมรสกีวี่ ไอศกรีมรสส้มแดง (red-orange) ไอศกรีมรสสับปะรดผสมมิ้นต์ ไอศกรีมรสเสารส ไอศกรีมรส Acai Berry ไอศกรีมรสแตงโม และอื่นๆอีกมากมาย รสชาติที่แตกต่างจากที่อื่นก็คงจะเป็น ไอศกรีมรสอะโวคาโด ไอศกรีมรสเกาลัด ไอศกรีมรสชีส strachiatella และไอศกรีมรสคาราเมลมัคคิอาโต หรือใครที่ชอบความแปลกใหม่ เราขอแนะนำไอศกรีมที่มีรสชาติของคอกเทลโมจิโต, pina colada และ Brazilian caipirinhas ซึ่งมีส่วนผสมของแอลกอฮล์แท้ๆเพิ่มเข้าไป
สำหรับใครที่ชอบการทานไอศกรีมแบบเเท่ง ต้องบอกเลยว่าการทานไอศกรีมจะสนุกยิ่งขึ้นเมื่อคุณสามารถเลือกที่จะเคลือบชอคโกแลตให้กับไอศกรีมแท่งโปรดไม่ว่าจะเป็นดาร์ค หรือไวท์ชอคโกแลต พร้อมทั้งสามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้ด้วยบิสกิตชิ้นเล็กๆหรือชอคโกแลตเอ็มแอนด์เอ็ม
ที่ตั้ง: 4 Street Ecouffes, 75004 Paris
การเดินทาง : เมโทรสาย 1 เลือกลงที่สถานี Saint-Paul
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 12:00-23:00
รสชาติแลความแปลกใหม่ ★★★★☆ / บรรยากาศ ★★★☆☆ / โลเคชั่น ★★★★☆
Scaramouche ตั้งอยู่ในย่านมงมาร์ต (Montmartre) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและเป็นสถานที่ที่ชาวปารีสมักมาใช้เวลาว่างเพื่อการพักผ่อน แน่นอนว่าการเดินชมสถานท่องเที่ยวในย่านนี้อาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยอยู่บ้าง ดังนั้นไอศกรีมเย็นๆสักถ้วยคงจะช่วยได้เยอะทีเดียว Scaramouche คือตัวเลือกที่ดีสำหรับในวันที่อากาศร้อนๆ ร้านไอศกรีมแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติไอศกรีมแบบเจลาโตอิตาเลียนที่ไม่เหมือนใคร จากการสอบถามเจ้าของร้าน ทีมงาน O'bon Paris ก็ได้รับคำแนะนำว่าต้องลองเมนูเด็ดอย่าง ไอศกรีมรสมะนาวและโหระพาฝรั่ง (lemoney basil) ไอศกรีมกลิ่นดอกชบา (hibiscus) และไอศกรีมรสส้มจี๊ด (kumquat) หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบความท้าทายและหลงรักการลิ้มลองอะไรใหม่ๆ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดไอศกรีมที่ร้านนี้
อย่างที่บอกว่าร้านไอศกรีมแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านท่องเที่ยว ดังนั้นนอกจากจะได้พบกับไอศกรีมรสชาติอร่อยแล้ว เดินต่อไปเรื่อยๆคุณจะได้พบกับกำแพงบอกรัก หรือ JE T'AIME wall รวมไปถึงร้าน Héritage Laulhère ซึ่งเป็นจุดจำหน่ายหมวกเบเร่ต์คุณภาพดี ผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญชาวฝรั่งเศส การเดินชิมไอศกรีม ชื่นชมบรรยากาศของปารีส และชอปปิ้งของฝากน่าจะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน
ที่ตั้ง: 22 Rue la Vieuville, 75018 Paris
การเดินทาง : เมโทรสาย 12 เลทอกลงที่สถานี Abbesses
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี 12:30-19:30 / วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ 12:30-23:00
รสชาติและความแปลกใหม่ ★★★★☆ / บรรยากาศ ★★★☆☆ / โลเคชั่น ★★★★★
Berthillon ก่อตั้งขึ้นในปี 1954 โดย Raymond Berthillon ด้วยระยะเวลาที่เปิดมายาวนาน ร้านไอศกรีมแห่งนี้จึงได้รับการการันตีว่ามีชื่อเสียงที่สุดในปารีส ไอศกรีม Berthillon มีทั้งหน้าร้านเป็นของตัวเองและยังจัดจำหน่ายไอศกรีมให้กับร้านอาหารและร้านกาแฟต่างๆในปารีสด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะเซ็นต์หลุยส์ (Île Saint Louis) เราขอแนะนำให้คุณตามไปชิมไอศกรีมจากหน้าร้าน Berthillon เนื่องจากจะมีรสชาติให้เลือกมากกว่าในร้านอาหาร ไอศกรีมที่ร้านนี้มีให้เลือกมากกว่า 70รสชาติให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นรสชาติคลาสสิคทั่วไป หรือรสชาติเฉพาะของ Berthillon เช่น ไอศกรีมรสนมอัลมอนต์ ไอศกรีมรสช็อคโกแลต gianduja หรือไอศกรีมรสขนมปังขิง
ที่ตั้ง : 29-31 Rue Saint-Louis en l'Île, 75004 Paris
การเดินทาง : เมโทรสาย 7 เลือกลงที่สถานี Sully-Morland / เมโทรสาย 1 เลือกลงที่สถานี Saint-Paul
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคารถึงวันอาทิตย์ 10:00-20:00 (ปิดทุกวันจันทร์)
รสขาติและความแปลกใหม่ ★★★★☆ / บรรยากาศ ★★★☆☆ / โลเคชั่น ★★★★☆
Pozetto ตั้งอยู่ในย่านมาเคร่ (Marais) ซึ่งมักจะแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวและชาวปารีส แต่ Pozetto ตั้งอยู่บนถนนที่เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย สัญลักษณ์ของร้านเป็นตัวอักษรที่น้ำเงินสว่างบนพื้นหลังสีขาวซึ่งนำเสนอถึงบรรยากาศที่ผ่อนคลาย คุณสามารถเลือกนั่งทานไอศกรีมได้ภายในร้านหรือจะเดินมาสั่งไอศกรีมได้ที่หน้าต่างเล็กๆที่อยู่ด้านข้างร้านเพื่อเทคอะเวก็ได้เช่นกัน
ไอศกรีมที่ Pozetto เป็นไอศกรีมเจลาโตแบอิตาเลียน รสชาติของเจลาโตก็จะเป็นรสชาติคลาสสิคเช่น ไอศกรีมถั่วพิสตาขิโอ ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ ไอศกรีมชอคโกแลต ไอศกรีมรสกาแฟ ไอศครีมรสนม และอื่นๆอีมากมาย รสชาติของไอศกรีมหวานกลมกล่อม มาพร้อมเนื้อครีมที่นวล นุ่มลิ้น ร้านไอศครีมนี้ตั้งอยู่ใกล้กับร้านอาหาร L'as du falafel ดังนั้นเราขอแนะนำให้รับประทานอาหารที่ร้าน L'as du falafel แล้วปิดท้ายด้วยของหวานอย่างไอศครีมที่ Pozetto ร้านไอศครีมแห่งนี้เปิดตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน ดังนั้นใครที่กำลังมองหาร้านนั่งเล่น นั่งคุยทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน บอกเลยว่าไม่ควรพลาด
ที่ตั้ง : 39 Rue du Roi de Sicile 75004 Paris
การเดินทาง : เมโทรสาย 1, 11 เลือกลงที่สถานี Hôtel de Ville / เมโทรสาย 1 เลือกลงที่สถานี Saint Paul
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี, วันอาทิตย์ 12:15-00:00 / วันศุกร์ และวันเสาร์ 12:15-00:30
.JPG)
รสชาติและความแปลกใหม่ ★★★★☆ / บรรยากาศ ★★★★☆ / โลเคชั่น ★★★★★
La Glacerie เป็นร้านขนมหวานซึ่งมีเจ้าของเป็นแชมเปี้ยนในการแข่งขันขนมหวานระดับโลกในปี 2006 เขาผู้นี้มีชื่อว่า David Wesmaël ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านมาเคร่ (Marais) ใกล้กับห้างสรรพสินค้า และศูนย์แสดงศิลปะ Pompidou ภายในร้านมีที่นั่งอยู่ประมาณ 10 ที่นั่ง ดังนั้นหากใครที่เหนื่อยจากการชอปปิ้ง หรือเดินเที่ยวในเมืองก็สามารถมานั่งพักทานไอศกรีมและของหวานกันได้ที่ร้านนี้
ถ้ามองดูในภาพจะเห็นว่าหน้าตาของขนมนั้นช่างเย้ายวนใจเสียเหลือเกิน ไอศกรีมที่นี่มีให้เลือกทั้งที่เป็นไอศครีมนมหรือเจลาโต ซึ่งมีสีสันและรูปร่างที่สวยงามมาก ไอศกรีมและของหวานทุกชิ้นสร้างสรรค์บนพื้นฐานของศิลปะการประกอบอาหารแบบฝรั่งเศส นอกจากรูปลักษณ์ของขนมที่น่าตื่นตาตื่นใจเเล้ว ร้าน La Glacerie ยังมีตัวเลือกไอศกรีมคลาสสิคทั่วไปให้ทุกคนได้ลิ้มลองกัน เมนูแนะนำคือไอศกรีมกลิ่นมะม่วงวานิลลา ซึ่งเป็นไอศกรีมที่ทำให้ David Wesmaël ได้รับชัยชนะจากการแข่งขัน รสชาติความหวานของมะม่วงบวกกับกลิ่นหอมของวานิลลาทำให้ไอศกรีมนี้แตกต่างจากไอศกรีมอื่นๆ
ที่ตั้ง : 13 rue du Temple 75004 Paris
การเดินทาง : เมโทรสาย 1, 11 เลือกลงที่สถานี Hôtel de Ville
เวลาเปิด-ปิด : วันพุธถึงวันอาทิตย์ 13:00-20:00 / ปิดทุกวันจันทร์และวันอังคาร
รสชาติและความแปลกใหม่ ★★★★☆ / บรรยากาศ ★★★★★ / โลเคชั่น ★★★★★
Les Glaces du Palais ตั้งอยู่ในพืิ้นที่ของ Palais Royal ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดฮิต ถ้าใครพอเคยเห็นผ่านตาคงจะจำได้ถึงภาพของเเท่นกลมๆลายทาง ตั้งอยู่ด้านหน้าอาคาร Palais Royal ใกล้ๆกับสถานที่แห่งนี้นี่เอง คุณจะได้พบกับร้านไอศกรีม Les Glaces du Palais ร้านไอศกรีมนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เคยเป็นร้านขายเครื่องประดับ ตัวร้านตกแต่งด้วยสไตล์อบอุ่นและยังคงรักษาป้ายสัญลักษณ์ที่ให้ความรู้สึกถึงประวัติศาสตร์ที่มีมายาวนาน และความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตไอศกรีมของร้าน
ไอศกรีมของเด่นของร้านคือ ‘sorbet plein fruit’ ที่ใช้ผลไม้แท้ในการสร้างสรรค์เมนูผสมผสานกับวัตถุดิบอื่นๆที่เลือกสรรค์มาอย่างดี ภายในร้านมีที่นั่งสำหรับรับรองลูกค้าที่มาเยี่ยมเยียน และในช่วงฤดูร้อนก็จะมีการจัดที่นั่งด้านหน้าร้านเพิ่ม เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับแสงแดดจากพระอาทิตย์ ใครที่่ชื่นชอบ Emki Pop ก็สามารถมาหาซื้อได้ที่ร้านนี้ ไอศกรีมอร่อยๆสักถ้วย พร้อมกับการถ่ายรูปที่ด้านหน้า Palais Royal บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงปารีสในฤดูร้อนแบบนี้
ที่ตั้ง : 30 Galerie de Montpensier Jardin du Palais Royal 75001 Paris
การเดินทาง: เมโทรสาย 1, 7, 8 เลือกลงที่สถานี Palais Royal Musée du Louvre
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 12:00-22:00 / ปิดทุกวันอาทิตย์
เรื่อง : Supawadee Pinkhao
ภาพ: Olga, Youra, Yuka