อนุสรณ์สถานยุทธการวอเตอร์ลู 1815

เรียนรู้เส้นทางประวัติศาสตร์ยุโรป

ประเทศเบลเยี่ยมนี้เรียกได้ว่าเป็นทางแยกของวัฒนธรรมยุโรป โดยสงครามวอเตอร์ลูปี 1815 นับเป็นอีกหนึ่งสัญญะสำคัญ และเพื่อเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์จึงมีการจัดตั้งอนุสรณ์สถานนี้ขึ้น ในสงครามครั้งนั้นมีทหารเข้าร่วมถึง 200,000 นายจาก 7 ประเทศ และยังมีการสูญเสียกว่าทหารกว่า 50,000 ภายใน 1 วัน "Memorial 1815" หรือ "อนุสรณ์ 1815" จึงได้ถูกสร้างขึ้นในปี 2015 ในโอกาสครบรอบ 200 ปีของสงครามวอเตอร์ลู 

จากทางเข้าของอนุสรณ์ 1815 นี้ คุณสามารถเดินขึ้นไปยังเนินเขารูปปั้นสิงโต หรือ "Butte du Lion" ได้โดยใช้บันได 226 ขั้น ซึ่งเนินเขาเล็กๆนี้ที่มีความสูงอยู่ที่ 40 เมตร

รูปปั้นสิงโตนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ Prince of Orange หรือพระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 2 เเห่งเนเธอร์แลนด์ (1792-1849) ซึ่งได้รับบาดเจ็บก่อนจากสงครามก่อนขึ้นครองราชย์ในปี 1840 ถึง 1849

พื้นที่รอบๆอนุสรณ์ได้รับการสงวนเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงทำให้สามารถชื่นชมวิวแบบพาโนรามาได้จากมุมสูง 

ภาพด้านบนเป็นภาพของแผนที่แสดงสนามรบในช่วงของสงครามเพื่อช่วยให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้เข้าใจเเละเห็นภาพของสถานการณ์ในอดีตมากขึ้น

ย้อนเวลากลับไปปี 1815 ด้วยภาพยนตร์ 4 มิติ

ที่อนุสรณ์สถานเเห่งนี้ มีการจัดแสดงนิทรรศการหลากหลายรูปแบบที่ช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับสมรภูมิวอเตอร์ลูและจักรพรรดินโปเลียนผู้ยิ่งใหญ่ การเดินชมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงโดยรวม

ภายในภาวะสงครามในดินแดนยุโรป จักรพรรดินโปเลียนได้ทำการสละราชสมบัติในปี 1814  และถูกเนรเทศออกไปยังเกาะเอลบา (Elba)  ซึ่งเหตุมาจากการที่กลุ่มมหาอำนาจในยุโรปได้ทำการตกลงที่จะจัดระเบียบการปกครองใหม่ในการประชุมสภาคองเกรสแห่งเวียนนา (Congress of Vienna) ต่อมาในวันที่ 1 มีนาคม ปี 1815 นโปเลียนก็ลักลอบเข้ามาที่ฝรั่งเศสอีกครั้ง โดยใช้เส้นทางกอล์ฟฆวน (Golfe-Juan) เพื่อมุ่งหน้าเข้ามายังกรุงปารีส

ไฮไลท์สำคัญของอนุสรณ์แห่งนี้ คือ ภาพสี่มิติ เรื่อง "At the heart of the Battle"  โดย Gerard Corbiau เรื่องราวในภาพยนต์มีเนื้อหาตรึงใจเเละอธิบายเหตุการณ์ในสงครามได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากนี้ยังมีส่วนของร้านค้าของที่ระลึก มีทั้งดีวีดี รูปปั้นขนาดเล็กสำหรับตั้งโชว์ รวมไปถึงพรมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อจากประเทศเบลเยี่ยม

O'bon Paris' tip

อุปกรณ์บรรยายหรือออดิโอไกด์ มีให้เลือกหลายภาษา ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส ดัตช์ และเยอรมัน ซึ่งถ้าใครต้องการก็สามารถขอรับได้ฟรี (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ปี 2019) ถ้าจะเดินให้ทั่วทั้งภายในอาคารเเละเยี่ยมชมรูปปั้นสิงโตด้านนอก รวมถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ใกล้เคียง นั้นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

เรื่อง : Supawadee Pinkhao

ภาพ :  Leona Fujii