เมื่อพูดถึงการซื้อของฝากในปารีส ความหลากหลายของตัวเลือก ตั้งแต่ของกระจุกกระจิกที่เป็นมิตรกับงบประมาณ ไปจนถึงสินค้าหรูหราระดับสูง อาจทำให้รู้สึกท่วมท้นได้ บทความนี้เราจะเน้นไปที่ขนมหวานฝรั่งเศสที่น่าลิ้มลองซึ่งเป็นของฝากที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะสำหรับตัวคุณเองหรือเพื่อน ๆ ขนมเหล่านี้แต่ละชิ้นมีความเป็นเอกลักษณ์ของประเพณีที่มีมานานหลายศตวรรษ และผลิตขึ้นในหลากหลายภูมิภาคของฝรั่งเศส ซึ่งสะท้อนถึงความเป็น "ศิลปะการใช้ชีวิต" แบบฝรั่งเศส นอกจากจะอร่อยแล้ว ขนมเหล่านี้ยังมีการบรรจุอย่างสวยงาม ทำให้เป็นของที่ระลึกที่น่าสนใจ ขนมส่วนใหญ่มีอายุการเก็บรักษายาวนาน (อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุ) และด้วยราคาที่เริ่มต้นเพียงไม่กี่ยูโรจนถึงไม่เกิน 30 ยูโร ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมในการซื้อของฝากสำหรับครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน.
เราได้คัดสรรขนม 15 อย่างจากชั้น 6 ของ Galeries Lafayette ซึ่งเป็นแหล่งรวมของที่ระลึกจากฝรั่งเศสและปารีส ที่นี่มีขนมหวานฝรั่งเศสและผลิตภัณฑ์อาหารชั้นเลิศมากมาย นอกจากนี้ หากคุณซื้อสินค้าที่ Galeries Lafayette คุณยังสามารถใช้สิทธิพิเศษของเราได้ (คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม)
ที่อยู่: 40, Boulevard Haussmann 75009 Paris
การเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 7, 9 สถานี Chaussée d'Antin-La Fayette / รถไฟใต้ดินสาย 3, 7, 8 สถานี Opéra / รถไฟใต้ดินสาย 12 สถานี Trinité / รถไฟ RER สาย A สถานี Auber / รถไฟ RER สาย E สถานี Haussmann-St Lazare
เวลาเปิดทำการ: วันจันทร์-วันเสาร์ 10:00-20:00 / วันอาทิตย์และวันหยุด 11:00-20:00
แยมเกาลัดฝรั่งเศสหรือที่เรียกว่า Crème de Marrons เป็นแยมที่หอมหวานนุ่มนวลที่มีกลิ่นหอมของเกาลัด เป็นที่รักในอาหารฝรั่งเศส ทำจากการเคี่ยวเกาลัดกับน้ำตาลและวานิลลาช้าๆ จนได้เนื้อครีมเนียนนุ่ม สามารถเพลิดเพลินได้หลายวิธี ไม่ว่าจะทาขนมปัง ใส่ในโยเกิร์ต หรือใช้เป็นไส้ขนม แยมเกาลัดฝรั่งเศสนำความรู้สึกของชนบทฝรั่งเศสมาสู่ทุกคำ ผลิตในภูมิภาค Ardèche โดยแบรนด์ Clément Faugier ถือเป็นของฝากอร่อยและราคาไม่แพงที่ควรนำกลับมาจากฝรั่งเศส
กาลิสซงเป็นขนมที่มีความละเอียดอ่อนและเป็นเอกลักษณ์ของแคว้นโพรวองซ์ในฝรั่งเศส ขนมทรงเพชรนี้ทำจากอัลมอนด์บดละเอียด เมลอนหวานเชื่อม และเปลือกส้ม รวมกันกับน้ำดอกส้มเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม บนหน้าขนมปิดด้วยไอซิ่งบางๆ ทำให้เนื้อสัมผัสนุ่มนวลและเคี้ยวเพลิน รสชาติหอมหวานและละมุน มักจะนำมาทานในโอกาสพิเศษ ขนมกาลิสซงไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของมรดกอาหารโพรวองซ์ที่หรูหรา แต่ยังเป็นของหวานที่ให้ความรู้สึกสง่างามสไตล์ฝรั่งเศสอีกด้วย Le Roy René เป็นแบรนด์กาลิสซงที่มีชื่อเสียงจาก Aix-en-Provence ซึ่งโด่งดังในด้านคุณภาพและรสชาติอันเยี่ยมยอด
คาราเมลเนยเค็มจากฝรั่งเศสเป็นขนมหวานที่ผสมผสานความเข้มข้นของเนยครีม น้ำตาล และเกลือทะเลเล็กน้อยได้อย่างลงตัว รสชาติมีความหวานที่สมดุลกับความเค็มเนียนๆ ซึ่งเนยเค็มช่วยเพิ่มความลึกของรสชาติ ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มละลายในปาก ขนมนี้มักจะรับประทานเองหรือใช้เพิ่มความอร่อยให้กับขนมอื่นๆ คาราเมลเนยเค็มฝรั่งเศสเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนถึงความชำนาญด้านขนมของชาวฝรั่งเศส และมักจะบรรจุในกล่องไม้ที่สวยงาม
ช็อกโกแลตร้อนจาก Angelina ในปารีสเป็นช็อกโกแลตร้อนที่โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นและรสชาติช็อกโกแลตที่ลุ่มลึก ตั้งแต่ปี 1903 ช็อกโกแลตร้อนของ Angelina กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราสไตล์ปารีส โดยเป็นที่ดึงดูดทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่ห้องน้ำชาประวัติศาสตร์ใกล้สวน Tuileries ตอนนี้คุณสามารถเพลิดเพลินกับช็อกโกแลตร้อนจาก Angelina ได้ที่บ้าน ด้วยช็อกโกแลตในขวดสูตรพิเศษ เพียงแค่อุ่นใน bain-marie ที่อุณหภูมิต่ำ คุณก็จะได้ช็อกโกแลตร้อนแบบดั้งเดิมที่ทำให้นึกถึงวันหยุดในปารีส
เลส์ อานิส เดอ ฟลาวินญี เป็นลูกอมฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมที่ผลิตในหมู่บ้าน Flavigny-sur-Ozerain แคว้นบูร์กอญ มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ลูกอมนี้ทำจากเมล็ดโป๊ยกั๊กเคลือบน้ำตาลหลายชั้น ทำให้ได้ลูกอมกลมเล็กๆ ที่กรอบและมีรสชาติเหมือนชะเอมหวาน กระบวนการผลิตใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์ โดยเมล็ดโป๊ยกั๊กจะถูกเคลือบด้วยน้ำเชื่อมในถังหมุนค่อยๆ จนได้ลูกอมที่กรอบหวานตามแบบฉบับ ลูกอมนี้มีรสหวานอ่อนๆ และกลิ่นหอม นอกจากนี้ยังมีรสชาติต่างๆ เช่น มินต์ ไวโอเลต กุหลาบ และน้ำดอกส้ม ซึ่งยังคงรักษาวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน
ปาเลต์เบรอตงเป็นคุกกี้เนยแบบดั้งเดิมจากแคว้นบริททานีและนอร์มังดีที่มีรสเนยเข้มข้นและเนื้อสัมผัสกรอบร่วน คุกกี้เหล่านี้ทำจากส่วนผสมที่เรียบง่าย เช่น เนยเค็ม แป้ง น้ำตาล และไข่แดง มีสีทองสวยงามและละลายในปาก แบรนด์ La Mère Poulard ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดังใกล้ Mont Saint-Michel ผลิตคุกกี้ปาเลต์คุณภาพสูง บรรจุในกล่องสวยงามที่มีภาพวาด Mont Saint-Michel
Marrons Glacés คือเชสต์นัทที่นำไปเชื่อมในน้ำเชื่อมและเคลือบน้ำตาล ขนมนี้มีต้นกำเนิดในฝรั่งเศสตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 แคว้น Ardèche เป็นแหล่งผลิต Marrons Glacés ที่มีชื่อเสียง เชสต์นัทเคลือบน้ำตาลมีเนื้อนุ่ม ละลายในปาก ด้วยความหวานจากน้ำเชื่อมและรสชาติเชสต์นัทที่ลึกซึ้ง มักนิยมรับประทานในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ Marrons Glacés เป็นขนมที่หรูหราและมักใช้เป็นของขวัญ
มาการองแบบดั้งเดิมนี้แตกต่างจากมาการองปารีสที่เรารู้จักมากกว่า มาการองแบบดั้งเดิมมีลักษณะภายนอกที่แตกร้าวและมีเนื้อในที่นุ่ม เคี้ยวหนึบ ทำจากอัลมอนด์บด น้ำตาล และไข่ขาว โดยไม่มีการใส่ไส้ครีมหรือกานาช ขนมนี้มักพบในเมือง Nancy, Saint-Jean-de-Luz และ Amiens ที่มีสูตรสืบทอดกันมายาวนาน
นูกัตเป็นขนมพื้นบ้านของแคว้นโพรวองซ์ ทำจากน้ำผึ้ง น้ำตาล ไข่ขาว และถั่ว เช่น อัลมอนด์หรือพิสตาชิโอ นูกัตขาวจาก Montélimar มีเนื้อสัมผัสนุ่มและใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงเช่นน้ำผึ้งลาเวนเดอร์ ส่วน Nougat Noir หรือ นูกัตดำ ทำจากน้ำตาล น้ำผึ้ง และถั่ว โดยไม่มีไข่ขาว ทำให้เนื้อแข็งและกรอบกว่า มีรสชาติหวานคาราเมลเข้มข้นจากน้ำตาลและถั่วคั่ว
Gaufre จากภาคเหนือของฝรั่งเศส โดยเฉพาะแคว้น Lille และ Flanders เป็นวาฟเฟิลที่มีรสเนยเข้มข้นและเนื้อสัมผัสนุ่ม มักรับประทานพร้อมน้ำตาลไอซิ่ง หรือใส่ไส้ เช่น น้ำตาล vergeoise บางแบรนด์อย่าง La Dunkerquoise ผลิต Gaufres คุณภาพสูงและบรรจุในกล่องดีไซน์ดั้งเดิม
บิสกิตสีชมพูจากแร็งส์เป็นบิสกิตดั้งเดิมจากแคว้น Champagne มีรสชาติหวานเบาและกรอบ มักเสิร์ฟคู่กับแชมเปญ บิสกิตนี้ผ่านการอบสองครั้งทำให้มีความกรอบ และมีสีชมพูอ่อนจากการใส่สีหรือเคลือบน้ำตาล บิสกิต Rose de Reims มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ถือเป็นส่วนหนึ่งของมรดกอาหารฝรั่งเศส
แน่นอนว่าการพูดถึงของหวานจากฝรั่งเศสต้องไม่ลืมช็อกโกแลต ใน Galeries Lafayette มีพื้นที่สำหรับผู้ผลิตช็อกโกแลตชั้นนำเช่น Jean-Paul Hévin, Alain Ducasse, และ Pierre Marcolini นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ช็อกโกแลตบรรจุกล่อง เช่น Le Chocolat des français, Maison Boissier, Lindt, และ Angelina
Sablés เป็นคุกกี้แบบดั้งเดิมของฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงในเรื่องของรสชาติที่เข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่กรอบร่วน คำว่า "sablé" มาจากภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า "ทราย" ซึ่งอธิบายถึงเนื้อสัมผัสที่ร่วนและละลายในปาก คุกกี้ชนิดนี้มีต้นกำเนิดจากภูมิภาค Sablé-sur-Sarthe โดยทำจากวัตถุดิบง่ายๆ เช่น แป้ง เนย น้ำตาล และไข่ โดยปกติจะไม่มีสารช่วยให้ขึ้นฟู ทำให้ได้เนื้อคุกกี้ที่กรอบร่วนและละเอียดอ่อน แบรนด์ดังอย่าง La Sablésienne จากเมือง Sablé-sur-Sarthe เป็นที่รู้จักในการทำคุกกี้ sablés แบบฝีมือช่าง ซึ่งมีหลากหลายรสชาติ เช่น วานิลลา ช็อกโกแลต และอัลมอนด์ ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของเนื้อคุกกี้ที่กรอบร่วนตามแบบฉบับดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี
ด้วยความหลากหลายของขนมหวานที่มีมากมาย แน่นอนว่าคุณต้องมีชาคู่ใจเพื่อให้เวลาแห่งการจิบน้ำชายิ่งสมบูรณ์แบบ Mariage Frères เป็นโรงน้ำชาและแบรนด์ชาชั้นนำของฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักในเรื่องชาหรูหรามาตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1854 ในกรุงปารีส แบรนด์นี้มีชื่อเสียงในด้านส่วนผสมที่พิถีพิถันและชาหลากหลายชนิดคุณภาพสูงจากทั่วทุกมุมโลก เช่น ชาดำ ชาเขียว ชาขาว และชาอู่หลง รวมถึงชาที่มีกลิ่นพิเศษเฉพาะ Mariage Frères มีความชำนาญในการสร้างสรรค์ชาที่สะท้อนถึงภูมิภาค ช่วงเวลา หรืออารมณ์ โดยมีชาในตำนานอย่าง Marco Polo และ Thé à l’Opéra เป็นตัวเด่น ใน Galeries Lafayette คุณจะพบชุดชา Mariage Frères ที่หรูหรา เหมาะเป็นของฝากจากปารีส
ในบรรดาชาฝรั่งเศสคุณภาพสูงที่หาได้จาก Galeries Lafayette เราต้องพูดถึงชา Nina's Marie-Antoinette ด้วย Thé Marie-Antoinette จากแบรนด์ชาชื่อดัง Thé Nina’s เป็นส่วนผสมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์และความงามดั้งเดิม ชา Marie-Antoinette แบบดั้งเดิมเริ่มผลิตครั้งแรกในปี 1776 โดยนำกลีบกุหลาบมาผสมกับแอปเปิ้ล เพื่อสร้างสรรค์ชาแบล็คทีที่ผสมกลิ่นของดอกกุหลาบ แอปเปิ้ล และน้ำผึ้ง ซึ่งให้รสชาติหอมละมุน และแฝงความหวานบางเบา ชานี้เป็นของขวัญที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักชาและแฟนตัวยงของพระนางมารี อ็องตัวแนตต์
Articles and photos by O'bon Paris Team